อดีตบัณฑิตม.รามคำแหงเจ๋งแปลงโฉมหัวไชเท้าเป็นผลิตภัณฑ์เสริมความงาม ลูกค้าต่างชาติชื่นชอบ

ในท้องตลาดบ้านเรา ส่วนใหญ่ผลิตภัณฑ์เสริมความงามและเครื่องสำอางต่างๆ ล้วนทำมาจากพืช ผัก ผลไม้ และสมุนไพรนานาชนิด วันก่อนไปงานแสดงสินค้าของกรมการพัฒนาชุมชน ที่ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ มีอยู่เจ้าหนึ่งทำจากหัวไชเท้า ซึ่งน่าสนใจมาก เพราะไม่เคยเห็นมาก่อน แถมยังได้โอท็อป 5 ดาวของจังหวัดสมุทรสาครในปีนี้ ชื่อแบรนด์ มิสโคโค่ (Miss CoCo) ปรากฏว่ามีลูกค้าเข้าไปสอบถามและซื้อติดไม้ติดมือกลับไปหลายราย

โตในครอบครัวแพทย์แผนไทย

“คุณสราญจิต จนิษฐ” เจ้าของผลิตภัณฑ์ครีมออร์แกนิกแบรนด์มิสโคโค่ เล่าว่า หลังจากจบปริญญาตรี คณะมนุษยศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้ศึกษาเพิ่มทางด้านแพทย์ทางเลือก เกี่ยวกับด้านสมุนไพรไทย สาเหตุที่มาทำธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์เสริมความงาม เพราะมีความสนใจด้านสมุนไพรมาตั้งแต่เด็ก เนื่องจากคุณตาเป็นแพทย์แผนไทย ประกอบกับตัวเองเป็นคนผิวแพ้ง่าย จึงคิดผลิตครีมใช้เองในครอบครัว โดยศึกษาวิธีการผลิต ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551

พร้อมทั้งได้เริ่มทำแจกจ่ายให้คนรู้จักใช้ และเริ่มขอมาตรฐานต่างๆ โดยสมุนไพรพอกหน้าที่ทำจากดินสอพองได้เข้าคัดสรรเป็นสินค้าโอท็อป 5 ดาว ในปี 2555 ต่อมาได้ขยายตลาดจนเป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น ผลิตภัณฑ์ทุกตัวผ่านการจดแจ้งเครื่องสำอางจากกระทรวงสาธารณสุข และได้รับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) จากกระทรวงอุตสาหกรรม

img_8554

ทั้งนี้ สินค้าแบรนด์มิสโคโค่ ที่ผลิตขายมีตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่ที่ขึ้นชื่อของมิสโคโค่ เป็นครีมหัวไชเท้า ใช้ทาตอนกลางคืน เนื้อครีมผลิตจากน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น น้ำมันงาสกัดเย็น น้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าวสกัดเย็น ที่อุดมไปด้วยวิตามินอีจากธรรมชาติ มีสรรพคุณช่วยลดฝ้า กระ จุดด่างดำจากสิวไปในตัวเดียวกัน ขนาดกระปุก 35 กรัม ราคา 180 บาท นอกจากนี้ ยังมีโลชั่นหัวไชเท้า ครีมกล้วยทามือเท้าแตก ครีมสารส้มทารักแร้ สมุนไพรขมิ้นแต้มสิว แชมพูใบย่านาง ใช้ปลูกผม สบู่ผสมน้ำผึ้งต่างๆ

ในการนำหัวไชเท้ามาเป็นส่วนประกอบในการทำผลิตภัณฑ์ต่างๆ คุณสราญจิต อธิบายว่า ความจริงผู้หญิงไทยรู้จักสรรพคุณของหัวไชเท้าเป็นอย่างดีว่ามีส่วนช่วยในการลดฝ้า กระ และรอยดำ เป็นภูมิปัญญาตั้งแต่โบราณ แต่ข้อเสียของการใช้สดๆ คือหัวไชเท้าจะกัดหน้า ทำให้แสบแดง สมุนไพรมิสโคโค่จึงได้นำภูมิปัญญาไทยมาต่อยอดทำเป็นครีมหัวไชเท้า โดยใช้หัวไชเท้าที่ปลูกเองเป็นออร์แกนิก สามารถใช้ได้ทุกวัน สะดวกกว่าการใช้หัวไชเท้าสดๆ และไม่กัดหน้า สามารถใช้ได้ทุกเพศทุกวัย เป็นกลุ่มคนรักสุขภาพ แพ้สารเคมี หรือเจอสารเคมีสะสมมาเป็นเวลานาน

หัวไชเท้าสรรพคุณเพียบ

ทั้งนี้ http://prayod.com ระบุสรรพคุณของหัวไชเท้าไว้ว่า มีวิตามินและเกลือแร่ที่จำเป็นต่อร่างกายหลายชนิด ได้แก่ วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบี 9 ไนอะซิน โฟเลต แคลเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม ทองแดง แมกนีเซียม นอกจากนี้ ยังประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรต เส้นใยอาหาร และโปรตีน ตามตำรับยาจีนนำหัวไชเท้าช่วยขจัดสารพิษ ล้างพิษในร่างกาย ช่วยละลายเสมหะจากปอด เจ็บคอ แก้ไข้หวัด ส่วนตำรับยาไทยนิยมนำรากหัวรักษาไข้หวัด ช่วยละลายเสมหะ รักษาอาการท้องอืด กระหายน้ำ บรรเทาอาการเจ็บคอ และทำให้ช่วยเจริญอาหาร

หัวไชเท้ายังถูกนำมาปรุงเป็นยารักษาไข้หวัดได้ผลดี และหัวไชเท้ายังมีเอนไซม์ เช่น อะไมเลส (Amylase) เอสเทอเรส (Esterase) ไดแอสเทส (Diastase) ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่สามารถกระตุ้นการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย ช่วยในกระบวนการย่อยอาหารโดยเฉพาะแป้งและไขมัน นอกจากนี้ ยังสามารถช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและบำรุงผิวพรรณอีกด้วย

หัวไชเท้ามีวิตามินซี ฟอสฟอรัส และสังกะสี รวมถึงวิตามินบีคอมเพล็กซ์ ซึ่งล้วนแต่มีประโยชน์ต่อผิวพรรณ ส่วนน้ำในหัวไชเท้ายังช่วยคงความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ส่วนใหญ่นิยมนำมาบดหรือปั่น เพื่อทำความสะอาดผิวหน้า ซึ่งจากข้อมูลพบว่าหัวไชเท้าสามารถช่วยป้องกันสิวและลดรอยฝ้า กระ ได้ผลค่อนข้างดี

นอกจากแบรนด์มิสโคโค่จะมีจุดเด่นในการนำหัวไชเท้ามาเป็นวัตถุดิบแล้ว จุดเด่นอีกอย่างคือ เป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก อย่างที่คุณสราญจิตให้ข้อมูลว่า ผลิตภัณฑ์ของมิสโคโค่ทุกตัวผลิตจากพืชออร์แกนิก ไม่ใช้สารเคมีในการปลูก ทางกลุ่มปลูกเองตามธรรมชาติและสกัดเอง จึงมั่นใจได้ว่าไม่ผ่านสารเคมีตกค้างใดๆ และสูตรครีมที่ใช้ เป็นสูตรของครีมออร์แกนิก โดยตั้งต้นครีมจากน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นที่ทางกลุ่มสกัดเอง ไม่ใช้สารเคมีในการตั้งต้นครีมเหมือนยี่ห้อทั่วไปตามท้องตลาด จึงเหมาะกับคนผิวแพ้ง่าย ไม่มีน้ำหอม แต่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ จากน้ำมันใบชา จึงใช้ได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัยจากสารเคมี

img_8526

ลุยตลาดส่งออก

พูดถึงการทำตลาด เจ้าของแบรนด์มิสโคโค่เล่าว่า ปีนี้มิสโคโค่เน้นตลาดส่งออกเป็นหลัก ที่ผ่านมาได้รับออร์เดอร์ทั้งจากประเทศจีน กัมพูชา และลาว มีเสียงตอบรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะประสิทธิภาพของสินค้า และมีตัวแทนจำหน่ายหลักๆ ในประเทศจีนและกัมพูชา

ส่วนการขายภายในประเทศไทยใช้วิธีออกงานแสดงสินค้าตามงานโอท็อปทั่วประเทศ และเปิดรับตัวแทนจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งลูกค้าที่ใช้แล้วเห็นผลต่างสมัครเป็นตัวแทนจำหน่ายเพราะนอกจากได้ซื้อในราคาที่ถูกลงแล้วก็ยังสามารถขายและมีรายได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย อีกทั้งยังขายผ่านออนไลน์ สามารถสั่งซื้อได้ที่ LINE ID : pompom666 หรือ Facebook : https://m.facebook.com/PomMissCoCo/ หรือโทรสั่งซื้อได้ที่ (087) 913-7380 มีบริการส่งไปรษณีย์ให้ฟรีทั่วประเทศ

เธอว่า ปัญหาของทางกลุ่มคือ เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ สินค้าบางตัวมีอายุแค่ 1 ปีเท่านั้น เพราะไม่ใช้สารเคมีในการผลิต จึงต้องผลิตใหม่ตลอด ไม่ให้ค้างสต๊อกเยอะ เน้นความสดใหม่ ประเภทผลิตไปขายไป เป็นครีมสดใหม่ เพื่อถึงมือลูกค้าแบบมั่นใจ

img_8522

คุณสราญจิต ระบุว่า ในการทำตลาดของแบรนด์นั้น ไม่เคยโฆษณาสินค้าอะไร แต่ลูกค้าโฆษณาให้เอง เป็นการผลิตสินค้าตามความต้องการของผู้บริโภคที่มีปัญหา เช่น มีฝ้าแดด กระ จุดดำจากสิว เป็นสิวเรื้อรัง สิวฮอร์โมน ผมร่วง หัวล้าน รักแร้ดำ มีกลิ่นตัว ส้นเท้าแตก มือแตกหยาบกร้าน เป็นต้น จึงค่อนข้างตอบโจทย์ลูกค้า และได้รับการสั่งซื้อต่อเนื่องแบบปากต่อปาก

“เราไม่เคยมองคนอื่นคือคู่แข่ง เพราะของเราเป็นครีมจากธรรมชาติ สูตรตั้งต้นครีมทำมาจากน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ซึ่งแตกต่างจากครีมทั่วไปตามท้องตลาด กลุ่มคนที่ซื้อ เป็นกลุ่มคนที่รักสุขภาพ สนใจในที่มาของผลิตภัณฑ์ และด้วยราคาที่ไม่แพง จึงมีลูกค้าอุดหนุนตลอด” คุณสราญจิต กล่าวและว่า ครีมออร์แกนิก ตลาดยังไปได้ดี ตราบใดที่ผู้หญิงยังไม่หยุดสวย ครีมหัวไชเท้าสามารถตอบโจทย์ ให้กับคนที่มีปัญหาที่ไม่อยากเสี่ยงกับสารเคมี และต้องการทางแก้ มิสโคโค่จึงเป็นตัวเลือกหนึ่ง”

ใครที่ได้เห็นหน้าแม่ค้าที่ชื่อ “สราญจิต” แล้ว รับรองเป็นต้องซื้อผลิตภัณฑ์ของมิสโคโค่แน่ เพราะหน้าตาเธอสดใสเกลี้ยงเกลา ดูอ่อนเยาว์กว่าอายุจริงเยอะเลย