“บ้านตลาดพลู” โฮสเทลคาเฟ่จากตึกเก่า100ปี ไอเดียเก๋ของอดีตเจ้าของร้านอาหาร

ปัจจุบันการทำธุรกิจแนวโฮสเทลกำลังได้รับความนิยม กลายเป็นธุรกิจในฝันของใครหลาย ๆ คน เมื่อพิจารณาถึงสิ่งที่จะทำให้เจ้าของธุรกิจอยู่รอดนั้น จำต้องอาศัยความโดดเด่นและเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพื่อเป็นจุดขายให้ลูกค้า

“เส้นทางเศรษฐีออนไลน์” มีโอกาสมาเยือน “บ้านตลาดพลู” โฮสเทลเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในชุมชนเก่า ย่านตลาดพลู ที่เจ้าของเกิดไอเดียเก๋ ๆ รีโนเวตตึกเก่าอายุ 100 ปี ให้เป็น โฮสเทลพร้อมคาเฟ่นั่งดื่มสุดชิลล์

คุณอรพิน วิไลจิต หรือ คุณจิ๋ม เจ้าของบ้านตลาดพลู เล่าว่า เดิมทีเธอไม่ใช่คนตลาดพลูโดยกำเนิด และเคยเปิดร้านอาหาร ชื่อ pub & restaurant เพียงแต่เคยมาเที่ยวตลาดพลูครั้งแรก แล้วเจอบ้านที่ปิดรกร้างนานหลายสิบปีหลังนี้ ก็รู้สึกถูกชะตา ประกอบกับกิจการร้านอาหารมาถึงจุดอิ่มตัว เลยปิดร้านอาหารไป และผุดไอเดีย ซื้อบ้านเก่ามารีโนเวทเป็นโฮสเทลกึ่งคาเฟ่ นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของ “บ้านตลาดพลู” นั่นเอง

คุณอรพิน วิไลจิต หรือ คุณจิ๋ม เจ้าของบ้านตลาดพลู

คุณจิ๋มให้ฟังต่อว่า “กว่าจะมาเป็นบ้านตลาดพลูไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะบ้านหลังนี้มีอายุนานหลายร้อยปีสภาพเก่าทรุดโทรมตามกาลเวลา ทำให้การติดต่อเจ้าของเดิมเพื่อขอซื้อเป็นเรื่องยากมาก เราต้องใช้เวลาเกือบ 5 เดือนกว่าบ้านนี้จะเป็นของเรา”

บ้านหลังนี้เดิมที เป็นสถานีรถไฟตลาดพลู ถูกสร้างมาจากการมอบที่ ในสมัยรัชกาลที่ 5 ท่านได้นำหัวรถจักรเข้ามาใช้ เพื่อเปิดเศรษฐกิจระหว่างมหาชัยไปตลาดพลู โดยผู้ปลูกสร้างเป็นคหบดีชื่อ คุณชื่น มัฆวิบูลย์ ช่วงนั้นได้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 พอดี คุณชื่นจึงมอบบ้านให้ คุณชิน เสริบุตร ที่มีอ่าชีพเป็นหมอทหาร ซึ่งคุณชินได้ใช้บ้านหลังนี้ เป็นศูนย์บัญชาการเพื่อรักษาคนบาดเจ็บ และสุดท้ายคุณจิ๋ม ก็กลายมาเป็นเจ้าของลำดับที่ 3 ต่อจากหมอชิน

สำหรับแนวคิดของการนำบ้านมารีโนเวตใหม่ โดยให้ข้างบนเป็นโฮสเทลและข้างล่างเป็นคาเฟ่นั้น เกิดจากความคิดที่ว่า เธอถูกปลูกฝังมาจากคุณพ่อว่า “การจะลงทุนกับบ้านสักหลังควรทำธุรกิจประกอบไปด้วย”

ถามถึงรายได้คุณจิ๋มเล่าว่า โฮสเทล มีห้องพักแบ่งออกเป็น 2 แบบ ห้อง family room สามารถพักได้ 4 ท่าน ราคา 1600 บาท พร้อมห้องน้ำในตัว อีกแบบหนึ่งเป็นห้องรวมเตียง ราคา  350 บาท รายรับไม่หวือหวามาก ส่วนคาเฟ่ก็มีรายได้ไม่เยอะมากนัก ถ้าเทียบกับร้านในระแวกที่ขายได้วันละหลักหมื่นกัน แต่อาศัยทำแล้วมีความสุข ทำแล้วตนเองสบายใจก็พอ ไม่คิดอะไรมาก เพราะเธอรู้ว่าการทำธุรกิจแบบนี้ต้องค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นคนไทยที่อยู่ในกรุงเทพฯ

บรรยากาศห้องพักแบบรวมเตียง
คาเฟ่ด้านล่าง

“ประมาณเดือนเมษาฯ พี่จะเปิดคาเฟ่อย่างเป็นทางการ เริ่มเปิดตั้งแต่เที่ยงถึงบ่าย เฉพาะวันเสาร์หรืออาทิตย์ในแต่ละสัปดาห์ ฉะนั้นต้องโทรมาจองล่วงหน้าก่อน จะได้เตรียมเซตเมนูอาหารและขนมหวานราคาไม่แพงรองรับได้”  คุณจิ๋มกล่าวทิ้งท้าย

หากสนใจใช้บริการโฮสเทล หรือไปนั่งคาเฟ่ชิลๆ สามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทรศัพท์(089) 449-7858 หรือ เฟซบุ๊ก Baan TalatPhlu – บ้านตลาดพลู