ปลุกกระแส “ขจัดพิษดิจิตอล” ร้านค้าระดมส่วนลด-โปรโมชั่น จูงใจงดใช้มือถือ

ปลุกกระแส “ขจัดพิษดิจิตอล”  ร้านค้าระดมส่วนลด-โปรโมชั่น จูงใจงดใช้มือถือ

เดินไปไหนมาไหนก็เห็นแต่คนใช้โทรศัพท์มือถือ รอรถก็หยิบมาเล่นเกม ระหว่างเดินก็ยังแชต ไปรับประทานข้าวกับครอบครัวก็ต่างคนต่างโซเชียล

สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่ในไทย แต่ผู้คนทั่วโลกกำลังเข้าสู่สังคมก้มหน้า และเสพติดมือถือมากขึ้น ในบางกรณีอาการรุนแรงจนต้องรับการบำบัด

ผลการสำรวจในปี 2560 ของ “เคาน์เตอร์พอยต์ รีเสิร์ช” บริษัทที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยี พบว่า ราวครึ่งหนึ่งของผู้ใช้สมาร์ตโฟนหมดเวลาไปกับหน้าจอสี่เหลี่ยม 3-7 ชั่วโมง ต่อวัน นอกจากนี้ ยังมีผลการศึกษาชี้ว่า เทคโนโลยีมือถือมีแนวโน้มทำให้ผู้คนขาดสมาธิในการมีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง อีกทั้งยังเชื่อมโยงกับสุขภาพจิต เช่น ความกังวล ภาวะซึมเศร้า

เหล่านี้ทำให้ภาคธุรกิจเริ่มหันมาใส่ใจปลุกกระแสขจัดพิษดิจิตอล หรือ ดิจิตอล ดีท็อกซ์ มากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร ซึ่งเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมเหล่านี้

ร้าน “ซูชิ เลาจน์” ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ของสหรัฐอเมริกา ชวนลูกค้าเก็บมือถือไว้ในถังแช่ไวน์ แลกกับส่วนลด 20 เปอร์เซ็นต์ ทั้งค่าอาหารและเครื่องดื่ม เพราะทางร้านหวังให้ลูกค้าพักวางจากมือถือชั่วคราว

ซูชิ เลาจน์ ริเริ่มโปรโมชั่น Reconnect Tuesday มาตั้งแต่เมื่อ 4 ปีก่อน โดยเลือกช่วงค่ำวันอังคารที่ลูกค้าน้อย ซึ่งก็ทำให้จำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้น แต่ทางร้านก็ยอมยกเว้นให้ลูกค้าถ่ายภาพสำหรับโพสต์ในสื่อสังคมออนไลน์ เพราะเป็นการช่วยโปรโมตร้านไปในตัว

ลูกค้ารายหนึ่งบอกว่า ไอเดียนี้เป็นเรื่องที่ดี การบังคับให้ออกห่างจากมือถือเสียบ้าง ทำให้บนโต๊ะอาหารมีบทสนทนาที่ดี

เช่นเดียวกับร้านอาหารอิตาเลียน “Lebro’s” ในนครนิวยอร์กที่ให้ส่วนลด 10 เปอร์เซ็นต์ ในวันอาทิตย์ สำหรับผู้ที่ยอมเก็บมือถือไว้ในตะกร้าขนมปังจนกว่าจะรับประทานเสร็จ

ส่วนร้านอาหาร “เปอตีต์ ฌาร์แดง” ในฝรั่งเศส มีนโยบายปลอดมือถือ โดยลูกค้าที่มาใช้บริการจะต้องแข็งใจไม่ใช้สมาร์ตโฟนหรือแท็บเลต หากพนักงานของร้านเห็นว่าลูกค้าหยิบอุปกรณ์ไฮเทคเหล่านี้ขึ้นมาใช้ ครั้งแรกจะถูกแจกใบเหลือง คล้ายกับการเล่นฟุตบอล แต่ถ้ามีการทำแบบนี้เป็นครั้งที่ 2 ก็จะถูกแจกใบแดง หมายความว่าให้ออกจากร้าน เพราะทำผิดกฎที่วางไว้

ขณะเดียวกัน โรงแรมหลายแห่งก็เดินตามแนวทางเขตปลอดมือถือ เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสบรรยากาศและบริการสุดประทับใจ แบบไม่มีอะไรมาทำให้ว่อกแว่ก

“โฮเทล กัลเวซ แอนด์ สปา” ในเมืองกัลเวสตัน รัฐเทกซัส มีโปรโมชั่นมอบขนมหวานฟรีให้ลูกค้าที่ยอมเก็บมือถือไว้ในถุงที่ร้านอาหารของโรงแรม

นอกจากนี้ ทางโรงแรมยังมอบส่วนลด 5 เปอร์เซ็นต์ ให้กับครอบครัวที่เข้าพัก หากยอมเก็บมือถือไว้ในกล่องที่ล็อกเก็บภายในห้อง

“สตีฟ คันนิงแฮม” ผู้จัดการทั่วไปของโฮเทล กัลเวซ แอนด์ สปา กล่าวว่า ทุกวันนี้ แทบทุกคนต่างก็มีมือถือ และก็ใช้งานกันเกือบตลอดเวลา

“ทางโรงแรมจึงมีแนวคิดจัดทำเขตปลอดมือถือ เพื่อกระตุ้นให้แขกที่มาพัก โดยเฉพาะแขกที่มาเป็นครอบครัว ได้งดเว้นจากการใช้มือถือและการติดต่อสื่อสารต่างๆ ในช่วงที่มาพักผ่อน”

พร้อมกันนี้ ก็ยังจัดเตรียมหมอน หนังสือนิทาน และกล้องโพลารอยด์ สำหรับคุณพ่อคุณแม่และลูกๆ ที่อาจจะอยากหากิจกรรมใหม่ๆ ทำในช่วงเวลาที่มีเพิ่มขึ้นนี้

โรงแรม “เดอะ เจมส์ โนมาด” ในนิวยอร์กซิตี้ ก็ชักชวนให้แขกถอดปลั๊กพักวางเทคโนโลยี ด้วยการมอบส่วนลดค่าห้องพัก 10 เปอร์เซ็นต์ ในแต่ละคืนที่ลูกค้าสามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาหน้าจอสี่เหลี่ยม

แพ็กเกจนี้มีชื่อว่า “ดิจิตอล ดีท็อกซ์” โดยเมื่อไปถึงโรงแรม ลูกค้าต้องนำมือถือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ไปล็อกเก็บไว้ที่เคาน์เตอร์พนักงานต้อนรับ จากนั้นพนักงานจะจัดห้องที่ตัดขาดจากเทคโนโลยีต่างๆ ให้กับลูกค้าเข้าพัก ไม่มีทั้งโทรทัศน์ แล็ปท็อป หรือนาฬิกาปลุก เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะได้ใช้บริการของทางโรงแรมอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นคอร์สฝึกสมาธิหรือโยคะ โดยไม่มีอะไรรบกวน

ขณะที่บางโรงแรมใช้วิธีแจกขนมฟรีให้แขกที่ใช้บริการสระน้ำแบบไม่พกพามือถือ บางแห่งไม่มีสัญญาไว-ไฟให้ใช้ เพราะไม่ต้องการส่งเสริมให้แขกติดอยู่กับหน้าจอ

บางโรงแรมก็เสนอกิจกรรมอื่นๆ ให้แขกทำ แทนที่จะง่วนอยู่กับมือถือ อย่างโรงแรมแกรนด์ เวลัส ริเวียรา นายาริต ในเม็กซิโก ที่มีบริการ Detox Concierge เพื่อช่วยให้พักวางจากอุปกรณ์พกพา และแทนที่ด้วยเกมและกิจกรรมต่างๆ เช่น หมากรุก

โรงแรมในเครือเดียวกัน “แกรนด์ เวลัส ริเวียรา มายา” ผุดไอเดียนำมือถือมาแลกสายรัดข้อมือสำหรับใช้เล่นกิจกรรมต่างๆ ได้ เช่น คอร์สดำน้ำ และจะต้องร่วมกิจกรรมอย่างน้อย 4 แบบ ถึงจะได้รับมือถือคืน