นับถือใจ! สาวพิการเพราะโดนสามีเผาทั้งเป็น ลุกขึ้นสู้ชีวิต ขายเสื้อหาเงินส่งลูกเรียน

นับถือใจ! สาวพิการเพราะโดนสามีเผาทั้งเป็น ลุกขึ้นสู้ชีวิต ขายเสื้อหาเงินส่งลูกเรียน

“ชีวิตไม่สิ้น ก็ต้องดิ้นกันไป” คำกล่าวนี้ใช้ได้จริงทุกยุคสมัย แม้จะล้ม หรือประสบชะตากรรมเลวร้ายเพียงใด หากยังมีชีวิตอยู่ ขอจงอย่ายอมแพ้ และวันนี้ “เส้นทางเศรษฐี” จะพาไปรู้จักกับหญิงสาวรายหนึ่ง ที่แม้จะถูกสามีเผาทั้งเป็นจนกลายเป็นคนพิการ แต่ก็ยังสู้ชีวิต ลุกขึ้นมาขายเสื้อส่งลูกเรียน

หญิงนักสู้คนนั้นคือ คุณเนตรนภา นวลกุล อายุ 28 ปี หรือคุณเนตร เจ้าของเพจร้านค้าเพื่อลูก เธอได้เล่าถึงเรื่องราวในอดีตให้ฟังว่า เดิมตนเป็นแม่บ้าน อยู่บ้านเลี้ยงลูก ไม่ได้ทำอาชีพอะไร และใช้ชีวิตปกติเรื่อยมา จนกระทั่งประมาณ หลังวันสงกรานต์ ปี 59 ตนทะเลาะกับอดีตสามีอย่างรุนแรง อีกทั้งยายของอดีตสามียุยงให้แยกทางกัน ตนได้ยินดังนั้นจึงตัดสินใจหย่าร้าง แต่สามีไม่พอใจ จึงจุดไฟเผาตนทั้งเป็น

คุณเนตร เจ้าของเพจร้านค้าเพื่อลูก

พิษจากการถูกเผาทั้งเป็นในครั้งนั้น ทำให้ตนกลายเป็นคนพิการ หน้าตาอัปลักษณ์ เนื้อหนังที่เคยเต่งตึงกลายเป็นแผลตกสะเก็ด เนื้อบางส่วนขาดหายไป แขนงอใช้การไม่ได้ ต้องทำการรักษาอย่างต่อเนื่อง เพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกายที่ถูกเผาหลายจุด เข้าพบจิตแพทย์เพราะเครียด หวาดระแวง และรับสภาพตัวเองไม่ได้ ไปไหนก็มีแต่คนมองด้วยความหวาดกลัว ลูกชายที่โรงเรียนก็ถูกล้อว่ามีแม่เป็นผี

หลังจากรักษาตัวอยู่พักใหญ่ ก็ตัดสินใจลุกขึ้นมาขับรถเร่ขายขนม แต่ไม่มีคนกล้าซื้อ เพราะคิดว่าตนเป็นโรคร้าย โชคดีที่มีคนเห็นใจแนะนำให้เป็นตัวแทนร้านค้า ขายเสื้อทางเพจในเฟซบุ๊ก จึงนำเงินที่คงเหลือบางส่วนมาลงทุนตรงนี้ และยึดเป็นอาชีพหลัก เพราะไม่สามารถออกไปขายด้วยตัวเองได้

“ดิฉันยอมรับว่าคนส่วนใหญ่ อุดหนุนเพราะความสงสาร แต่ร้านเราไม่ได้มีดีแค่นั้น มีลูกค้าหลายคนที่ประทับใจจนกลับมาซื้ออีกครั้ง เพราะเสื้อราคาไม่แพง เพียงตัวละ 200 บาทเท่านั้น นอกจากนี้สินค้ายังมีคุณภาพ ขนส่งรวดเร็ว แม้จะขายได้กำไรแค่หลักสิบบาทต่อหนึ่งตัวก็ไม่ท้อ เพราะดิฉันยังมี “ลูก” ที่เป็นกำลังใจให้ฮึดสู้ต่อ เขายังต้องเรียน และต้องใช้ชีวิต หากไม่มีดิฉัน ลูกจะขาดเสาหลักคอยค้ำจุน ไร้ที่พึ่งพิง หัวอกคนเป็นแม่ ถึงจะทุกข์ทรมานและลำบากอย่างแสนสาหัส แต่ดิฉันก็ไม่อยากรับเงินบริจาค หากคนเห็นใจ โปรดช่วยอุดหนุนสินค้า สนับสนุนอาชีพให้ดิฉัน มีเงินเก็บรักษาตัวและส่งลูกเรียนก็เพียงพอแล้ว” หญิงพิการ กล่าวทั้งน้ำตา

เมื่อพูดถึงอดีตสามี ว่าได้รับผลจากการกระทำอย่างไรบ้าง คุณเนตรให้ข้อมูลว่า ตอนนี้เธอกับอดีตสามี หย่าขาดกันเรียบร้อย โดยศาลตัดสินให้รอลงอาญา 5 ปี และต้องรับผิดชอบดูแลค่ารักษา อดีตสามีส่งเงินมาให้บ้าง เดือนละ 2000-3000 บาท เป็นค่าเลี้ยงดูลูก เธอไม่โกรธที่เขาไม่รับผิดชอบความผิดที่ทำไว้ เพราะตอนนี้ ก็เห็นและเข้าใจว่า ลำพังตัวเขาเองยังแทบเอาตัวไม่รอด

ก่อนจบบทสนทนา หญิงนักสู้ ยังฝากถึงคนที่กำลังท้อแท้ว่า “ไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไร จงอย่ายอมแพ้ หากท้อแท้ ก็คิดเสียว่าคนที่ลำบากกว่าเรา เขายังฮึดสู้ได้ เราก็ต้องทำได้ หากทำแล้วมันไม่ดีขึ้น ให้พยายามต่อไป ต้องมีสักวันที่เป็นของเรา”

สนใจช่วยอุดหนุนสินค้าร้านคุณเนตร สามารถเข้าไปสั่งซื้อได้ที่ facebook : ร้านค้าเพื่อลูก หรือโทรศัพท์ (093) 175-0320