ตกใจ-ชื่นชม-คาดหวัง หลากอารมณ์คนค้าขาย/วินมอไซค์ แถมมั่นใจ “เศรษฐกิจดีขึ้นแน่นอน”

ทูลกระหม่อม
ทูลกระหม่อม

ตกใจ-ชื่นชม-คาดหวัง หลากอารมณ์คนค้าขาย/วินมอไซค์ แถมมั่นใจ “เศรษฐกิจดีขึ้นแน่นอน

จากกรณีพรรคไทยรักษาชาติ ได้ยื่นพระนาม ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคไทยรักษาชาติ ต่อ กกต.ไปเมื่อเวลา 09.10 น. วันที่ 8 ก.พ. “เส้นทางเศรษฐีออนไลน์” ลงพื้นที่สอบถามความคิดเห็นของพ่อค้าแม่ขาย และวินมอเตอร์ไซค์ เกี่ยวกับความรู้สึกต่อข่าวดังกล่าว

คุณสิทธิพล ศรีประเสริฐ คนขับวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง

คุณสิทธิพล ศรีประเสริฐ คนขับวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง กล่าวว่า

“เห็นด้วยที่พระองค์ลงสมัครเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะมีความเป็นกลางไม่คานอำนาจฝ่ายใด เศรษฐกิจดีขึ้นแน่นอน จากมุมมองของคนที่ประกอบอาชีพขับวินมอเตอร์ไซค์ ประชาชนมีฐานกำลังซื้อน้อยลง ไม่คึกคักเหมือนก่อนทำรัฐประหาร ช่วงปีแรกก็เหมือนจะดีแต่กลับกลายเป็นว่าแย่ลงเรื่อย ๆ เพราะไม่มีนโยบายมาซัพพอร์ตชนชั้นกลางเช่นเรา การลงสมัครเป็นนายกรัฐมนตรีของพระองค์ท่าน ทำให้สนามการเมืองไทยเห็นภาพว่าประชาชนไม่พอใจการบริหารงานของนายกฯ คนปัจจุบัน และรู้สึกนับถือในตัวพระองค์อยู่แล้วจากการปฏิบัติงาน ฐานันดรศักดิ์ของพระองค์ความจริงไม่จำเป็นต้องลงมาสมัครเป็นนายกรัฐมนตรีก็ได้ เพราะพระองค์มีทุกอย่างแล้วแต่เพื่อประชาชนหรือการปรับเปลี่ยนโครงสร้างประเทศที่ย่ำแย่ ทำให้พระองค์ต้องเสียสละ แต่ถ้าจะมองในแง่ลบ พระองค์ท่านควรจะตั้งพรรคของตนเอง เพื่อแสดงให้เห็นถึงความอิสระในการทำงาน ทีมงานในการบริหารประเทศไม่ได้ถูกควบคุมโดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง”

คุณสมเกียรติ ปั้นศิริ วินมอเตอร์ไซค์ หน้าสำนักงานเขตประเวศ กรุงเทพฯ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกระแสการเลือกตั้งขณะนี้ว่า

“เมื่อสายของวันนี้ได้ข่าวว่าทูลกระหม่อมฯ ลงแคนดิเดตนายกฯ ในนามของพรรคไทยรักษาชาติ โดยส่วนตัวรู้สึกตกใจ แต่อย่างไรก็ตามชื่นชอบพระองค์อยู่แล้ว และเคารพการตัดสินใจของพระองค์ที่จะทรงเสียสละเข้ามาร่วมบริหารบ้านเมือง  และมั่นใจในความสามารถของทูลกระหม่อมฯ ว่าจะทรงนำพาบ้านเมืองให้ผ่านพ้นหลายๆ วิกฤต และโดยส่วนตัวเชื่อมั่นว่า บ้านเมืองจะสามัคคีกันมากขึ้น

คุณพันฤทธิ์ ศรีราช พ่อค้าขายกะทิร้านเจ๊แดง วัย 53 ปี

ด้านคุณพันฤทธิ์ ศรีราช พ่อค้าขายกะทิร้านเจ๊แดง ในตลาดประชานิเวศน์ 1  วัย 53 ปี ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อทราบข่าวก็ตกใจ เพราะไม่คาดคิดว่าเชื้อพระวงศ์จะลงมาเล่นการเมือง และก็สงสัยว่าลงมาเล่นการเมืองได้ด้วยหรือ แต่มองว่าเป็นเรื่องที่ดีอย่างหนึ่ง เพราะถ้าใครจะทำอะไร คงจะรู้สึกเกรงใจทูลกระหม่อมฯ ในระดับหนึ่ง ไม่กล้าขัดแย้งกันมากนัก การค้าขายของพ่อค้าแม่ขายน่าจะดีขึ้นตามไปด้วย

คุณอดิศักดิ์ บุรินทรวรวิทย์ ช่างซ่อมนาฬิกา วัย 65 ปี

คุณอดิศักดิ์ บุรินทรวรวิทย์ ช่างซ่อมนาฬิกา วัย 65 ปี แสดงความเห็นว่า ตนเพิ่งรู้ข่าว รู้สึกตกใจแต่มองว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจดี เพราะการเมืองของประเทศไทยยังไม่มีอะไรแบบนี้ การที่ท่านลงมาเล่นในเกมการเมือง อาจมีสิ่งใหม่ๆ ที่ดีเข้ามาด้วย มีคนนอกเข้ามาเป็นนายกฯ เศรษฐกิจประเทศอาจจะดีขึ้น ประชาชนมีกำลังซื้อมากว่าเดิม พ่อค้าแม่ค้าก็จะมีเงินเก็บกันขึ้นมาบ้าง

อีกด้านหนึ่ง ร้านขายก๋วยเตี๋ยวเจ้าหนึ่งในตลาด ที่ไม่ประสงค์ออกนาม ให้สัมภาษณ์ว่า ทันทีที่ทราบข่าว รู้สึกตกใจไม่คิดว่าชนชั้นกษัตริย์จะลงมาเล่นการเมือง แต่ถ้าได้เป็นนายกรัฐมนตรี อยากให้ช่วยในเรื่องของการค้าขาย สำหรับธุรกิจข้างถนน ทำอย่างไรเพื่อช่วยให้ระบบการค้าขายดีขึ้น

ส่วนร้านน้ำปั่นเจ้าหนึ่ง ได้กล่าวว่า ตนรู้สึกเฉยๆ แต่ไม่สมควรที่ทูลกระหม่อมจะลงเลือกตั้ง แม้ว่าจะได้เข้ามาบริหารงาน เพราะว่าไม่ว่าใครได้เป็นนายกฯ ระบบเศรษฐกิจก็เหมือนเดิม กิจการค้าขายไม่ดีขึ้น ขึ้นลงเป็นปกติ

ส่วนกลุ่มผู้ค้าเปิดแผงเช่าพระเครื่อง เผยว่า รู้สึกตกใจเหนือความคาดหมาย ทูลกระหม่อมฯ ไม่ควรลงสมัครเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นเชื้อพระวงศ์แม้ถอดยศแล้วก็ตาม สำหรับความคาดหวังในการเข้ามาบริหารประเทศ ขอให้ช่วยสนับสนุนประชาชนให้มีกำลังซื้อ กระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมการส่ง-ออก เพราะที่ผ่านมาเศรษฐกิจซบเซาเหลือเกิน
ด้าน คุณพจมาน นาคสุวรรณ์ แม่ค้าในตลาดแห่งหนึ่ง จังหวัดเพชรบูรณ์ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกระแสทูลกระหม่อมฯ ที่ลงมาแคนดิเดตเป็นนายก ว่า โดยส่วนตัวมีความรู้สึกชอบ และเชื่อมั่นว่าความสามารถของพระองค์จะนำพาประเทศไปสู่ทิศทางที่ดีขึ้น

“ตนเองเป็นกลาง ไม่ได้ชอบพรรคการเมืองใดเป็นพิเศษ แต่เท่าที่สังเกตแม่ค้าร้านข้างเคียงตื่นตัวกับเหตุการณ์เลือกตั้งในครั้งนี้มาก เพราะต่างรอคอยเวลานี้มาหลายปีแล้ว”

ส่วนตัวเชื่อมั่นในความสามารถของทูลกระหม่อมฯ รู้สึกชื่นชอบที่พระองค์ตะทรงเสียสละเข้ามาร่วมบริหารประเทศในครั้งนี้และจะนำพาประเทศไปสู่ทิศทางที่ดีขึ้น ล้านเมืองจะสามัคคีกัน