“หน้ากากกันฝุ่น PM2.5” สินค้าหายาก คนไทย (มีตังค์) แห่สั่งซื้อจากญี่ปุ่น 

 

“เราพึ่งรัฐไม่ได้ คนมีเงินพึ่งตนเองได้ แล้วคนที่มีรายได้น้อยจะทำอย่างไร”

ข้อสังเกต ของ ทพ.ดร.ธงชัย วชิรโรจน์ไพศาล เลขาธิการมูลนิธิเครือข่ายพัฒนาศักยภาพผู้นำการสร้างสุขภาวะ (คศน.) เกี่ยวกับการ “เข้าถึง” หน้ากากกันฝุ่น ของคนมีรายได้น้อยยามนี้  ที่โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อว่า “Thongchai Vachirarojpisan” คงจะโดนใจของใครหลายคน จนชาวโซเชียลแห่แชร์กันมากมาย

การตั้งประเด็นดังกล่าวของ ทพ.ดร.ธงชัย นั้น เกิดขึ้นภายหลังที่ตัวท่านไปประสบกับเหตุการณ์สะเทือนใจ ในร้านขายยาแห่งหนึ่ง ซึ่งมีแม่ลูก มาเลือกซื้อหน้ากากกันฝุ่น เนื่องจากทำงานก่อสร้าง แต่ราคาขายของหน้ากากดังว่าค่อนข้างสูง สองแม่ลูกจึงต้องช่วยกันนับแบงก์ย่อย-เหรียญ เจียดเงินมาซื้อ สร้างความสะเทือนใจให้ผู้พบเห็นไม่น้อย

ล่าสุดในทางกลับกัน “เส้นทางเศรษฐีออนไลน์” สำรวจพบว่า ยามนี้ สินค้า “ขายดิบ-ขายดี” ในมวลหมู่         “คนไทย-มีตังค์” จำนวนมาก  ได้พากัน “สั่งหิ้ว” สินค้านำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่ง ไม่ใช่ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องสำอาง หรือ กระเป๋า รองเท้า แบรนด์เนม เหมือนที่ผ่านมา

ทว่าเป็นสินค้าอินเทรนด์  นั่นคือ หน้ากากกันฝุ่น PM2.5 ยี่ห้ออะไรก็ได้ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีวางขายตามร้านขายยาทั่วไป ปรากฏการณ์ดีมานด์ทะลักครั้งนี้ ล้นหลามชนิดที่ว่า “มีเท่าไหร่ พี่ไทยเหมาหมด” กันเลยทีเดียว

นอกจาก หน้ากากกันฝุ่น ที่ “คนไทย-มีตังค์” พากันสั่งซื้อจากญี่ปุ่นแล้ว สินค้าอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการป้องกันฝุ่น อย่าง “สเปรย์กันฝุ่น” ก็ได้รับความสนใจไม่แพ้กัน

“หน้ากากกันฝุ่น PM2.5 ที่ญี่ปุ่นราคาแพงเหมือนกัน ใช่ว่าจะราคาถูกกว่าเมืองไทย แต่อาจเป็นเพราะที่เมืองไทยหาซื้อยาก เวลานี้คนเลยแห่ออร์เดอร์กันมากเลยค่ะ” สายหิ้ว ท่านหนึ่ง เผยมาอย่างนั้น