“จ๊ะ อาร์สยาม”นักร้องสาววัย 26 ขยันทำมาหากิน ปิ๊งไอเดียทำธุรกิจความงาม มัดใจตัวแทนจำหน่าย ใจป้ำของเเจกเพียบ

เรียกเสียงฮือฮาได้ทุกครั้งไม่ว่าจะขยับตัวทำอะไร สำหรับลูกทุ่งสาวสุดแซ่บ จ๊ะ อาร์สยาม-นงผณี มหาดไทย อย่างล่าสุดที่เพิ่งหันมาชิมลางทำธุรกิจสครับขัดผิว Jah Body Scrub ภายใต้ชื่อ JAH BRAND ก็กลายเป็นจุดสนใจ (อีกครั้ง) เพราะนอกจากลงทุนถ่ายรูปแผ่นหลังเปลือยเปล่าขณะใช้
สครับ และถอยซุปเปอร์คาร์คันใหม่ให้ตัวเองฉลองกำไรก้อนโต เจ้าตัวยังประกาศแจกทองคำ กระเป๋าหรู รถเบนซ์ บ้าน คอนโดมิเนียม รวมถึงเสริมอึ๋มให้กับตัวแทนจำหน่ายที่ทำยอดได้ตามเป้า!

“จริงค่ะ แจกจริง 100 เปอร์เซ็นต์” นักร้องลูกทุ่งสุดแซ่บวัย 26 ย้ำชัดถึงกระแสฮือฮาล่าสุด

ก่อนจะว่า “เพิ่งแจกแหวนทองไป 800 วง ตัวแทนที่ขายได้ 50 กระปุกจะได้ 1 วง และถ้าคุณสะสมได้ 200,000 กระปุกใน 1 ปี คุณก็รับรถเบนซ์ไปเลยหรือจะเอาเป็นเงินก็ได้ 2 ล้านกว่าบาท มีคอนโดฯ มีบ้าน เราแจกจริงๆ เพราะคำว่าธุรกิจ เราได้คุณได้ อันนี้แบบแฟร์ๆ เจ้าของธุรกิจบางคนมองว่าฉันเป็นคนลงทุน ฉันต้องได้ 70 คุณได้ 30 แต่จ๊ะไม่เอาเปรียบ 50-50 เท่ากัน”

ดังนั้น เมื่อเปิดตัวล็อตแรกราวๆ เดือนสิงหาคม สครับจำนวน 30,000 กระปุก จึงถูกดีลเลอร์และตัวแทนจำหน่ายกว่า 200 คนทั่วประเทศจับจองหมดเกลี้ยงตั้งแต่ยังผลิตไม่เสร็จ ส่วนอีก 40,000 กระปุกในล็อตสองก็อยู่ในภาวะไม่ต่างกัน ซึ่งนับว่าประสบความสำเร็จเกินคาดหมาย แม้จะเป็นการทำธุรกิจครั้งแรกก็ตาม

โดยเธอย้อนให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นว่า “จ๊ะเป็นนักร้องลูกทุ่งที่รับรีวิวค่อนข้างจะเยอะ พี่แจ๊ค (แจ๊ค อาร์สยาม-ธนพล สัมมาพรต แฟนหนุ่ม) เลยแนะนำว่าลองทำผลิตภัณฑ์เองไหม เพราะว่าคนอื่นยังมองเห็นมูลค่าตัวเราเลย ก็คิดว่าจะทำอะไรดี สบู่ก็เยอะแล้ว คอลลาเจนก็เยอะ ยาลดความอ้วนยิ่งเยอะมาก แต่ตัวเราชอบสครับอยู่แล้ว เคยขัดผิวที่ร้านหนึ่งเขาจ้างไปรีวิวก็เลยรู้จักจากร้านนั้นว่านี่คือสครับ เราก็เลยชอบมาโดยตลอด ซื้อสครับยี่ห้อนั้นยี่ห้อนี้มาขัดที่บ้านตลอด 2-3 ปี จนมาตั้งใจว่าจะทำสครับ ก็คิดว่าเราจะทำยังไงให้มีข้อดีของทุกยี่ห้ออยู่ในสครับของเรา เพราะบางยี่ห้อขัดแล้วขาวขึ้นแต่ไม่หอม บางยี่ห้อขัดแล้วผิวแห้งมาก จ๊ะเลยต้องบอกโจทย์โรงงานว่าทำยังไงก็ได้ให้ขาวขึ้น ใสขึ้น แล้วก็มีกลิ่นหอมติดตัว ที่สำคัญ ผิวต้องไม่แห้ง”

สุดท้ายจึงมาลงตัวที่สารสกัดสีดำ 8 ชนิด คือ มะเขือเทศดำ, ไข่ปลาคาเวียร์, ไข่มุกดำ, เห็ดทรัฟเฟิล, โสมดำเกาหลี, ฟูจิลาวา, เมล็ดงาดำ และถั่วดำ ก่อนจะเพิ่มสารสกัดแคร์รอตดำในล็อตสอง เพื่อช่วยให้เวลาทาโลชั่นแล้วซึมซาบสู่ผิวได้ดีขึ้น

“จ๊ะบอกโรงงานก่อนว่าอยากได้อะไรเป็นสีดำ เพราะช่วงนั้นราหูย้ายออกจากราศีเมษ เราเป็นคนสายมูเตลูอยู่แล้วเลยเอาทั้ง 8 อย่าง เขาก็เลยบอกว่ามีอย่างนี้ๆๆ แต่มันจะแพง เพราะว่าสารสกัดทุกตัวแพงหมดเลย จ๊ะบอกว่าไม่เป็นไรพี่ ต้นทุนแพงไม่เป็นไร”

“ตอนแรกโรงงานแนะนำให้ทำสครับขมิ้น มะขาม แต่จ๊ะมองว่าถ้าเป็นผู้บริโภคเราไปซื้อมะขามเปียกหรือขมิ้นมาขัดเลยดีกว่า และเราไม่อยากไปแย่งตลาดคนไทยที่ทำกันอยู่ โดยถ้าเป็นสครับขมิ้น มะขาม ทุนจะอยู่ที่ 30-40 บาท แต่ของจ๊ะต้นทุนเกินอันนั้นหลายเท่ามาก อย่าง 30,000 กระปุกก็ใช้เงินลงทุนหลายล้านบาท แต่เราถือว่าเราใช้ของดี คือการโฆษณาจะพูดยังไงก็ได้ แต่พอคนไปใช้แล้วไม่ดีจริง เขาก็จะรู้สึกเฟล รู้สึกไม่เชื่อมั่นจ๊ะไปเลย เพราะฉะนั้น จ๊ะเป็นคนตรง คนที่ชัดเจนเลยรู้สึกว่าจะทำอะไรทุกอย่างต้องดี ให้คุณภาพเกินราคา ด้วยความเป็นตัวจ๊ะก็ต้องรักษาชื่อของจ๊ะด้วย”

นอกจากเรื่องการเลือกวัตถุดิบ หรือการทดลองใช้แล้วใช้อีกเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด นักร้องสาวยังลงไปดูแลเรื่องแผนการตลาด โดยจ๊ะว่า “ดีลเลอร์ของจ๊ะ 5 คน จะเป็นพี่เขย เป็นเพื่อนสนิท เป็นแฟนคลับ ที่เขาเคยขายของออนไลน์แต่ไม่เคยเป็นใหญ่ ไม่เคยมีทุน แล้วพอจ๊ะบอกว่าจะทำแบรนด์หนึ่ง คนก็มาสมัครเยอะมาก เราก็โยนให้ดีลเลอร์เป็นคนดูแลจัดการ ดีลเลอร์ก็ต้องมีการไปเรียน จ๊ะจ้างครูมาสอนการโพสต์เฟซบุ๊ก การสร้างโปรไฟล์”

“แต่เราก็จะมีกฎห้ามว่า พวกดีลเลอร์ห้ามขายปลีก ให้พวกตัวแทนขายปลีกได้เท่านั้น โดยขนาด 250 กรัม ขายกระปุกละ 450 บาท เพราะพวกดีลเลอร์เขาอยู่กับจ๊ะบ่อย คนเห็นก็จะซื้อแต่ทางเขา โอกาสที่ตัวเล็กๆ จะขายได้ก็น้อยลง ซึ่งจ๊ะต้องดูแฟนเพจเฟซบุ๊ก JAH BRAND เอง ไปตอบข้อความเอง เพราะถึงจะมีแอดมิน 3-4 คน แต่บางทีมีเคสหนักๆ น้องไม่รู้จะตอบยังไงก็มาให้เราตอบ เพราะเราเป็นคนรู้รายละเอียดทั้งหมด ตั้งแต่วัตถุดิบ กระทั่งโปรโมชั่น”

“การขายผ่านระบบตัวแทนมันดีกว่าการที่เราไปวางในร้านต่างๆ หรือตามห้าง” สาวเซ็กซี่ ว่า

พร้อมให้เหตุผล “ระบบตัวแทนทำให้เราเดินไปหากลุ่มเป้าหมายได้เลย แล้วขัดโชว์เลย ก็เห็นว่ามันดีจริง มันตรง มันคือการขายตรงที่เราเดินไปให้คุณลองเลย”

ส่วนใครกังวลว่าสินค้าที่ขายผ่านอินเตอร์เน็ตนั้นไม่ปลอดภัย สาวเจ้าย้ำ “ของจ๊ะมีเลขที่จดแจ้ง อย. รับรองว่าปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะจ๊ะจะทำอะไรต้องทำปลอดภัยอยู่แล้ว คือการเป็นศิลปินดีไหม ดี ที่คนจะรู้จักสินค้าเราไวกว่าคนอื่น แต่ถ้ามีข้อเสีย เช่น อยากให้ขาวมากใส่สารฟอกขาวไป แต่ถ้าเกิดอันตรายแล้วชื่อเราล่ะ ก็ตรงมาที่ชื่อเราอยู่ดี เพราะฉะนั้น เวลาทำอะไรเลยต้องให้มันปลอดภัยและถูกต้องทุกอย่าง”

“เพราะเป้าหมายของจ๊ะ คือ อยากให้คำว่า JAH BRAND ติดปากของทุกคน ตอนนี้จ๊ะก็ลองทำผลิตภัณฑ์ตัวอื่นอยู่ เทสต์ด้วยตัวเอง แต่ตัวต่อไปไม่รู้ว่าจะปล่อยเป็นผลิตภัณฑ์อะไรดี เพราะเราทำหลายอย่างแต่ไม่มีเกี่ยวกับหน้าแน่นอน จ๊ะรู้สึกว่าหน้าคนเราไม่เหมือนกัน หน้าแพ้ง่ายมาก บางทีเราใช้ไม่แพ้ แต่บางคนใช้แพ้ ต่อให้ล้านคนแพ้แค่คนเดียวก็เสียชื่อนะ ซึ่งก็อยากให้รู้ว่าเราเต็มที่ เราทุ่มเทจริงจัง จ๊ะอยากให้ทุกคนเชื่อมั่นในตัวจ๊ะว่าพอเป็นของจ๊ะมันต้องดี จ๊ะไม่เอาของไม่ดีมาให้แน่นอน ไม่เอาเปรียบผู้บริโภค”

ขณะเดียวกัน ก็ไม่เอาเปรียบตัวแทนขาย เพราะถือว่าตัวเองเป็น “ผู้ให้” เหมือนกับตอนที่ทำวงดนตรี และยึดวิธีคิดแบบใจเขาใจเรา

“จ๊ะเป็นคนไม่เคยทำธุรกิจเลย” คนพูดสารภาพ

“แต่ระบบอย่างนี้เป็นระบบที่ทำอยู่กับวงจ๊ะ นักดนตรี แดนเซอร์ ทุกคนรักจ๊ะมาก เพราะรู้สึกว่าเราได้คุณได้ เป็นผู้ให้จริงๆ ไม่ใช่ว่าแค่ในงานนะ เรื่องส่วนตัวเราก็ให้ เราก็เอาประสบการณ์มาใช้ แล้วจริงๆ เราต้องเอาตัวเราเป็นที่ตั้งว่าถ้าเราเป็นคนขายล่ะ เราจะต้องอยากได้อะไรบ้าง เราจะต้องยังไง เราต้องคิดถึงใจคนอื่นด้วย ไม่ใช่ว่าเราเป็นเจ้าของแบรนด์ได้กำไร 100 ล้าน แล้วแจก 5 ล้านมันก็ไม่ใช่ จ๊ะว่า 100 ล้านคุณต้องแบ่งให้เขา 50 ล้านนะ มันถึงจะดูแฟร์ๆ เพราะว่าเราได้คุณได้”

เห็นความตั้งใจของจ๊ะ อาร์สยาม แล้ว “JAH BRAND” จึงน่าจะเป็นธุรกิจที่วิน-วิน กันถ้วนหน้าทั้งลูกค้า ตัวแทน และเจ้าของ