หลังจากประสบความสำเร็จธุรกิจอาหารคลีนฟู้ด DJ POOM MENU (ดีเจ ภูมิ เมนู) ด้วยยอดขายแต่ละเดือนไม่ต่ำกว่า 6 หลัก บางเดือน 7 หลัก ช่องทางจำหน่าย มีขายผ่านสมาชิก ดีลิเวอรี่ออนไลน์ หน้าร้านที่ตั้งอยู่ในซอยพิบูลวัฒนา 7 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ ยังมีวางจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำเรียกว่าเอาใจลูกค้าหลายกลุ่มหลายวัยที่อยากมีรูปร่างดี อาทิ ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต, เทสโก้ โลตัส ฯลฯ

ล่าสุด เมื่อปีที่แล้ว ดีเจอารมณ์ดี ดีกรีนักเรียนอังกฤษ หรือ “ภูมิใจ ตั้งสง่า” ต่อยอดกิจการทุ่มงบ 10 ล้าน สร้างธุรกิจเสื้อผ้ากีฬาพรีเมี่ยม แต่ขายราคาสบายกระเป๋า หวังเจาะตลาดหนุ่มสาวคนรุ่นใหม่ ใช้ชื่อแบรนด์ว่า “สนิม” (Zanim) ใส่ความตั้งใจเกินร้อย เพราะหวังไกลอยากโกอินเตอร์

ลดน้ำหนักได้ด้วยกีฬา
ต่อยอด กลายเป็นธุรกิจ

ดีเจภูมิ เล่าย้อนวัยในอดีตว่า ช่วงมัธยม เรียนโรงเรียนประจำชายล้วนที่ประเทศอังกฤษ ตอนนั้นอ้วนมาก มีอยู่ช่วงหนึ่งอกหัก เลยไปออกกำลังกาย ปรากฏว่าผอมลง กระทั่งกลับมาเมืองไทย มีโอกาสได้เข้าวงการบันเทิง เลยหันมาดูแลรูปร่าง พร้อมๆ กับศึกษาเรื่องอาหารการกินอย่างจริงจัง จนในที่สุด ก่อตั้งธุรกิจอาหารคลีนขึ้นมา

นอกจากจะใส่ใจเรื่องการกินแล้ว ดีเจฝีปากกล้า ยังชอบออกกำลังกายเป็นชีวิตจิตใจ ตั้งแก๊งออกกำลังกายกับเพื่อนๆ จนกระทั่งเมื่อปีที่แล้ว หรือปี 2559 มองเห็นโอกาสธุรกิจเสื้อผ้ากีฬา

“ผมกับกลุ่มเพื่อนๆ ชอบเข้าฟิตเนส ยกเวท จนตั้งชื่อแก๊งกันว่า สนิม หมายถึง มากินเหล็กกัน ด้วยความที่ชอบออกกำลังกาย ฉะนั้น จะมีเสื้อผ้าออกกำลังกายเยอะ และมองว่าปัจจุบันคนรุ่นใหม่หันมาออกกำลังกายมากขึ้น แฟชั่นชุดออกกำลังกายสามารถสวมใส่ได้ในชีวิตประจำวัน เลยมองเห็นโอกาสและช่องว่างของธุรกิจนี้”

เมื่อดีเจหนุ่มกล้ามโต คิดและตัดสินใจแล้วว่าจะเอาดีด้านนี้ เขา บอกว่า ได้ชวนเพื่อนรักนอกวงการมาร่วมโปรเจ็กต์ครั้งนี้ด้วย ใช้งบลงทุนเบื้องต้นราว 10 ล้านบาท จ้างทีมงานคุณภาพขึ้นมาสร้างแบรนด์ทำการตลาดออนไลน์โดยเฉพาะ บุกตลาดทั้งผู้ชายและผู้หญิง สร้างความโดดเด่นให้กับแบรนด์สนิม ด้วยวัสดุผ้าเกรดพรีเมี่ยม พร้อมกับแพตเทิร์นลุกส์สปอร์ตสุดเนี้ยบ

“เสื้อผ้ากีฬาแบรนด์สนิม แม้จะเป็นแบรนด์เล็ก แต่ใส่ใจเรื่องคุณภาพมาก เลือกผ้าอย่างดี ไฮควอลิตี้ มีระบบระบายอากาศ ระบายความชื้น แอนตี้แบคทีเรีย ซึมซับเหงื่อ ขณะเดียวกัน แห้งไว คอลเล็กชั่นแรกเป็นลายทหาร ใส่ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง”

ลูกค้าหลัก คือผู้หญิง
ตั้งเป้ารายได้ เดือนละ 3 ล้าน

ในช่วงแรกของการจำหน่าย เจ้าของธุรกิจ บอกว่า ขายออนไลน์ 100 เปอร์เซ็นต์ ตั้งใจว่าลูกค้าต้องเป็นผู้ชาย อายุ 15-25 ปี แต่ทำไปทำมาปรากฏว่าผู้ชายซื้อของยาก เลยหันมาบุกตลาดผู้หญิง เพิ่มดีไซน์ชุดเพื่อผู้หญิง ปัจจุบันสัดส่วนลูกค้ากลายเป็น ผู้ชาย 30 เปอร์เซ็นต์ ผู้หญิง 70 เปอร์เซ็นต์

ด้านแหล่งผลิตเสื้อผ้ากีฬาของดีเจหนุ่มอารมณ์ดี นำเข้าผ้าจากอิตาลี จากนั้นมาตัด-เย็บ และจำหน่ายในไทย ตัดเย็บมาตรฐานระดับสากล มีทีมออกแบบโดยเฉพาะ มีความหลากหลายให้เลือกสวมใส่ ตัวอย่างเช่น ของผู้ชายมีเสื้อ  กางเกงวอร์ม เสื้อยืด เสื้อกล้าม แจ็กเก็ต ส่วนของผู้หญิง มีเสื้อกล้าม สปอร์ต บรา กางเกงขาสั้น-ขายาว เสื้อแขนยาว ขนาดมี S M L

“สนิม คือ ชุดออกกำลังกายที่เหมาะสำหรับออกกำลังกายทุกประเภท ทั้งเทรนนิ่ง วิ่ง โยคะ และกีฬาอื่นๆ  นอกจากนั้น ยังสวมใส่ได้ในชีวิตประจำวัน ในคอลเล็กชั่นปี 2016 ที่ผ่านมา เสื้อผ้าถูกดีไซน์ให้มีกระเป๋าใส่โทรศัพท์ได้ทุกรุ่น สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการฟังเพลงระหว่างทำกิจกรรม”

ด้านการประชาสัมพันธ์ ดีเจภูมิ ระบุว่า เน้นสื่อออนไลน์ 100 เปอร์เซ็นต์ ทั้งโซเชียลมีเดีย เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และได้เพื่อนดารามาช่วยโปรโมต ซึ่งกระแสการตอบรับดีมาก ลูกค้ามีทุกเพศ มีหลายวัย อายุเฉลี่ย 15-25 ปี ส่งผลถึงรายได้ที่ดีตามมาด้วย

“แบรนด์สนิม ก่อตั้งมาครบ 1 ปีแล้ว กระแสการตอบรับค่อนข้างดีมาก เป็นเพราะมีการประชาสัมพันธ์ที่ต่อเนื่อง ราคาสมเหตุสมผล ราคาเริ่มต้น 500 บาท คุณภาพไม่แพ้แบรนด์อินเตอร์ ได้กลุ่มลูกค้าส่วนหนึ่งมาจากแฟนคลับผม กลุ่มเพื่อนที่ออกกำลังกายด้วยกัน และคนที่ชอบเสื้อผ้าออกกำลังกายคุณภาพดี มีลูกค้าต่างประเทศซื้อไปจำหน่ายต่อ รายได้ปีที่แล้ว เฉลี่ยเดือนละ 1 ล้านบาท ส่วนปีนี้ตั้งเป้ารายได้เดือนละ 3 ล้านบาท เล็งส่งออกไปตลาดต่างประเทศ เริ่มต้นที่ประเทศญี่ปุ่น”

ปัจจุบัน ตลาดชุดออกกำลังกายนับว่ามีการแข่งขันที่ค่อนข้างสูง ความเป็นคนมีชื่อเสียงนับเป็นแรงหนุนธุรกิจได้หรือไม่ ประเด็นดังกล่าว ดีเจคนดัง แสดงความเห็นว่า ช่วงที่มีชื่อเสียงจะมีคนคอยติดตาม พอหยิบจับทำอะไรคนรู้กันทั่ว  แฟนคลับเองก็คอยสนับสนุนช่วยอุดหนุนตลอด แต่เหนือสิ่งอื่นใดที่สำคัญที่สุดคือ สินค้าต้องดีจริง จึงจะประสบความสำเร็จได้

บรรดาแฟนคลับ หรือผู้ที่สนใจสามารถติดตามผลงานได้ที่ http://www.zanimofficial.com/ หรือที่หน้าร้าน ชั้น 2 สยามสแควร์วัน โทรศัพท์ (02) 115–1431 

######