“เฟิร์น”ลูกสาวสุดเลิฟ “จาตุรงค์ มกจ๊ก” ทุ่มใจสร้าง ธุรกิจเล็กๆ “ขนมปังโฮมเมด 8 ไส้”

แม้การเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จะนำมาซึ่งความโศกเศร้าในหมู่พสกนิกร แต่ช่วงเวลายากลำบากดูจะไม่หนักหนาสาหัสเกินไปนัก เมื่อเห็นน้ำใจคนไทยหลั่งไหลไปยังสนามหลวงเพื่อร่วมดูแลคนไทยด้วยกัน

หนึ่งในนั้นคือ ดารานักแสดงทายาทตลกดัง จาตุรงค์ พลบูรณ์ อย่าง เฟิร์น-พัสกร พลบูรณ์ ที่ร่วมทำขนมปังไปแจก โดยไม่คาดคิดว่า นั่นจะเป็นจุดเริ่มต้นของอาชีพใหม่

6

“เหมือนต้องเรียกว่าในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงชี้ทาง” หญิงสาววัย 27 เล่าถึงกิจการขนมปังโฮมเมดที่เพิ่งเริ่มต้น

ก่อนจะว่า “ที่มาที่ไปคือ มีพื้นฐานการทำขนมปังมานานแล้ว ป้ากับแม่ไปเรียนทำขนม ที่บ้านชอบทำขนมกัน ซึ่งย้อนไป 5-6 ปีที่แล้ว เฟิร์นอยากทำสแน็กบ็อกซ์ แต่ว่ายุ่งมากเลยไม่ได้ทำ ไม่มีเวลา จนมาช่วงนี้ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จสวรรคต ก็คิดว่าจะเอาอะไรไปช่วยเหลือพี่น้องดี แม่กับป้าอยากทำขนมปังไปแจกตามท้องสนามหลวงก็เลยทำไป พอไปทำแจกคนกินอร่อย กินแล้วติดใจ เขาอยากจะสั่งไปกิน เริ่มต้นเลยทำส่งให้คนที่อยู่ใกล้ๆ ที่เคยกินมาก่อน ไปๆ มาๆ คุยกับ พี่อ้น (ศรีพรรณ ชื่นชมบูรณ์) เขาบอกทำไมไม่โปรโมตขายในไอจี ทำง่ายๆ ส่ง 30 ชิ้น 100 ชิ้น พอลงไปก็เริ่มมีออร์เดอร์เยอะ ทุกวันตอนเช้าต้องทำไปส่ง”

กลายเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจเล็กๆ ของครอบครัว

“จริงๆ ที่บ้านคิดกันหลายครั้งว่าจะทำอะไรกันดี เพราะเฟิร์นอยากให้ที่บ้านมีอาชีพ อยากให้ที่บ้านขายของ ทำน้ำพริกไหม ทำนู่นนี่ไหม แต่ยังหาสูตรอร่อยที่เป็นของเราเองไม่ได้ แต่พอมีเหตุการณ์นี้ทำให้เรามองว่าใครก็ทำขนมปังเหมือนเราไม่ได้ เพราะปรับปรุงแล้วปรับปรุงอีกจนได้ขนาดนี้เลยตัดสินใจทำจริงจัง”

โดยขนมปังอันเป็นธุรกิจย่อมๆ ที่แม้ตอนนี้จะยังไม่มีชื่อ แต่กลับมีให้เลือกถึง 8 ไส้ ได้แก่ หมูหย็องพริกเผา, ลูกเกด, นูเทลล่า, ไส้กรอกชีส, ไก่, เขียวหวาน, คั่วกลิ้ง และที่ขาดไม่ได้ก็คือ เนยสด ซึ่งใครได้ลองชิมล้วนติดใจ

“เวลาใครกินก็จะติดใจเนยสด เอาไปให้ใครกินทุกคนบอกทำไมนุ่มอย่างนี้ อร่อยหอม เฟิร์นชอบเอาไปแจกกองถ่าย พี่ๆ นางเอกก็บอกจะกินนิดเดียวพอ แต่อยู่ๆ ก็หมดเฉยเลย” แม่ค้าสาวว่าพลางยิ้ม

5

ยิ้มเพราะมั่นใจในคุณภาพของสินค้าตัวเอง

“จุดเด่นของขนมปังเราคือ เรื่องรสชาติ รสสัมผัสทุกอย่างกินไปไม่ผิดหวังแน่นอน ไม่ได้อวยของตัวเอง มีคนมาอวยให้เยอะเลยค่อนข้างมั่นใจ อีกจุดหนึ่งคือขนาด ขนาดใหญ่มาก ชิ้นละ 40 บาท แต่ขนาดใหญ่กว่าหน้าเราอีก เพราะเราเน้นชิ้นใหญ่ให้มันเต็มคำ ไม่หวงไส้”

ที่สำคัญ เฟิร์นย้ำ “สะอาด ปลอดภัยแน่นอน”

และหลังจากเปิดให้โทรสั่งซื้อที่ (095) 295-9287 (คุณไก่) หรือทางไลน์ไอดี Ohhobowy1 มาได้สักระยะ ผลตอบรับถือว่าค่อนข้างดี ขายได้เฉลี่ยอยู่ที่วันละ 50 ชิ้น ซึ่งช่วงว่างๆ ดาราสาวจะทำหน้าที่สารถีนำส่งด้วยตัวเอง โดยถ้าสั่ง 30 ชิ้นจะคิดค่าส่งตามระยะทาง แต่ถ้าสั่ง 100 ชิ้นขึ้นไปนั้นส่งฟรี

4

“แต่ อย่างบ้านเฟิร์นอยู่พุทธมณฑล สาย 4 ถ้าใครอยู่ใกล้ๆ อยากจะกินแค่ 3-4 ชิ้นก็มานัดรับกันแถวๆ นั้นได้ ขอขั้นต่ำ 3-5 ชิ้น” สาวเจ้ารีบขายของ

ขณะเดียวกันก็ว่า “คนต่างจังหวัดก็มาโพสต์ไอจีว่าเมื่อไหร่จะได้กิน ก็กำลังจะคิดค้นว่ามีที่ไหนที่เขาสั่งแล้วจะได้ในวันเดียว เพราะไม่อยากให้มันไปค้างนาน กำลังหาวิธีอยู่ แล้วก็เรื่องของหน้าร้าน”

“อนาคตก็จะมีการขยาย บางคนเขาไม่ได้อยากสั่งเยอะขนาดนั้น กินแค่ชิ้นสองชิ้น ก็ต้องมีหน้าร้าน ซึ่งกำลังคุยเรื่องที่อยู่ เล็งไว้ที่ตลาดหัวมุม เกษตร-นวมินทร์ ซึ่งเราไม่ได้แค่เปิดขาย เพราะจะทำตรงนั้นแล้วก็ขายตรงนั้นเลย ขนมปังต้องทำสดๆ ออกจากเตาหอมๆ กรุ่นๆ ซึ่งคาดว่าจะเปิดร้านได้ไม่เกินเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2560”

อย่างไรก็ตาม แม้จะขายดิบขายดี แต่ก็ไม่วายมีผู้ครหาว่าเพราะเธอเป็น “ดารา” จึงทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ

นั่นทำเอาเฟิร์นถึงกับรีบแก้ “จริงๆ แล้วไม่ใช่นะ”

_-1

“ดาราที่เจ๊งเยอะนะ เขาน่าจะทราบ นักธุรกิจหลายคนที่ประสบความสำเร็จใหญ่ๆ โตๆ หลายคนก็ไม่ใช่ดารา เป็นคนธรรมดา เพียงแต่ว่า ณ ตอนนี้สินค้าที่ออกมาถ้ามันไม่เจ๋งจริง หรือไม่ดีจริงมันก็อยู่ไม่ได้ ต่อให้เป็นดาราก็ขายได้ประเดี๋ยวประด๋าว ถ้าของไม่ดีจริงก็จบ”

“เราไม่อยากให้มีความคิดแบบนี้” เธอยืนยัน

“มันจะทำให้เขาไม่สู้ เพราะยังไงก็ขายสู้ดาราไม่ได้ ทั้งที่จริงๆ ทุกคนมีศักยภาพเท่ากันหมด ถ้าเรามีของดีลุยเลย เฟิร์นเชื่อว่าหลายคนไม่อยากเป็นลูกน้องใครหรอก ก็อยากเป็นเจ้านายทั้งนั้น อยากเป็นเจ้าของกิจการแต่มันต้องแลกมากับอะไรต่างๆ ทั้งนั้น อดทน สู้ ลุย เท่านั้นเอง”

_

เหมือนกับที่คนพูดพยายามลุยอยู่จนกิจการรุดหน้าไปมาก แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ผลีผลามคิดการใหญ่โต

ด้วยเหตุผล “ช่วงนี้เฟิร์นมีโอกาสได้ไปทำงานตามรอยโครงการพระราชดำริต่างๆ ได้เห็นที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงริเริ่มมา สิ่งที่เฟิร์นสัมผัสได้คือ โครงการของในหลวงทุกๆ โครงการเป็นสิ่งที่ง่ายๆ คือเบสิกมาก”

“อย่างที่ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ แต่ก่อนเขาจะปลูกฝิ่นกัน ในหลวงขึ้นไปเห็นคนมีอาชีพปลูกฝิ่นที่อยู่บนดอยอย่างเดียวแล้วก็ผอม ในหลวงทรงคิดง่ายมาก คือผอมใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นให้พันธุ์ข้าวไปปลูกข้าวกินจะได้อ้วนๆ คือแนวคิดท่านง่ายๆ แล้วก็ได้ผลเลย ตอบโจทย์เลย อยู่ที่ว่าใครจะเอาไปใช้เท่านั้นเอง เราไม่ต้องไปคิดให้ ไม่ต้องทำอะไรให้ซับซ้อน แต่ต้องสามารถดูแลได้อย่างทั่วถึง และทำให้มันมีประสิทธิภาพได้แล้วมันก็จะประสบความสำเร็จเอง”

“อย่างตอนนี้หลายๆ คนจะคิดว่าถ้ามีออร์เดอร์เยอะแล้วซื้อนี่เพิ่มไหม ขยายตรงนี้ไหม ตรงนั้นไหม มันไม่จำเป็นต้องขยายอะไรเลย ต้องคิดว่าถ้าขยายต้องมีอะไรเพิ่มบ้าง สมมติต้องซื้อเตาเพิ่มอีกเตาหนึ่ง กรณีเรายังไม่มีหน้าร้าน เราต้องเสียค่าบำรุง ค่าซ่อมแซม ค่าแก๊ส ทุกอย่าง สิ่งที่เราเสียไปมันคุ้มค่าไหมกับสิ่งที่เราได้รับ”

“อย่าคิดแต่ว่าจะต้องขยายจะต้องเพิ่มเติม จะเอาอันนี้เพิ่ม เอาอันนั้นเพิ่ม เราต้องมองสิ่งที่มันมีก่อน ทำสิ่งที่เรามี ดูแลให้มันดีให้มันทั่วถึง ในอนาคตถ้ามันถึงจุดที่จะต้องขยายมันก็ขยายเอง โดยไม่ต้องมานั่งคิดว่าจะขยายไหมในตอนนี้ทั้งที่ไม่มีรายได้เพิ่ม”

นอกจากนี้ ยังมีอีกเหตุผลคือ “จริงๆ แล้วที่บ้านเขาไม่ได้นั่งนึกว่าอาชีพไหนจะทำกำไรได้เยอะ หรืออาชีพไหนจะทำกำไรได้น้อย แต่ทำธุรกิจจากสิ่งที่เรารักก่อน”

_-_1

“พอเป็นสิ่งที่เรารัก แล้วถามว่ากำไรขนมปังที่เฟิร์นได้ ได้เยอะไหม ก็อยู่ได้ ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกว่าขาดทุนเยอะจนเกินไป หรือเอาเปรียบคนกินเยอะจนเกินไป มันอยู่ในความสมดุลทุกอย่าง ทั้งความสุขที่ได้ทำอาชีพนี้ ทั้งสิ่งที่ตอบแทนมามันสร้างความสุขให้อีกทบหนึ่ง อีกอย่างเราได้ขายของที่มีคุณภาพให้คนได้กินกันถือว่าเป็นความสุขอีกอย่างหนึ่ง ความสุข 3 เด้งแบบนี้ ถือว่าตอบโจทย์นะกับสิ่งที่เราทำ” เฟิร์นบอกพลางยิ้ม

และว่าทิ้งท้ายถึงความคาดหวัง “เฟิร์นก็อยากให้มันเติบโตไปเรื่อยๆ ในแบบของมัน อยากให้คนกินขนมของเราแล้วชอบ ถ้ามันอร่อย ถ้ามันเจ๋งจริง เดี๋ยวมันก็เติบโตไปในสเต็ปของมันเอง”

“เราก็พร้อมจะเติบโตไปกับมัน”