ผู้เขียน | เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
“ฟาร์มไข่มุก” ไม่ได้ทำกันง่ายๆ เลี้ยงหอย 100 ตัว ได้มุก 30 เม็ด!
ปัจจุบัน ฟาร์มไข่มุกกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของภูเก็ตไปเสียแล้ว
นักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นคนไทย คนต่างชาติ โดยเฉพาะคนจีนจะพากันไปดูการทำฟาร์มไข่มุก
ผมเองก็ไปดูไปชมกับเขาเหมือนกัน
ฟาร์มไข่มุกที่ว่านี้มีชื่อว่า บริษัท ภูเก็ต เพิร์ล อินดัสทรี จำกัด ตั้งอยู่บริเวณอ่าวระบำทางทิศตะวันออกของเกาะภูเก็ตในแถบทะเลอันดามัน
เป็นฟาร์มที่ตั้งอยู่ห่างจากฝั่งประมาณ 1 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางด้วยเรือประมาณ 5 นาทีเท่านั้น
ที่ฟาร์มจะมีพนักงานของบริษัทให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวและอธิบายถึงการเพาะเลี้ยงไข่มุกจากหอยอย่างคร่าวๆ ให้ทุกคนที่ไปเยี่ยมชมได้รับรู้
วันนั้นเราโชคดีที่มี คุณศรันย์ สมรักษ์ พนักงานระดับหัวหน้าได้เป็นผู้อธิบาย
เราจึงได้รู้ว่า ทะเลรอบเกาะภูเก็ตเป็นที่เหมาะสมในการเลี้ยงมุก เพราะมีสภาพแวดล้อมที่มีการขึ้นลงของน้ำ 2 ครั้ง ต่อวัน ทำให้มีผลให้เกิดอาหารของหอยมุกตามธรรมชาติอย่างสมบูรณ์
อุณหภูมิของน้ำทะเลก็พอเหมาะ หอยมุกชอบ ทำให้ช่วยในการเจริญเติบโตของหอยมุก
ที่สำคัญเป็นทะเลเปิด น้ำทะเลหมุนเวียนได้ทั้งปี ทำให้น้ำทะเลสะอาด
หอยมุกที่นำมาเลี้ยงเพื่อให้เกิดไข่มุกมี 3 ชนิด
ชนิดแรกคือ หอยมุกกวาง หรือหอยปีกนก มีลักษณะเหมือนปีกนกเวลากางออก
ชนิดต่อมาคือ หอยมุกแกลบ หอยมุกกระจิ หอยมุกกระแจะ สุดแล้วแต่จะเรียก
อีกชนิดหนึ่งคือ หอยมุกจาน มีขนาดใหญ่สุด
หอยทุกชนิดหาได้จากภูเก็ตโดยผู้เลี้ยงจะซื้อจากชาวประมง
พอได้หอยมาแล้วก็จับอ้าปากเพื่อฝังแกนมุกบริเวณติ่งเพศของหอย
ขั้นตอนนี้ต้องอาศัยผู้ชำนาญพิเศษ มิฉะนั้นจะทำให้หอยตายได้
เมื่อตรวจดูหอยดีแล้วว่ายังไม่ตายจึงเจาะรูเพื่อร้อยเป็นพวง พวงละ 3-4 ตัว แล้วนำไปแขวนหย่อนลงเลี้ยงในทะเลประมาณ 1 ปี แล้วนำขึ้นมาเปิดฝาหอยเพื่อเอาไข่มุกที่อยู่ภายในออกมา
คุณศรันย์ บอกว่า การเพาะเลี้ยงหอยมุกเพื่อให้ได้ไข่มุกฟังแล้วดูเหมือนง่าย แต่ทำจริงค่อนข้างยาก เพราะจะต้องอาศัยประสบการณ์และความชำนาญเป็นพิเศษ
ทั้งๆ ที่มีประสบการณ์แล้วก็จริง แต่ยังได้ผลเพียง 30 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
ไข่มุกทั่วไปจะมีสีขาวและครีม แต่ที่ฟาร์มแห่งนี้สามารถเพาะเลี้ยงหอยให้ผลิตไข่มุกสีรุ้งอมฟ้าและรุ้งอมทอง เป็นลักษณะโดดเด่นได้
ไข่มุกที่ได้จากหอยมุกจานจะมีเม็ดขนาดใหญ่สุด
มีพวกเราคนหนึ่งอยากรู้ว่าจะตรวจสอบได้อย่างไรว่าเป็นไข่มุกปลอมหรือไข่มุกแท้
คุณศรันย์ อธิบายว่า ไข่มุกแท้จะมีผิวขรุขระเล็กน้อย ส่วนไข่มุกปลอมจะกลมดิกผิวเสมอกันหมด
การทำฟาร์มไข่มุกไม่ได้หมายความว่านำไข่มุกออกจากตัวหอยได้แล้วก็จบ
สิ่งสำคัญไม่แพ้การทำฟาร์มก็คือ การนำไข่มุกแต่ละชนิดที่ผลิตไปทำเป็นเครื่องประดับ
พอทำเสร็จก็ต้องวางแผนการตลาดอีก
ฉะนั้น หลังจากเราได้ชมฟาร์มไข่มุกเสร็จก็ได้เดินทางต่อไปยังโชว์รูมแสดงสินค้าซึ่งก่อสร้างเป็นตึกทันสมัยหลายชั้น
ที่โชว์รูม เราได้พบกับเจ้าของตัวจริง คือ คุณอมร อินทรเจริญ
คุณอมรพาเราชมเครื่องประดับจากไข่มุกชนิดต่างๆ ทั้ง สร้อย กำไล เข็มกลัด ต่างหู ล้วนแต่สวยงามน่าซื้อ เพราะนอกจากดูสวยแล้ว ยังต้องเป็นไข่มุกแท้แน่ๆ
คนที่มีฐานะดีๆ คือ มีเงิน รับรองว่าเห็นแล้วจะต้องอดใจไม่ไหว ต้องซื้ออย่างแน่นอน ถ้าเป็นผู้หญิงก็ซื้อใช้เอง ถ้าเป็นผู้ชายก็ซื้อฝากแฟนอะไรทำนองนั้น
แต่ที่โดดเด่นที่สุดเห็นจะเป็นมงกุฎประดับไข่มุกของสาวงามทั้งไทยและเทศที่ปรากฏอยู่ในตู้โชว์
คุณอมร บอกว่า บริษัทได้รับเกียรติให้ออกแบบมงกุฎไข่มุกมาแล้วหลายเวที เช่น มงกุฎของนางงามสิงคโปร์ มิสไทยแลนด์เวิลด์หลายสมัย มิสเวิลด์สวิตเซอร์แลนด์ และนางงามพม่า
แต่ละมงกุฎราคาเป็นล้านบาท
นอกจากบริษัทรับทำมงกุฎไข่มุกให้กับการประกวดนางงามดังกล่าวแล้ว ยังได้ทำเพิ่มขึ้นอีกชุดเพื่อจัดแสดงไว้ในตู้โชว์อย่างดี เพื่อไว้ให้คนมาชื่นชม
ผู้ใดต้องการเห็นมงกุฎไข่มุกประดับเพชรสวยๆ ให้ไปดูได้ที่นี่
อย่างไรก็ตาม กว่าบริษัทจะมาถึงวันนี้ได้ คุณอมร เล่าให้ฟังว่า ใช้เวลานานถึง 40 กว่าปี (เริ่มประกอบการปี2519)
การทำฟาร์มเลี้ยงหอยมุกเป็นอาชีพที่ได้สืบทอดภูมิปัญญาจากบรรพบุรุษมารุ่นต่อรุ่น
เมื่อ 50 ปีที่แล้วอาก๋งของคุณอมรเริ่มทำฟาร์มมุก
จนต่อมาถึงรุ่นคุณพ่อ มีการรวบรวมพันธุ์หอยจากจังหวัดอื่น เนื่องจากหอยมุกจากธรรมชาติในจังหวัดภูเก็ตลดลง อีกทั้งยังได้พบการตายของหอย จึงต้องหยุดกิจการไประยะหนึ่ง
พอมาถึงรุ่นหลานคือคุณอมรได้ทำฟาร์มเพาะเลี้ยงไข่มุกขึ้นมาใหม่ ซึ่งจากเดิมพอผลิตไข่มุกได้ก็จะขายเพียงอย่างเดียว ภายหลังจึงได้นำไข่มุกมาประกอบเป็นเครื่องประดับ จนเป็นอุตสาหกรรมครบวงจรและพบกับความสำเร็จได้เหมือนทุกวันนี้
ผู้สนใจต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับไข่มุกหรือต้องการซื้อเครื่องประดับไข่มุก ติดต่อได้ที่ คุณศรันย์โทรศัพท์ (081) 392-4949