เด็กใต้อดีตเย็บผ้าโหล ไต่เต้าสู่ช่างซ่อมยีนส์เบอร์หนึ่ง เคยแก้ทรงยีนส์ราคาครึ่งล้าน

อดีตเด็กเย็บผ้าโหล ไต่เต้าสู่ช่างซ่อมยีนส์เบอร์หนึ่ง เคยแก้ทรงยีนส์ราคาครึ่งล้าน


โลดแล่นอยู่ในวงการ “ยีนส์” มานานกว่า 23 ปี
สำหรับ ช่างรัช หรือ “วิรัช พฤกษา” จนได้รับฉายาจากลูกค้าว่าเป็น “ช่างซ่อมกางเกงยีนส์เบอร์หนึ่งของเมืองไทย” เพราะผู้ที่มาใช้บริการต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า สามารถซ่อมยีนส์ ได้ทุกอาการ นับตั้งแต่ โหลดเอว คว้านเป้า เว้าเข่า เขย่าสะโพก โยกปลายขา หรือตัดปะ ก็ออกมาสวยทรงเดิมเป๊ะ เปลี่ยนยีนส์ทุกตัวให้กลายเป็นยีนส์ตัวเก่ง สวมใส่ได้ทุกสถานการณ์

img_3236
วิรัช พฤกษา

ประวัติช่างรัช ปัจจุบันอายุ 50 ปี เกิดและเติบโตที่อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา หลังจบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ไม่มีโอกาสได้เรียนต่อ จึงเลือกที่จะเข้ามาหางานทำที่กรุงเทพฯ ก่อนจะเป็นช่างซ่อมยีนส์ชื่อเสียงโด่งดัง อดีตเคยเป็นช่างซ่อมแอร์ และพนักงานขายของที่ห้างสรรพสินค้า

“ผมเข้ามาอยู่กรุงเทพฯ พักอยู่กับญาติที่มีอาชีพเย็บผ้าโหล มองว่ารายได้ดีกว่างานอื่น ราวปี 2535 ฝึกเย็บผ้าจริงจัง เมื่อฝีมือดีขึ้น เริ่มรับงานเอง ส่งลูกค้าที่ประตูน้ำ โรงเกลือ รายได้ดีขึ้นตามลำดับ สูงสุดเคยได้วันละ 500 บาท แต่ทว่าตลาดโรงเกลือไฟไหม้ รายได้ก็ลดลง หนที่สุดหันไปตัดขากางเกงยีนส์กับเพื่อนที่ห้างมาบุญครอง หลังเย็บผ้าโหลได้เพียง 2 ปี”

จากเหตุการณ์ไฟไหม้ที่โรงเกลือ  ช่างรัช บอกว่า งานเย็บผ้าโหลก็ลงลง ประกอบกับเพื่อนชวนไปตัดขากางเกงยีนส์ มีรายได้วันละ 50 บาท อาศัยว่าไม่ท้อเพราะบ้านอยู่ห้วยขวาง นั่งรถเมล์ไปมาบุญครอง ใช้จ่ายอย่างประหยัด ขยันพัฒนาฝีมือ ระยะเวลา 2 ปี รายได้ขยับเพิ่มขึ้น สูงสุดวันละ 2,000 บาท เลยทีเดียว

image1

งานตัดขากางเกงยีนส์กำลังไปได้ด้วยดี ช่างรัชขยับจากลูกจ้าง ขึ้นมาเปิดร้านร่วมกับเพื่อนๆ อยู่ที่ห้างมาบุญครองนานถึง 17 ปี แต่แล้วมีเหตุการณ์ที่ทำให้ช่างรัชพลิกบทบาทมาจนทุกวันนี้

ช่างรัช เล่าว่า มีลูกค้าคนนึงเอากางเกงยีนส์มาให้แก้ทรงจากทรงกระบอกเป็นทรงขาม้า ผมทำไม่เป็น แต่ไม่กล้าปฏิเสธ ใช้วิธีไปซื้อกางเกงยีนส์มาลองแกะแบบ ไปเรียนจากช่างอื่นบ้าง กระทั่งแก้ทรงเป็น หัดทำบ่อยๆ เริ่มเชี่ยวชาญมากขึ้น ลูกค้าบอกปากต่อปาก รายได้เพิ่มขึ้นถึงวันละ 4,000 บาท แต่แล้วเมื่อปี 2554 ต้องย้ายร้านจากมาบุญครองมาอยู่ชั้น 2 โรงหนังลิโด้ (สยาม) เนื่องจากแบกรับค่าเช่าร้านเดิมไม่ไหว แม้จะมีรายได้เดือนละหลักแสนบาทก็ตาม

image2

“ค่าเช่าพื้นที่ค่อนข้างสูง ซึ่งผมไม่ต้องการผลักภาระให้ลูกค้า ขณะเดียวกันอยากให้ลูกค้าทุกระดับชั้นสามารถเข้ามาใช้บริการได้ เลยตัดสินใจย้ายร้านมาเปิดที่ชั้น 2 โรงหนังลิโด้ (สยามสแควร์) แต่ช่วงที่ย้ายร้านไม่ได้บอกลูกค้า ส่งผลให้รายได้ลดลง จากเดือนละหลายแสนบาท เหลือเพียงแค่เดือนละ 3 หมื่นบาท อาศัยปี 2558 เริ่มเล่นเฟซบุ๊ก เปิดแพจร้านในเฟซบุ๊ก ช่วยให้ลูกค้าหน้าเก่ากลับมา พร้อมกับมีลูกค้าหน้าใหม่”

สำหรับบริการร้านเดอะแมชชีน  มีตั้งแต่ โหลดเอว คว้านเป้า เว้าเข่า เขย่าสะโพก โยกปลายขา ตัดปะ  ราคายีนส์มีตั้งแต่หลักพันบาท ไปจนถึงตัวละ5แสน เช่น Levi’s BIG E SUPER VINTAGE (ลีวายส์ บิ๊ก อี วินเทจ) ก็เคยมีลูกค้านำมาแก้ทรง จากเอว 38 เหลือเอว34 เพราะกางเกงยีนสมัยก่อน เช่น ลีวายส์ ต้องนำเข้าจากอเมริกา หากเป็นมือสองจะนำเข้าจากมาเลเซีย ส่วนใหญ่เป็นไซซ์ฝรั่ง ขาจะยาวกว่ามาตรฐานคนไทย ต้องนำมาตัดขาทุกตัว เพราะยีนส์ไม่ว่าราคาจะแพงแค่ไหน ถูกใจ แต่ไม่ได้ดั่งใจทุกตัว

ถามว่าทำไมลูกค้าถึงมั่นใจให้แก้ทรงยีนส์ราคาครึ่งล้าน ช่างรัช บอกว่า หัวใจสำคัญอยู่ที่ฝีมือ เพราะอยู่ในอาชีพนี้มานานกว่า 25 ปี ที่ผ่านมาลูกค้าเป็นกระบอกเสียงให้มาตลอดทั้งที่ไม่เคยโฆษณาเลย นอกจากนั้นต้องเข้าใจว่าลูกค้าต้องการอะไร สามารถให้คำแนะนำได้ เพราะการแก้ทรงไม่ได้ทำให้ความเป็น แบรนด์นั้นๆ หายไป เพียงแต่อาจเสียความเป็นรูปแบบดั้งเดิม แต่การแก้ทรงให้เข้ากับรูปร่างคนใส่และได้ออกมาตามที่ลูกค้าต้องการน่าจะได้ประโยชน์ในการสวมใส่มากกว่า

image2

สำหรับคนดังมีชื่อเสียงที่เคยมาใช้บริการ อาทิ ตูน บอดี้สแลม พีท ทองเจือ เป้ อารักษ์ โดม ปกรณ์ ลัม ปั๊ป โปเตโต้ เสกโลโซ มาริโอ้ เมาเร่อ กิตติ สิงหาปัด เป็นต้น

ซึ่งล่าสุดช่างรัช ใช้ความถนัดของตัวเอง ต่อยอดธุรกิจสร้างแบรนด์เสื้อผ้าที่ตัดเย็บจากผ้ายีนส์ themachinebkk มีทั้งกางเกงยีนส์ เเละชุดสูท ราคาเริ่มต้น 3,850 บาท