อดีตพนักงานซีพี เลือกเลี้ยงหมูด้วยระบบปิด มีรายได้เดือนละ2แสน

อาชีพพนักงานบัญชีในบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ที่มีความมั่นคง มีเงินเดือนที่เพียงพอสำหรับครอบครัวและเหลือเก็บเพื่ออนาคต เป็นความฝันที่กลายเป็นความจริง สำหรับ คุณทรงวุฒิ นิ่มนวล และการได้ทำงานบัญชีกับ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ทำให้เขามีโอกาสได้ดูแลรายรับ-รายจ่าย ของเกษตรกรในโครงการคอนแทรกต์ฟาร์ม หรือโครงการฝากเลี้ยงสุกรขุนกับ ซีพีเอฟ จึงทราบว่าโครงการนี้เป็นการสร้างอาชีพที่มั่นคงและสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้กับเกษตรกรทั่วประเทศได้ เมื่อมีการขยายโครงการไปยังพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี คุณทรงวุฒิจึงยื่นขอเข้าร่วมโครงการเพื่อหวังให้อาชีพนี้เป็นอีกหนึ่งรายได้เสริมจากงานประจำที่ตนเองทำอยู่

หลังจากบริษัทพิจารณาให้สามารถเข้าร่วมโครงการฝากเลี้ยงหมูขุนแล้ว ในปี 2556 คุณทรงวุฒิ จึงสร้าง “สุวิทย์ฟาร์ม” ที่ ต.แก่งโดม อ.สว่างวีรวงษ์ จ.อุบลราชธานี เลี้ยงหมูขุน จำนวน 3,600 ตัว ในโรงเรือน 6 หลัง ที่เป็นระบบการเลี้ยงแบบฟาร์มปิด เลี้ยงในโรงเรือนอีแวป พร้อมสร้างระบบบำบัดน้ำด้วยไบโอแก๊สที่สามารถปั่นกระแสไฟฟ้าใช้เองภายในฟาร์ม โดยตอนแรกเขาจ้างให้คนงานดูแลฟาร์ม เนื่องจากตนเองยังคงทำงานประจำ และมีทีมงานของ ซีพีเอฟ ที่เข้ามาคอยช่วยเหลือดูแล มีสัตวแพทย์และสัตวบาลมาถ่ายทอดความรู้ เทคนิคการเลี้ยงมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผลการเลี้ยงก็อยู่ในเกณฑ์ดี สามารถผ่อนชำระเงินกู้กับสถาบันการเงินได้ตลอด และยังมีเงินเหลือใช้จ่าย และเก็บออมดังที่เคยเป็น กระทั่งเวลาล่วงเลยมากว่า 1 ปี การเลี้ยงหมูที่เป็นอาชีพเสริมในตอนแรกประสบความสำเร็จอย่างดี เขาจึงคิดว่าหากสามารถทำผลการเลี้ยงให้ดีขึ้น หมูมีอัตราแลกเนื้อดี การเจริญเติบโตของหมูที่ดีขึ้น ก็น่าจะได้ผลตอบแทนที่ดีขึ้น ทำให้คุณทรงวุฒิ ตัดสินใจลาออกจากบัญชีฟาร์ม ทิ้งเงินเดือน 35,000 บาท หันหลังให้เมืองกรุง เพื่อกลับไปบริหารงานฟาร์มด้วยตัวเอง

“หลายคนถามว่า ทำไม ถึงตัดสินใจแบบนี้ คำตอบนั้นง่ายมากคือ ผมยังคงอยู่กับ ซีพีเอฟ ซึ่งเป็นบริษัทที่มั่นคง เราไม่มีความเสี่ยงทั้งเรื่องของต้นทุนการเลี้ยง และไม่ต้องเสี่ยงกับตลาดที่ผันผวน โดยเฉพาะในภาวะราคาที่ลดต่ำลงจนวิกฤตอย่างในปัจจุบันนี้ก็ตาม เพราะมีบริษัททำหน้าที่เป็นตลาดรองรับผลผลิตให้ทั้งหมด ถ้าวันนี้ผมเลี้ยงหมูอิสระ ก็คงมีภาระหนัก เพราะตลาดหมูที่มีจำกัดและราคาก็ซบเซา การที่ผมอยู่ในโครงการสิ่งที่ต้องทำคือ การทำผลผลิตให้ดีที่สุด มีการเลี้ยงตามมาตรฐาน สามารถป้องกันโรคได้อย่างที่สัตวแพทย์แนะนำ ก็จะทำให้มีอัตราเสียหายต่ำ เพียงเท่านี้ก็ยั่งยืนแล้ว” คุณทรงวุฒิ บอก

    อดีตหนุ่มบัญชีที่ผันตัวเองเป็นเกษตรกรเต็มตัว บอกว่า ก่อนที่จะตัดสินใจเป็นเกษตรกร ก็เพราะคิดว่าอาชีพนี้สร้างความมั่นคงให้กับตัวเองได้ กระทั่งในปี 2559 ที่ ซีพีเอฟ ได้ปรับปรุงสัญญาคอนแทรกต์ฟาร์มมิ่งที่ใหม่ให้มีความทันสมัยตามหลักสากล ของ UNIDROIT (The International Institute for the Unification of Private Law) ซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระทางกฎหมายสากล อันดับ 1 ของโลก เพื่อให้สัญญามีความเป็นระบบมากขึ้น รวมถึงปรับปรุงผลตอบแทนการเลี้ยงใหม่ จากการให้ความสำคัญกับเกษตรกร ในฐานะ “พันธมิตรธุรกิจ” ที่จะเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน ยิ่งทำให้ คุณทรงวุฒิ มองเห็นภาพอนาคตของตนเองได้ชัดขึ้น

“ผมมั่นใจว่า เป็นการตัดสินใจเลือกทำธุรกิจกับบริษัทที่ถูกต้อง อาชีพเลี้ยงหมูกับ ซีพีเอฟ ช่วยสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับครอบครัวของผม ทำให้มีรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายประมาณ 2 แสนบาท ต่อเดือน ที่สำคัญยังได้ใช้ชีวิตกับครอบครัว ได้อยู่กับภรรยาและลูก ในอนาคตหากมีการขยายโครงการก็อยากจะเพิ่มการเลี้ยงหมูอีก 6 หลัง และจะทำให้อาชีพนี้กลายเป็นมรดกให้กับลูกต่อไป” คุณทรงวุฒิ บอกถึงแผนในอนาคตอย่างภูมิใจ

คุณทรงวุฒิ เป็นหนึ่งในตัวอย่างของเกษตรกรรุ่นใหม่ที่กล้าคิด กล้าตัดสินใจ และพยายามพัฒนาอาชีพการเลี้ยงหมูของตนเองอย่างต่อเนื่อง และใส่ใจในทุกรายละเอียดเพื่อความสำเร็จในอาชีพ