ผู้เขียน | ภาวิณีย์ เจริญยิ่ง |
---|---|
เผยแพร่ |
ในอดีตลำไยอาจจะนำมาแปรรูปได้ไม่กี่อย่าง เช่นนำมาอบแห้งทำน้ำลำไย หรือเป็นส่วนผสมในขนมหวาน แต่ปัจจุบันได้มีการนำลำไยทั้งสดและแห้งมาใช้เป็นวัตถุดิบในการทำอาหารคาวหวานสารพัด เช่น เค้กลำไย กาแฟลำไย ลำไยเนื้อสีทองเคลือบช็อกโกแลต วัตถุประสงค์อย่างหนึ่งคือ เพื่อดึงดูดให้ชาวต่างชาติและเด็กรุ่นใหม่ได้หันมาบริโภคกัน ซึ่งปรากฎว่าได้รับความนิยมอย่างดี โดยในส่วนของวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านริมร่อง ต.มะเขือแจ้ อ.เมือง จ.ลำพูน เป็นกลุ่มที่ผลิตลำไยเนื้อสีทองเคลือบช็อกโกแลต ขายอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ภายใต้แบรนด์สวัสดี( Sawasdee) มีวางขายที่คิงส์ พาวเวอร์ ในท็อป ซุปเปอร์มาร์เก็ต และห้างอีกหลายแห่งที่เชียงใหม่
ขายในคิงพาวเวอร์
คุณเกษร ชัยพนัส ที่ปรึกษาของวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านริมร่อง ย้อนความเป็นมาของกลุ่มให้ฟังว่า ตั้งมาเมื่อปี 2549 โดยการรวมตัวกันของสมาชิกกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรที่ทำลำไยอบแห้งเนื้อสีทองในตำบล จำนวน 10 คน และเมื่อลูกสาวคือ“ปิยะภรณ์ สมพงษ์” ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่เรียนจบด้านบริหารธุรกิจ ระดับปริญญาตรี ก็มาช่วยงาน โดยรับหน้าที่ประธานกลุ่ม พร้อมได้พัฒนากระบวนการผลิต ตั้งแต่การคัดเลือกลำไย การกว๊านเม็ดออก และหันมาใช้เครื่องอบเพื่อให้มีคุณภาพ จนได้วางขายในคิงพาวเวอร์ และเมื่อปี2556ลำไยอบแห้งเนื้อสีทองของกลุ่มได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดโอท็อประดับประเทศ
บรรดาสมาชิกวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านริมร่อง
ในการทำลำไยอบแห้งนั้น คุณเกษรแจกแจงว่า ใช้พันธุ์อีดอนำมาแกะทำเป็นลำไยอบแห้งสีทอง ถ้าพันธุ์อื่นจะไม่อร่อย จุดเด่นของผลิตภัณฑ์แบรนด์สวัสดีคือเป็นลำไยอบสีทองที่มีรสชาติหวาน ลูกใหญ่ เนื้อหนา เป็นเกรดพรีเมียม ส่วนช็อกโกแลตลำไยก็นำลำไยมาเคลือบช็อกโกแลต ซึ่งขายดีมาก แต่สินค้าขายดีที่สุดคือ น้ำลำไยน้ำพร้อมดื่ม และน้ำลิ้นจี่ ตอนนี้กำลังจะของบประมาณจาก ธกส. ตั้งเป็นโรงงาน โดยมีกลุ่มทางมหาวิทยาลัยเชียงใหม่(มช.) มาช่วย อาจจะใช้เวลาก่อสร้างสัก 1-2 ปี
“ ที่ผ่านมากลุ่มได้ไปจัดงานออกบูธที่เมืองจีน ซึ่งเป็นครั้งแรก คู่แข่งก็มีเยอะ แต่อยู่ที่คนรับประทานว่า เมื่อทานแล้วอร่อยไหม สะอาดไหม คนที่มองภาพเมื่อก่อนลำไยสีทองที่ชาวบ้านทำ มักไม่สะอาด แต่เดี๋ยวนี้มีการพัฒนาใหม่ โดยมีกลุ่มของเราเป็นตัวอย่าง ซึ่งเราก็ได้เครื่องหมายทุกอย่างเลย เช่น อย.ฮาลาล เราอบด้วยอินฟาเรด ทำให้กลิ่นหอม และสะอาด พร้อมกันนั้นได้ส่งไปขายที่จีนด้วย คือ คนที่ซื้อจากเรานำไปแพ็คขายต่อ แต่ในส่วนที่เราทำก็ทำในแบรนด์ของเรา”
ทั้งนี้ทางกลุ่ม ได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปลำไยอบแห้งเนื้อสีทองในรูปแบบใหม่ๆออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ตรงกับความต้องการของตลาดทุกระดับด้วยบรรจุภัณฑ์ที่สวยงามมีความหลากหลายเหมาะกับผู้บริโภคในยุคนี้
เปลี่ยนชื่อแบรนด์ให้จำง่าย
ด้านคุณปิยะภรณ์บอกว่า หลังจากเรียนจบจาก มช.ก็ตั้งใจกลับมาพัฒนาบ้านเกิด พร้อมตั้งปณิธานจะทำให้ สินค้าโอท็อปของไทยก้าวสู่สากลให้ได้ และจะเป็นวิสาหกิจชุมชนต้นแบบให้แก่วิสาหกิจอื่นๆ อย่างไรก็ตามเพื่อเตรียมเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจเออีซี ได้เปลี่ยนแบรนด์สวัสดี เป็นริม เดอ รอง( Rim de’ Rong) ซึ่งนำมาชื่อบ้านริมร่อง ต.มะเขือแจ้ อ.เมือง จ.ลำพูน เพื่อสร้างแบรนด์ให้จดจำง่าย โดยได้จดทะเบียนตราสินค้ากับกรมทรัพย์สินทางปัญญาเรียบร้อยแล้ว ภายใต้สัญลักษณ์การ์ตูนน้องลำไยกับตัวอักษร “Rim De’ Rong”
นับตั้งแต่คุณปิยะภรณณ์เข้ามาเป็นประธานกลุ่ม เธอได้แตกไลน์สินค้าอีกหลากหลาย อาทิ ‘น้ำผึ้งดอกลำไยในเนื้อลำไยสีทอง’ ซึ่งมีเสียงตอบรับที่ดี เพราะมีไฟเบอร์สูง มีสรรพคุณช่วยในเรื่องระบบขับถ่าย ส่งผลให้ได้รางวัลอท็อปชนะเลิศอันดับ 1 ของประเทศไทย
คุณปิยะภรณ์ สมพงษ์
ประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านริมร่องบอกอีกว่า อีกไม่นานจะออกผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ ซึ่งมีลักษณะเหมือนรังนก แต่ทำจากลำไย กลุ่มลูกค้าจะเป็นพวกคนรักสุขภาพ
“สินค้าโอท็อปของไทยส่งออกสู่ตลาดสากลได้แน่นอน โดยเฉพาะพวกอาหารที่มีมาตรฐานและมีเครื่องหมาย HACCP, ฮาลาล และอย.รองรับ ซึ่งแบรนด์เรามีครบ และได้รับรางวัลต่างๆ มากมาย สมาชิกในกลุ่มต่างภาคภูมิใจ วันนี้กลุ่มมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการแปรรูปลำไย เกษตรกรเองก็มีรายได้ดีตามไปด้วย ทำให้ลำไยสดไม่ล้นตลาดเหมือนในอดีต”
วันที่สนทนากันนั้นทางกลุ่มแม่บ้านได้พาไปชมโรงเรือนขนาดย่อมที่สะอาดสะอ้าน แบ่งเป็นสัดส่วนชัดเจน พนักงานสวมถุงมือและหมวกทุกคน มีเครื่องอบที่ทันสมัย ซึ่งในแต่ละวันใช้ลำไยสดประมาณ 3,000 กก. นำมาอบแห้ง แต่จะได้ผลผลิตเพียง 300 กก.เท่านั้น โดยทางกลุ่มรับซื้อลำไยสดจากจังหวัดลำพูน และหากไม่พอก็จะซื้อจากจังหวัดเชียงใหม่ สำหรับลำไยเกรด AA ราคาสูงสุดอยู่ที่ 27-28 บาท/ กก. ราคาต่ำสุดปีที่แล้ว 17-20 บาท/ กก.
เจาะตลาดในมาเลเซีย
ด้วยความพร้อมในหลายๆด้านและความเข้มแข็งของ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านริมร่อง ทำให้ได้รับการคัดเลือกเป็นวิสาหกิจชุมชนดีเด่นระดับเขต ประจำปีนี้ ของสำนักส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 จ.เชียงใหม่ พร้อมส่งเข้ารับการคัดเลือกในระดับประเทศต่อไป นอกจากนี้ยังเป็นที่ศึกษาดูงานของวิสาหกิจชุมชนกลุ่มต่างๆ เพราะใช่จะเป็นวิสาหกิจชุมชนที่ผลิตอย่างเดียว ยังทำตลาดเองอีกด้วย ซึ่งทำให้มีตลาดอย่างกว้างขวางทั้งในและต่างประเทศ
แม้วิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านริมร่องตั้งมา 6ปีกว่า แต่ที่ผ่านมากลุ่มได้พัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์มาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งแพคเกจจิ้งด้วย โดยมีหน่วยงานภาครัฐหลายแห่งเข้ามาช่วยเหลือให้คำแนะนำ ทำให้สามารถส่งขายได้ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งทางกลุ่มตั้งเป้าจะขยายตลาดไปที่ประเทศมาเลเซียเป็นแห่งแรก เนื่องจากมองว่าวิถีชีวิตของชาวมาเลเซียส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม ต้องมีพิธีละหมาด และถือศีลอด ลำไยอบแห้งเนื้อสีทองสามารถตอบโจทย์คนกลุ่มนี้ได้ จากนั้นจะเริ่มเจาะตลาดในประเทศอาเซียนต่อไป
นับเป็นวิสาหกิจชุมชนอีกแห่งที่มีอนาคต เพราะผลิตสินค้าที่ตอบสนองความต้องการของตลาดได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญยึดคุณภาพเป็นหลัก
สนใจศึกษาดูงานหรือติดต่อธุรกิจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ โทร.084-6136368, 081 9156823
หรือเข้าไปดูที่ WWW.SAWASDEELONGAN.COM