รังไหมเปล่าที่เคยไร้ค่า ถูกชาวบ้านเนรมิตเป็นเฟอร์นิเจอร์แต่งบ้านสารพัด สร้างอาชีพ-เพิ่มรายได้

รังไหม มีเส้นใยให้นำไปทอร้อยเรียงอย่างเป็นระเบียบได้ผืนผ้าที่งดงาม ส่วนรังไหมเปล่ามักถูกทิ้งไปอย่างไร้ค่า แต่ปัจจุบันมีหลายกลุ่มกิจกรรมรวมทั้งวิสาหกิจชุมชนรังไหมประดิษฐ์ ได้นำรังไหมเปล่ามาแปรรูปประดิษฐ์เป็นสิ่งของเครื่องใช้หรือทำเป็นผลิตภัณฑ์ประเทืองผิว เหมาะที่จะเป็นของใช้และเป็นของฝาก เป็นทางเลือกสู้กับวิกฤตเศรษฐกิจด้วยการสร้างโอกาสสร้างงานทำในยามว่างที่ก่อให้มีรายได้นำไปสู่วิถีการยังชีพที่มั่นคง


คุณสุพจน์ ประสมทอง เกษตรอำเภอบ้านหมอ เล่าให้ฟังว่า สภาพพื้นที่โดยทั่วไปในเขตอำเภอบ้านหมอมีความอุดมสมบูรณ์เหมาะสมต่อการเกษตร ทั้งการปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ และทำการประมงเพาะเลี้ยง การพัฒนาการผลิต ได้ส่งเสริมให้เกษตรกรสู้กับสภาวะวิกฤตเศรษฐกิจที่ผันแปรด้วยการทำการเกษตรผสมผสานหรือทำไร่นาสวนผสม ให้ผลิตในระบบเกษตรดีที่เหมาะสม GAP เพื่อให้ได้สินค้าเกษตรคุณภาพมาตรฐาน ให้มีการรวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชนทำกิจกรรมด้านการแปรรูปหรือประดิษฐ์ผลผลิตเกษตรเพื่อการเพิ่มมูลค่า และใช้เวลาในยามว่างให้เกิดประโยชน์ เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงด้านการผลิตและการตลาดเกษตร


รังไหมสู่การแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า รังไหมที่เอาเส้นใยหรือเส้นไหมออกไปหมดแล้ว หรือเรียกว่ารังไหมเปล่า รังไหมนี้จะมีลักษณะรูปทรงกลมรีใหญ่กว่านิ้วหัวแม่มือ ในอดีตรังไหมเปล่ามักถูกทิ้งไปอย่างไร้ค่า แต่เมื่อหลายปีที่ผ่านมารังไหมนี้ได้ถูกนำมาแปรรูปหรือประดิษฐ์ทำเป็นโคมไฟฟ้า กล่องใส่สิ่งของ เป็นพวงกุญแจที่สวยงาม หรือทำเป็นสบู่รังไหมผสมน้ำมันดอกทานตะวันเพื่อใช้ประเทืองผิวช่วยชะลอวัย การทำรังไหมประดิษฐ์ในวันที่ว่างจากงานในไร่นาสวนเป็นการสร้างงานเพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิตและเพื่อการเพิ่มรายได้ครัวเรือนสู่วิถีการยังชีพที่มั่นคง


คุณป้ากรองจิตต์ ขจรภัย ประธานวิสาหกิจชุมชนรังไหมประดิษฐ์ เล่าให้ฟังว่า เมื่อทำงานในไร่นาสวนเสร็จแล้วก็มักจะปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์หรือไร้ค่า ทั้งๆ ที่การยังชีพก็ยังไม่มีความมั่นคงเท่าใดนัก

ด้วยที่มีลูกหลานญาติพี่น้องทำงานที่ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี และนักวิชาการส่งเสริมการเกษตร สำนักงานเกษตรอำเภอบ้านหมอ ได้มาแนะนำหรือให้ความรู้เรื่องประโยชน์ของรังไหม ด้วยการนำรังไหมเปล่าไปประดิษฐ์ทำเป็นของใช้ต่างๆ เป็นการเพิ่มมูลค่าผลผลิต และสำนักงานเกษตรอำเภอยังได้ส่งเสริมให้เกษตรกรรวมกลุ่มทำกิจกรรมในยามว่างงานจากไร่นาสวน ซึ่งจะเป็นโอกาสในการเสริมสร้างรายได้ เมื่อนำมาคิดไตร่ตรองดูแล้วเพื่อนๆ ก็มีความคิดเห็นว่าการสร้างงานทำในยามว่างน่าจะดีกว่าปล่อยให้ลมหายใจทิ้งไปเปล่าๆ อย่างไร้ค่า

จากนั้นเพื่อนเกษตรกรจึงรวมตัวกันไปขอจดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชน ที่สำนักงานเกษตรอำเภอบ้านหมอและได้อนุมัติให้ใช้ชื่อว่า “วิสาหกิจชุมชนรังไหมประดิษฐ์” ปัจจุบันมีสมาชิก 30 ราย เป็นชาย 8 ราย เป็นหญิง 12 ราย

วัตถุประสงค์ 1. เศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในชุมชน 2. เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ชุมชนและมีการถ่ายทอดภูมิปัญญาสู่เยาวชน 3. เพื่อให้เข้าใจการทำงานระบบกลุ่ม สร้างความเข้าใจและความสามัคคีในชุมชน 4. เพื่อนำวัตถุดิบในท้องถิ่นมาเสริมสร้างรายได้ให้กับครัวเรือน 5. เพื่อให้เกิดการสร้างนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์ ยุค 4.0

กิจกรรมที่สมาชิกได้ทำร่วมกันคือ นำรังไหมเปล่ามาประดิษฐ์ทำเป็นโคมไฟฟ้า กล่องใส่สิ่งของ เป็นพวงกุญแจ ทำเป็นสบู่รังไหมผสมน้ำมันดอกทานตะวันและทำเป็นสิ่งประดิษฐ์อื่นๆ
รังไหมที่นำมาใช้ในการประดิษฐ์หรือแปรรูปได้ติดต่อขอซื้อมาจากศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี ราคา 350 บาท ต่อกิโลกรัม จะได้รังไหมประมาณ 700 รัง

โคมไฟรังไหมเย็บมือ เป็นชิ้นงานที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับสมาชิกทุกคนและชุมชน รังไหมที่ใช้จะเลือกเฉพาะสีขาวอย่างเดียว ถ้าต้องการเปลี่ยนสีก็สามารถนำรังไหมไปย้อมสีด้วยเปลือกต้นคูนก็จะได้สีน้ำตาล

โคมไฟ 1 โคมจะใช้รังไหมประมาณ 35 รังไหม เมื่อจะประกอบเป็นตัวโคมไฟก็นำรังไหมทั้งสีขาวหรือสีที่ย้อมมาตัดเป็นชิ้นขนาดเล็ก 1 รังไหม จะตัดได้มากกว่า 2 ชิ้น นำรังไหมที่ตัดแล้ว 2 ชิ้นมาประกบเข้าคู่กันเย็บด้วยด้ายให้ติดกัน

เมื่อทำได้หลายชิ้นก็นำมาเย็บเพื่อเชื่อมต่อให้ติดกันเป็นตัวโคมไฟรังไหมตามรูปทรงที่ต้องการ แล้วนำไปสวมประกอบเข้ากับตัวแป้นหรือฐานของโครงโคมไฟฟ้า เมื่อเปิดสวิตช์ไฟฟ้าก็จะได้แสงสีที่งดงามน่าใช้หรือนำไปเป็นของฝาก

นอกจากจะทำรังไหมมาประดิษฐ์เป็นโคมไฟที่งดงามน่าใช้แล้ว วิสาหกิจชุมชนก็ได้ทำรังไหมมาประดิษฐ์เป็นพวงกุญแจ ด้วยการนำรังไหมสีขาวมาเขียนวาดเติมแต่งด้วยสีต่างๆ ให้เป็นตุ๊กตารูปหนู หมู แมวสวมห่วงสำหรับสอดร้อยดอกกุญแจ จัดบรรจุใส่กล่องที่สวยงามดูแล้วทำให้น่ารัก น่าใช้ น่านำไปเป็นของฝาก

อีกชิ้นงานที่น่าสนใจคือ การทำสบู่รังไหมที่ผสมน้ำมันดอกทานตะวัน (Silk Cocoon with Sunflower oil Soap) และสารสกัดจากรังไหมแม่พันธุ์เข้าด้วยกัน เหมาะที่จะนำมาทำความสะอาดผิวหน้าอย่างอ่อนโยนช่วยให้ผิวหน้านุ่มชุ่มชื้นไม่แห้งกร้าน ประเทืองผิวช่วยชะลอวัยและให้ร่างกายสดชื่น ผลิตภัณฑ์สบู่ขนาดก้อนเล็กจะขาย 20 บาท ต่อก้อน และสบู่ก้อนใหญ่ขาย 50 บาท ต่อก้อน

การตลาด ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นจะมีวางจำหน่าย ณ ที่ทำการวิสาหกิจชุมชนรังไหมประดิษฐ์ ศูนย์แสดงและจำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ นำไปจำหน่ายในงานเทศกาลแสดงและจำหน่ายสินค้าในศูนย์การค้า นำส่งขายให้โรงแรมหรือแหล่งอื่นๆ ซึ่งก็มีผู้บริโภคให้ความสนใจซื้อไปใช้และเป็นของฝากกันอย่างแพร่หลาย

ความสำเร็จ วิสาหกิจชุมชนรังไหมประดิษฐ์ มีผลิตภัณฑ์คุณภาพหลายชิ้นงานที่ได้การคัดเลือกให้ได้รับรางวัลให้เป็นที่ภาคภูมิใจ เช่น ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์จากรังไหม ระดับประเทศ จากกรมหม่อนไหม ปี 2559 (โคมไฟรังไหมเย็บมือ) รางวัลชนะเลิศ ผลิตภัณฑ์ดีเด่น ระดับประเทศ สาขาศิลปหัตถกรรม จากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ปี 2559 นอกจากนี้ ก็ได้รับการคัดเลือกเป็น 1 ใน 25 ราย ให้ไปแสดงผลงานคุณภาพที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2560 โดยการสนับสนุนจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ

ในความงดงามของรังไหมประดิษฐ์ด้วยผลิตภัณฑ์รูปแบบต่างๆ เพื่อ…เดินตามรอยพ่อ สู่วิถีเศรษฐกิจพอเพียง ทำให้มีเงินหมุนเวียนในชุมชนและให้สมาชิกมีรายได้พอเพียงต่อการยังชีพที่มั่นคง

สอบถามเพิ่มได้ที่ คุณป้ากรองจิตต์ ขจรภัย เลขที่ 68/1 หมู่ที่ 6 ตำบลตลาดน้อย อำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี โทร. (085) 218-9310 หรือ คุณสุพจน์ ประสมทอง สำนักงานเกษตรอำเภอบ้านหมอ โทร. (036) 202-380 ก็ได้ครับ