ผู้เขียน | ดวงกมล โลหศรีสกุล |
---|---|
เผยแพร่ |
สร้างรายได้ให้เป็นกอบเป็นกำแก่หลายๆ คนมาแล้ว บางคนถึงขนาดตั้งตัวได้ สำหรับ “มะกรูด” พืชในตระกูลส้มเพราะเป็นพืชที่ขายง่าย ตลาดมีความต้องการทุกวัน ขนาดคุณอุ้ย หรือคุณพิบูลศักดิ์ ละออง เจ้าของสถานตรวจสภาพรถ อำเภอหนองม่วง จังหวัดลพบุรี ยังเอ่ยปากชมว่า “มะกรูด” สร้างรายได้ให้ไม่แพ้งานประจำ
คุณอุ้ย ปัจจุบันอายุ 34 ปี เขาเป็นเจ้าของสถานตรวจสภาพรถ อำเภอหนองม่วง จังหวัดลพบุรี พร้อมๆ กับปลูกมะกรูดไปด้วยภายในอู่ซ่อมรถ ซึ่งเขาใช้วิธีปลูกระยะชิด 50X50 ซม. ระยะนี้ปลูกเต็มพื้นที่ 1 ไร่ จะได้ 4,000 ต้น ปัจจุบันปลูกมะกรูด 2 ไร่ ก็ 8,000 ต้น ระยะเวลา 8 เดือน มะกรูดจะโตเต็มวัย จากนั้นทุกๆ 2 เดือนสามารถตัดขายได้ แต่ละรอบ ให้ผลผลิตราว 1 – 1.5 ตัน ด้านราคาขายถ้าแบบมีก้านติด กิโลกรัมละ 7-15 บาท ขายเฉพาะใบล้วนๆ กิโลกรัมละ 40-60 บาท ราคาดังกล่าวปรับขึ้น – ลง ตามฤดูกาล
คุณอุ้ย เล่าว่า จุดเริ่มต้นที่หันมาปลูกมะกรูด เพียงอยากจะมีรายได้เสริม แต่มีเงื่อนไข 4 ข้อ คือ 1.ต้องเป็นไม้ยืนต้นที่ไม่ต้องรื้อและปลูกใหม่ 2.ต้องสามารถทำได้บนพื้นที่ 1 ไร่ เพราะเดิมที่ดินมีแค่นี้ 3.ต้องเป็นพืชที่ไม่ถูกบีบเรื่องระยะเวลาการเก็บเกี่ยวและผลผลิตเสียหายง่าย 4.ต้องสามารถทำเองคนเดียวได้ จาก 4 เงื่อนไขดังกล่าวจึงมองว่า “มะกรูด” เป็นพืชที่น่าสนใจ เพราะใช้พื้นที่น้อยการจัดการบริหารพื้นที่ไม่ยุ่งยากมากนัก ถ้ามีการวางระบบการจัดการที่ดี สามารถทำคนเดียวได้ปัจจุบันปลูกมะกรูดได้ 3 ปี กลับกลายเป็นรายได้ที่ทำเงินมากกว่าที่คิดไว้เลย
“ก่อนจะปลูกมะกรูด เดิมผมปลูกมะนาวนอกฤดู เพราะเมื่อปี 55 ได้ไปอบรมเรื่องการปลูกมะนาว ที่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งมะนาวนอกฤดู ราคาดีลูกละ 7-10 บาท แต่ทว่ามะนาวนอกฤดูเก็บได้เพียงปีละครั้ง 1 ไร่ปลูกได้เพียง 100กว่าต้น ผลผลิตได้ไม่ถึง 1,000ลูก แถมมีต้นตายบ้าง หนที่สุดเลยหันมาปลูกมะกรูดทดแทน”
สำหรับเงินลงทุนแรกเริ่ม คุณอุ้ย บอกว่า มะกรูดแปลงแรก ลงทุน 1.2 แสนบาท ปลูกได้ 3,300 ต้น ใช้วิธีขยายพันธุ์แบบกิ่งตอน ต่างจาการเพาะมล็ดเกือบ 2 ปีถึงจะเก็บผลผลิตได้ ระยะเวลา 8 เดือน มะกรูดจะโตเต็มวัย จากนั้นทุกๆ 2 เดือนสามารถตัดขายได้
ด้านตลาด ชายหนุ่ม บอกว่า จะมีพ่อค้าคนกลางมารับซื้อ ซึ่งมะกรูดจะตัดขาย 2เดือนครั้ง แต่ละครั้งก็ทำเงินให้หลายหมื่นบาท รายได้นับว่าดีในระดับที่น่าพอใจ
ปัจจุบันการทำเกษตรของคุณอุ้ยเป็นเพียงอาชีพเสริมเท่านั้น เพราะงานหลักเขา คือ เป็นเจ้าของสถานตรวจสภาพรถและการเข้ามาสวมบทบาทเกษตรกร เขาหาข้อมูลไว้รอบด้าน
“คนที่คิดจะเข้ามาปลูกมะกรูด ควรศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน ถ้าอยากจะทำเป็นอาชีพจริงจัง ควรไปดูแปลงจากคนที่ประสบความสำเร็จ ถ้าอยากจะทำเป็นอาชีพเสริม ให้ไปดูคนที่เค้าทำเป็นอาชีพเสริม มันจะได้ตรงตามความคาดหวัง ควรเลือกดูจากแปลงที่มีการบริหารจัดการที่ดี จะได้เอาไปปรับใช้กับแปลงตัวเอง ปัญหาและความผิดพลาดน่ะมันมีทุกแปลง แต่อยู่ที่ว่ารู้ปัญหาแล้วทำให้มันดีขึ้นหรือเปล่า ไม่ใช่ผิดพลาดอยู่ตลอด”
คุณอุ้ย ยกตัวอย่างว่า เคยเจอปัญหาหญ้า เพราะหลังจากที่ปลูกมะกรูดไปแล้ว มีปัญหาเรื่องหญ้า เริ่มแรกใช้ฟาง พอจะคลุมหญ้าได้บ้าง แต่เมื่อเวลาผ่านไป 2-3 เดือน หญ้าเริ่มบางลง ต้องเติมฟางเรื่อยๆ ซึ่งฟางราคาค่อนข้างแพง จึงเปลี่ยนมาเป็นผ้าใช้ผ้าสปันบอน เพราะน้ำซึมผ่านได้ ระบายอากาศได้ ใช้ไปประมาณ 6-7 เดือน ผ้าไม่ทนต่อ UV เมื่อขึ้นเฟส 2 จึงหาทางบริหารจัดการกับเรื่องหญ้าให้ได้ จึงยกร่องให้สูงขึ้นกว่าเดิม เพื่อต้องการจะฉีดยาฆ่าหญ้าได้ในร่อง (ในกรณีที่ต้องการฉีด โดยไม่ให้มีผลกระทบต่อมะกรูด) ปัจจุบันเฟส 2 เรื่องหญ้าแทบไม่มีปัญหาเลย ถ้าไม่อยากให้หญ้าในร่องขึ้นอีก ก็พ่นยาคลุมหญ้าได้ เพราะความสูงของร่องที่ขึ้นไว้สูงกว่ากันถึง 60-70 ซม.เรียกได้ว่าแทบไม่มีผลต่อพืชเลย