ควันจากธูป มีส่วนทำให้เกิดโรคมะเร็งได้ ข้อนี้หลายคนคงทราบดี แต่ทว่าการใช้ธูปก็ยังคงเครื่องหมายแห่งการแสดงความเคารพสักการะสำหรับคนเมืองพุทธ

ตลาดธูป จึงเป็นตลาดที่ยังคงเติบโตได้ดี แต่ก็มีคนกลุ่มหนึ่ง ที่ถือว่าเป็นกลุ่มใหญ่ใส่ใจสุขภาพ และเห็นโทษของควันธูป เขาเหล่านี้ต้องการสินค้าที่สามารถตอบโจทย์ความปลอดภัย

“กีรตา” ธูปควันน้อย จึงเปิดตัวขึ้นเมื่อ 5 ปีก่อน โดยมี คุณพีระวัฒน์ อุรพีพัฒนพงศ์ หรือ คุณโชน เป็นเจ้าของไอเดีย

คุณโชน เล่าย้อนไปเมื่อ 5 ปีก่อน ที่ขณะนั้นยังคงทำงานประจำในตำแหน่งนักโฆษณา แต่ทว่ามีความฝันกับการก้าวไปสู่เจ้าของธุรกิจ จึงเริ่มต้นในวัย 30 ปี

ก่อนจะลงมือทำสินค้าใดขึ้นมาทดสอบตลาด เขาเลือกที่จะสำรวจตลาดก่อนว่าสินค้าใดอยู่ในความต้องการของผู้บริโภค และจะทำเช่นไรให้สินค้าที่ผลิตขึ้นมาแตกต่างจากคู่แข่งขัน

เมื่อสำรวจชั้นวางสินค้าทั้งในซุปเปอร์มาร์เก็ต และมินิมาร์ท พบว่า ธูปมีวางจำหน่ายประจำ ด้วยประเทศไทยเป็นเมืองพุทธ และประจวบเหมาะเมื่อได้อ่านผลงานวิจัยพบว่าควันธูปมีสารก่อให้เกิดโรคมะเร็ง

“ตอนจะเริ่มต้นทำธุรกิจ ผมคิดถึง 3 ข้อเพื่อกันความผิดพลาด ข้อแรกคือสินค้าต้องอยู่ในความต้องการ สอง ต้องมีความแตกต่าง และสาม ให้คุณค่าต่อผู้บริโภค ซึ่งตอนนั้นยังไม่คิดว่าจะเป็นธูปนะครับ จนกระทั่งได้อ่านบทวิจัย พบว่าควันธูปมีสารก่อมะเร็ง ผมจึงคิดถึงการผลิตธูปเพื่อตอบโจทย์คนรักสุขภาพ ไม่ทำร้ายโลก นั่นก็คือ ทำธูปที่ช่วยลดปริมาณสารก่อเกิดมะเร็ง ซึ่งเมื่อศึกษาไปถึงผู้ผลิตพบว่ายังมีอยู่น้อยราย”

องค์ความรู้คือสิ่งที่ต้องศึกษาให้ละเอียด ทั้งเรื่องของส่วนผสม อันนำมาซึ่งผลกระทบต่อโรคที่จะเกิดขึ้น จนพบข้อมูล และเมื่อมีโอกาสพูดคุยกับผู้รับจ้างพัฒนาสูตร จึงจับมือร่วมกัน ซึ่งคุณโชน ว่า ใช้เงินก้อนแรกไปไม่เกิน 30,000 บาท

“อะไรที่เป็นนวัตกรรม การลงทุนจะไม่สูงมาก แต่ว่าต้องหาผู้เดินไปในทิศทางเดียวกันให้ได้ อย่างตัวผมจบนิเทศศาสตร์มา ไม่เคยรู้เรื่องเกี่ยวกับธูปมาก่อนเลย ก็ต้องใช้เวลาศึกษา ต้องรู้เหตุก่อนว่าสารก่อมะเร็งในธูปเกิดจากอะไร และจะทำอย่างไรเพื่อลดหรือป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น”

จากการศึกษาข้อมูลพบสาเหตุหลักๆ 3 ประการคือ 1. เนื้อธูป ที่ส่วนใหญ่ทำจากเศษไม้เฟอร์นิเจอร์ ซึ่งมีส่วนผสมของยาฆ่าแมลง 2. ส่วนของก้านธูปที่ทำจากก้านไม้ไผ่มีสารที่เรียกว่าน้ำส้มควันไม้ ซึ่งเป็นที่ทราบดีว่าสามารถสกัดเป็นยาฆ่าแมลงได้ 3. คือกลิ่นหอมของธูปนั้นมาจากการฉีดน้ำหอมลงผสม

อีกทั้งในเรื่องของควันที่เกิดในปริมาณมาก ซึ่งเกิดจากการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ การอัดส่วนผสมไม่แน่นพอ ซึ่งในข้อนี้ คุณโชนแก้ไขด้วยการใช้เครื่องมือเข้ามาช่วยอัดส่วนผสมให้แน่น ธูปจึงมีควันน้อย

ส่วนสาเหตุจากวัตถุดิบ คุณโชนแก้ไขด้วยการเปลี่ยนส่วนผสม โดยส่วนของเนื้อธูปเลือกใช้ซังข้าวโพดธรรมชาติผสมกับเนื้อดอกมะลิบดละเอียด ที่ปราศจากสารเคมี จึงได้ธูปกลิ่นหอมอ่อนๆ ส่วนของก้านธูปใช้ไม้ไผ่สีสุกที่ผ่านการแยกสารน้ำส้มควันไม้ เพื่อความปลอดภัย ลดสารก่อมะเร็ง

กับราคา ขายห่อละ (100 ก้าน) 65 บาท เมื่อเทียบกับธูปทั่วไปตามท้องตลาดที่กำหนดราคาขาย 15-20 บาท ธูปภายใต้แบรนด์กีรตา จึงต้องทำตลาดเจาะไปยังกลุ่มลูกค้าระดับบีบวกขึ้นไป ซึ่งก็เป็นที่มาของการกำหนดพื้นที่จำหน่ายว่าควรอยู่ในร้านค้าสุขภาพ และรวมไปถึงแหล่งขายซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายชัดเจน

“ตอนนี้สินค้าวางจำหน่ายที่เลม่อนฟาร์ม และฟู้ดแลนด์ ทุกสาขา เพราะหลังจากศึกษาตลาดพบว่ากลุ่มผู้สนใจธูปปลอดภัยมีอยู่ค่อนข้างมาก เป็นผู้มีกำลังซื้อ แต่ว่าไม่สามารถหาสินค้าได้ เราจึงเชื่อว่าถ้าวางตลาดตรงจุด จะได้รับความสนใจอย่างดี ซึ่งก็เป็นเช่นนั้น เพราะขณะนี้กำลังผลิตเดือนละ 10,000 ห่อ หรือประมาณ 1 ตัน ยอดขายประมาณ 2.5 ล้านบาทขึ้นไป จนถึงเกือบๆ 3 ล้านบาท ต่อปี ไม่พอขายคนไทย และเราเชื่อว่าตลาดมีโอกาสโตอีกมากตราบใดคนยังนับถือศาสนาพุทธ จึงวางแผนเพิ่มทุนเพื่อขยายกิจการ”

ไม่เพียงตลาดในประเทศ แต่คุณโชนยังวางแผนสู่ตลาดต่างประเทศ “ทำตลาดมา 5 ปี ทำให้รู้ความต้องการของตลาดยังมีอยู่สูง ซึ่งถ้าสามารถทำให้แบรนด์กีรตาอยู่ในอันดับต้นๆ ของประเทศได้ ก็เตรียมพร้อมก้าวสู่ตลาดต่างประเทศ อย่าง มาเลเซีย จีน พม่า เพราะความต้องการของเขามีสูง” คุณโชน  กล่าวทิ้งท้าย

ผู้สนใจต้องการ ติดต่อ “กีรตา” ตั้งอยู่ เลขที่ 55/33-35 ถนนนนทรี แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพฯ โทรศัพท์ (089)145-5796, (02)294-2137-8หรือ www.facebook.com/kirataproduct