ผู้เขียน | เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
สองหนุ่มเพื่อนซี้ลงขันทำธุรกิจร่วมกันตั้งแต่อายุ 17 ปี ไม่ขอเงินพ่อแม่ ส่งเสียตัวเองจนเรียนจบ ผ่านอุปสรรคร่วมกันมาก็เยอะ ดำเนินมาหลายกิจการยังไม่รุ่ง ล่าสุดเห็นโอกาสธุรกิจความงาม ทุ่มสุดตัวสร้างอาณาจักรมัลติแบรนด์ “บิวตี้คลับ” และอาหารเสริมนิวเวย์ นับว่ามาถูกทาง มัดใจลูกค้าด้วยคุณภาพสร้างรายได้ร้อยล้านบาทต่อปี
คุณบอย – นภัทร โภคาสัมฤทธิ์ และคุณเอ็ม – พิรศุษม์ ปลื้มปิติชัยกุล 2 หนุ่มผู้บริหารบิวตี้คลับ เล่าย้อนว่า เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่อายุ 17 ปี ธุรกิจแรกที่ทำด้วยกัน คือ รับต่างหูต้นทุนคู่ละ 2 บาทมาขายตามตลาดนัด ขายกระเป๋า ชีวิตพลิกผันไปเป็นครูสอนภาษา เปิดสถาบันกวดวิชาในระบบแฟรนไชส์แห่งแรกในประเทศไทยใช้ชื่อ “ติวเตอร์คลับ” ต่อมาเข้าสู่ธุรกิจขายตรงอาหารเสริม เครื่องสำอาง พอเห็นโอกาสกระแสธุรกิจความงามมาแรง สร้างแบรนด์อาหารเสริม “นิวเวย์”
ทั้งคุณเอ็มและคุณบอย ทั้งคู่ต่างมีความตั้งใจที่จะหาเงินส่งตัวเองเรียน ไม่ขอเงินทางบ้าน คุณบอย เล่าว่า ช่วงที่ขายต่างหู ไม่มีทุนอาศัยเอาเสื้อผ้าไปขายเพื่อนำเงินมาลงทุน เจอปัญหาอุปสรรคหลายอย่าง ช่วงที่เปิดแฟรนไชส์สถาบันกวดวิชาอายุเพียง 18 ปี ใช้เงินเก็บจากการขายกระเป๋า 4 หมื่นบาท ไปเดินแจกโบรชัวร์เอง หนที่สุดขยายได้ 19 สาขา
“คุณพ่อเป็นข้าราชการ คุณแม่เป็นพยาบาล แต่ผมไม่ได้ขอเงินจากท่านมาตั้งตัว เลือกที่จะยืนด้วยลำแข้งตัวเอง จนถึงตอนนี้เป็นเวลากว่า 13 ปีแล้วที่เลือกเป็นเจ้าของธุรกิจ” คุณบอยระบุ
ด้วยความที่ทั้งคู่ยังเด็กและไม่มีประสบการณ์ โรงเรียนกวดวิชาเปิดได้ 2 ปี สองหนุ่มเจอปัญหาที่แก้ไม่ตก จนต้องเบนเข็มชีวิตไปขายตรงอาหารเสริม เครื่องสำอาง และเมื่อเห็นโอกาสว่าธุรกิจนี้จะรุ่ง สร้างแบรนด์อาหารเสริม “นิวเวย์” คอลลาเจน ภายใน 3 ปี ยอดขายทะลุ 3.5 ล้านกระปุก
คุณเอ็ม – นภัทร เล่าว่า สนใจเรื่องผิวพรรณ และสกินแคร์มาตั้งแต่เด็กๆ มีความฝันอยากสร้างธุรกิจที่เกี่ยวกับความงาม เลยหาความรู้ทุกทาง จนกระทั่งมั่นใจสร้างแบรนด์อาหารเสริม และต่อยอดกลายเป็นอาณาจักรสินค้าความงามมัลติแบรนด์ Beauty Club (บิวตี้คลับ) ประสบความสำเร็จภายใน 8 เดือน
อาหารเสริมนิวเวย์คอลลาเจนแจ้งเกิดจากออนไลน์ กระทั่งธุรกิจนี้ถูกต่อยอดกลายมาเป็นอาณาจักรความงามบิวตี้คลับ หน้าร้านที่จำหน่ายสินค้าความงามหลากหลายแบรนด์ โดยผู้บริหาร ระบุว่า สินค้าที่ขายดีเป็นอาหารเสริม รองลงมาจะเป็นสินค้ากลุ่มเมกอัพ รายได้ในปี 60 รวม 200 ล้านบาท ส่วนในปี 61 ทางผู้บริหารมีแผนที่จะขยายสาขาไปยังหัวเมืองต่างจังหวัด เพราะจากการทำการวิจัยศึกษาตลาดพบว่า ยังมีช่องว่างทางการตลาดให้สามารถขยายธุรกิจไปได้อีกมาก โดยเฉพาะตลาดหัวเมืองต่างจังหวัด เนื่องจากปัจจุบันร้านจำหน่ายเครื่องสำอางครบวงจรยังมีจำนวนผู้ประกอบการเข้าไปทำธุรกิจน้อย ขณะเดียวกันก็มีความเชื่อมั่นว่ากำลังซื้อของลูกค้าในท้องถิ่นจะให้ผลการตอบรับดี เพราะสินค้าที่นำเข้าไปจำหน่ายมีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอางในกลุ่มคัลเลอร์ เมคอัพ หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
“บิวตี้ คลับ หรืออาณาจักรความงามมัลติแบรนด์ มีทั้งสินค้าเคาน์เตอร์แบรนด์ แบรนด์ที่กำลังนิยมและสินค้าคนไทย ซึ่งธุรกิจนี้กระแสมาแรง ข้อดี คือ ลูกค้ามีสิทธ์เลือกซื้อสินค้าที่หลากหลาย ซึ่งสินค้าที่ขายในบิ้วตี้คลับ ถูกคัดเลือกจากคุณภาพก่อนเสมอ ราคาสมเหตุสมผล และเป็นสินค้าที่กำลังอยู่ในความนิยม”
ปัจจุบัน “บิวตี้ คลับ” มีฐานลูกค้าสมาชิก 5 แสนคน ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 250 ล้านบาท ส่วนแผนการลงทุนในระยะยาว 3 – 5 ปี ทางผู้บริหาร เผยว่า จะร่วมลงทุนกับกลุ่มเซเลบริตี้ และมีแผนที่จะนำร้าน Beauty Club Grand เข้าไปเปิดให้บริการในตลาดต่างประเทศ ซึ่งกลุ่มประเทศที่ให้ความสนใจ คือ กลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง หรือ CLMV เนื่องจากมีพรมแดนติดกับประเทศไทย