พลิกโฉมอาชีพเกษตรกร ที่รวยกับการทำนา เพราะหันมาปลูกข้าวขายเมล็ดพันธ์ุ

 

ปกติคนที่มีอาชีพทำนา ซึ่งหมายถึงการปลูกข้าวมักจะจน

ทว่า สำหรับ  คุณนิทัศน์  เจริญธรรมรักษา  กลับร่ำรวย จากการปลูกข้าว  เพียงแต่การปลูกข้าวของเขาไม่ได้ปลูกเพื่อนำมากิน หรือขายให้คนอื่นกิน

แต่เขาปลูกข้าวเพื่อต้องการเอาเมล็ดข้าวมาทำพันธุ์

นาข้าวของเขาอยู่บนพื้นที่ 80 ไร่  ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านโพธิ์  อำเภอเมือง  จังหวัดสุพรรณบุรี

มีชื่อเป็นทางการว่าเมล็ดพันธุ์ข้าวเฮียใช้

เฮียใช้คือชื่อของผู้เป็นพ่อ

ปัจจุบันพันธุ์ข้าวเฮียใช้ได้ส่งจำหน่ายผ่านตัวแทนเกือบทั่วประเทศ

ผมมีโอกาสได้ไปเยี่ยมชมการผลิตพันธุ์ข้าวถึงที่

คุณนิทัศน์ได้กรุณาพาผมไปชมขบวนการผลิตทุกขั้นตอน

ตั้งแต่การเตรียมเมล็ดพันธุ์ที่จะปลูกขยายพันธุ์การเพาะต้นกล้า  การเตรียมนาที่จะเอาต้นกล้าลงปักดำ  การเตรียมดินและปุ๋ย

ทุกอย่างใช้เครื่องจักรทันสมัย  อธิบายให้ละเอียดยากว่าทำกันอย่างไร

การปักดำก็ใช้รถ โดยไม่ต้องใช้คนลงไปดำทำนาเหมือนชาวนาทั่วไป

ถึงแม้ตอนที่ผมไปดูงานที่นี่  ข้าวยังเป็นต้นเล็กๆ ยังไม่ออกรวง  แต่ได้ดูจากภาพ จึงได้รู้ว่ามีรถทันสมัยเก็บเกี่ยวข้าวด้วย  พอเก็บข้าวได้แล้วก็จะมีห้องเก็บผลผลิต

ก่อนนำข้าวทุกเมล็ดมาตากมาบรรจุถุงขาย

ถึงแม้คุณนิทัศน์ไม่ได้เปิดเผยตัวเลขที่ชัดเจนว่าสามารถผลิตพันธุ์ข้าวได้เดือนละจำนวนเท่าไร  แต่ต้องได้มากแน่  เพราะมิเช่นนั้น ไม่มีทางว่าจะส่งพันธุ์ข้าวขายได้ทั่วประเทศ และการขายเมล็ดพันธุ์ข้าวจะต้องได้กำไรดีกว่าปลูกข้าวขายให้คนกินอย่างแน่นอน

วัดจากที่ว่า ปัจจุบันโรงงานผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวแห่งนี้ใช้พนักงานและคนงานกว่าร้อยคน

มีเครื่องมือเครื่องใช้และเครื่องจักรในการผลิตข้าวที่ทันสมัยรวมแล้วน่าจะหลายสิบล้านบาท

โดยคุณนิทัศน์เล่าเองว่าได้ไปศึกษาดูงานและซื้อเครื่องปลูกข้าวทุกขั้นตอนมาจากประเทศไต้หวัน

เมื่อคุณนิทัศน์พบกับความสำเร็จในการปลูกข้าวเพื่อทำพันธุ์ข้าว

แทนที่คุณนิทัศน์จะร่ำรวยแล้วอยู่เฉยๆ หาความสุขส่วนตัวและในเครือญาติ

ทว่า คุณนิทัศน์ได้ทดแทนบุญคุณแผ่นดินไทยที่มีคุณต่อเขา  ในฐานะที่ตระกูลของเขาเป็นคนไทยเชื้อสายจีน คือมาจากเมืองจีน

เขาจึงได้จัดตั้งศูนย์ขึ้นมาเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการปลูกข้าวแก่ชาวนา  โดยเฉพาะเยาวชนขึ้น  โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแต่ประการใด  โดยใช้ชื่อว่า

ศูนย์เรียนรู้วิถีชีวิตและจิตวิญญาณชาวนาไทย

ผู้ที่เข้ามาชมศูนย์เรียนรู้แห่งนี้  ถ้าเป็นคนทั่วไปก็จะได้รู้ว่า

ข้าวมีบทบาทสำคัญต่อชีวิตประจำวันของคนไทย  ทั้งในอดีตและปัจจุบันอย่างไรบ้าง

ส่วนชาวนาที่ได้มาชมและดูงานที่ศูนย์เรียนรู้ ก็จะทำให้สามารถเป็นชาวนาที่ปลูกข้าวได้ข้าวที่มีคุณภาพและมีผลผลิตมากขึ้น  อีกทั้งยังจะได้รับรู้ถึงการลดต้นทุนและการขายเพื่อเพิ่มกำไรด้วย  และที่สำคัญ  ชาวนาจะพิจารณาได้ว่าควรปลูกพันธุ์ข้าวอะไร  เวลาใด ที่เหมาะสมกับสภาพดินฟ้าอากาศด้วย

สำหรับเยาวชน  หลังจากได้เข้ามายังศูนย์เรียนรู้แล้ว  พอโตขึ้นก็จะเป็นชาวนาที่ดี สามารถช่วยตัวเองได้

คุณนิทัศน์เล่าประวัติคร่าวๆให้ผมได้รับทราบว่า

ตัวเขาเองเป็นคนเรียนหนังสือไม่เก่งเลย  แต่ชอบการปลูกต้นไม้เป็นชีวิตจิตใจมาตั้งแต่เด็ก ที่รู้ว่าชอบก็เพราะจะทำซ้ำแค่ไหนก็ไม่เบื่อ  กลับสนุก

ทั้งพ่อและแม่ไม่เคยโทษที่ตัวลูกคือเขาเรียนไม่เก่ง  แต่กลับสนับสนุนสิ่งที่เป็นความสามารถของลูกคือการปลูกต้นไม้  จึงทำใหเขาไม่มีปมด้อย

หลังจากคุณนิทัศน์เรียนจบ ม.6 ก็ไม่ได้เรียนต่อ  ช่วยพ่อทำงาน ขณะที่มีอายุเพียง 18 ปี เท่านั้น

ทำงานกับพ่อได้ 4 ปี พ่อป่วยเป็นอัมพฤกษ์  จึงต้องทำงานแทนพ่อทั้งหมด

พ่อมีอาชีพอยู่สองอย่าง คือ รับซื้อข้าวเปลือก กับปล่อยกู้

การรับซื้อข้าวเปลือก แล้วนำไปสีเป็นข้าวสารขายไม่มีปัญหา  เพราะมีพ่อค้าข้าวทำกันทั่วไป

แต่การปล่อยเงินกู้เป็นเรื่องที่เขาหนักใจมากเพราะไม่ถนัดในการตามทวงหนี้  แล้วยังเสียความรู้สึกในความเป็นคนด้วย

เขาจึงขอเลิกปล่อยกู้  รับซื้อแต่ข้าวเปลือกอย่างเดียว

อยู่ต่อมา เขาเห็นว่าน่าจะเปลี่ยนมาเป็นการปลูกข้าวเพื่อขายเมล็ดพันธุ์บ้างเพราะแทบไม่มีใครทำ

เหตุที่ไม่มีผู้ใดทำก็เพราะเชื่อว่า ทำแล้วคงขายเมล็ดพันธุ์ไม่ได้

เหตุที่ขายไม่ได้ก็เพราะชาวนาแต่ละครอบครัว หลังการเก็บเกี่ยวก็จะเก็บพันธุ์ไว้ใช้ในปีต่อไปได้เอง

แต่เขากลับคิดว่า ถึงแม้ชาวนาจะเก็บพันธุ์ไว้เองได้ก็จริง  แต่ไม่น่าจะเป็นพันธุ์ที่ดีที่สุด

อีกทั้งยังต้องปลูกข้าวซ้ำพันธุ์เดิมอยู่อย่างเดิมตลอด  ผลผลิตก็จะน้อย

เขาจึงตัดสินใจปลูกข้าวเพื่อขายเป็นเมล็ดพันธุ์อย่างเดียว   ซึ่งมั่นใจว่าต้องขายได้แน่เพราะเมล็ดพันธุ์ของเขาจะต้องได้มาตรฐาน และต้องเป็นเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ดี 

ที่สำคัญทำให้ชาวนาไม่ต้องห่วงด้วยว่า  พอจะปลูกข้าวในปีต่อไป  ไม่มีเมล็ดพันธุ์เพราะสามารถซื้อของเขาได้

อีกทั้งการเก็บเมล็ดพันธุ์ของชาวนาเองก็อาจเสียหายได้ เพราะไม่มีห้องเก็บที่ดีเหมือนเขา

แล้วก็เป็นอย่างที่คุณนิทัศน์คาดหวังไว้  เมล็ดพันธุ์ข้าวของเฮียใช้ขายได้และขายดีขึ้นเรื่อยๆ

ใช้เวลาเพียงสิบแปดปี ก็เห็นหน้าเห็นหลัง  มีแปลงนาสำหรับปลูกเพื่อขายเมล็ดมากขึ้นทุกปี  อย่างที่ผมได้ไปชม

นี่ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการประกอบอาชีพอิสสระของผู้ชายคนหนึ่ง  คือการคิดต่าง  ต่างจากคนอื่น จึงทำให้พบกับความสำเร็จอย่างงดงาม