ราคายางพาราตกต่ำ! เกษตรกรตรัง หันมาเลี้ยงเป็ด-แปรรูปไข่เค็มใบเตย โกยรายได้อื้อ

ชาวบ้านใน ต.กะลาเส อ.สิเกา จ.ตรัง เลี้ยงเป็ดไข่ในสวนปาล์ม เพื่อเก็บไข่สดส่งขายร้านเบเกอรี่ ร้านขายของชำในชุมชน และแปรรูปเป็นไข่เค็มใบเตยหอม จนสร้างรายได้ให้แก่คนในชุมชนได้ จากสภาวะราคายางพาราและปาล์มน้ำมันตกต่ำ สร้างผลกระทบต่อเกษตรกรเป็นวงกว้าง ดังนั้นชาวบ้าน ม.2 บ.คลองน้ำนิ่ง ต.กะลาเส อ.สิเกา จ.ตรัง จึงรวมกัน เลี้ยงเป็ดไข่กว่า 500 ตัว ในสวนปาล์มน้ำมัน

น.ส.รัศมี เจี้ยวเห้ง ประธานกลุ่มเลี้ยงเป็ดไข่ กล่าวว่า ตนได้รวบรวมชาวบ้านในชุมชนกว่า 10 คน มาเรียนรู้การเลี้ยงเป็ดไข่ และการบริหารจัดการกลุ่ม ทั้งการจัดตั้งกลุ่ม การทำบัญชีครัวเรือน การแปรรูปไข่เค็มใบเตยหอม และการออกแบบฉลากและบรรจุภัณฑ์ โดยมี นางจุฑาภรณ์ พงศ์ประวัติ ครู กศน.ตำบลกะลาเส เป็นพี่เลี้ยงและประสานงานกับภาคีเครือข่าย ร่วมสนับสนุนกลุ่มเลี้ยงเป็ดไข่

ทั้งนี้จากการเลี้ยงเป็ดไข่มา 5 เดือน สร้างรายได้ให้กับกลุ่มอย่างงดงาม ซึ่งในแต่ละวันเป็ดจะออกไข่ 400-450 ฟอง ส่งขายในราคาฟองละ 3.50 สตางค์ รวมทั้งยังแปรรูปเป็นไข่เค็มใบเตยหอม ส่งขายในราคาฟองละ 8 บาท เนื่องจากไข่เค็มที่กลุ่มนำมาแปรรูปจะใช้วัตถุดิบธรรมชาติที่ดีต่อสุขภาพของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นดินสอพอง เกลือไอโอดีน ใบเตยหอม และน้ำสะอาด จึงทำให้เป็นที่ต้องการของตลาดจำนวนมาก

สำหรับขั้นตอนการทำไข่เค็มใบเตยหอม เริ่มจากการนำดินสอพอง 3 ส่วน เกลือ 1 ส่วน ใบเตยหอม 1 ส่วน และน้ำสะอาดพอสมควร มาผสมให้เข้ากัน แล้วเมื่อพอกไข่ทิ้งไว้ 7 วัน ก็สามารถนำไปประกอบอาหารได้นานาชนิด เพราะจะได้ไข่เค็มที่หอม ไร้กลิ่นคาว เนื้อแดงกลม และเก็บรักษาอยู่นานถึง 1 เดือน โดยลูกค้าจะนิยมซื้อไปบริโภคและเป็นของฝาก ทำให้ทางกลุ่มต้องเร่งแปรรูปเพื่อให้ทันต่อความต้องการของลูกค้า