คนรักตูบต้องรู้ “การให้อาหารลูกสุนัขอย่างถูกวิธี”

 

สวัสดีค่ะท่านผู้อ่าน ฉบับที่แล้วหมอกล่าวถึงการให้อาหารที่เหมาะสมในสุนัข ชนิด ประเภทของอาหารสำหรับสุนัข รวมถึงข้อดีข้อเสียต่างๆ ของอาหารแต่ละประเภทไปแล้ว ฉะนั้น ฉบับนี้ขอกล่าวถึงการให้อาหารสำหรับลูกสุนัขที่เราเพิ่งได้เขามาเลี้ยงกันดีกว่านะคะ เพราะมีเจ้าของสุนัขหลายๆ ท่านมาถามหมอ และขอข้อมูลในการเลี้ยงลูกสุนัขเล็กๆ ที่น่ารักเหล่านั้น รวมถึงเราควรให้อาหารพวกเขาอย่างไรดี ถึงจะถูกต้องและเหมาะสมกับวัยของลูกสุนัขที่เราได้รับมาเลี้ยง

การที่เรารับลูกสุนัขมาเป็นหนึ่งในสมาชิกใหม่ในครอบครัวนั้น นอกเหนือจากการเตรียมพร้อมในเรื่องแบ่งเวลาในการดูแล สถานที่ในการเลี้ยงแล้ว เรื่องของชนิดอาหารที่เหมาะกับลูกสุนัขและวิธีการให้อาหารลูกสุนัขนั้น ก็ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้เลี้ยงไม่ควรมองข้าม เพราะในช่วงวัยเด็กของสุนัข (ตั้งแต่แรกเกิด) เป็นช่วงที่มีการเจริญเติบโตและมีการพัฒนาทางร่างกายรวดเร็วมาก โดยในวัยเด็กสุนัขจะมีความต้องการอาหารมากกว่าสุนัขโตเต็มวัยถึง 2 เท่า ดังนั้น การเลือกอาหารจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ สำหรับลูกสุนัขนะคะ

การเลือกอาหารให้เหมาะกับลูกสุนัขนั้น ในช่วงปีแรก เราควรเลือกอาหารสูตรเฉพาะสำหรับลูกสุนัขโดยตรง ซึ่งจะเป็นอาหารสูตรที่มีโปรตีนสูงประมาณ 28-30 เปอร์เซ็นต์ และมีวิตามินทั้งที่สามารถละลายได้ในไขมันและในน้ำ ควรมีเกลือแร่ ไขมัน และสารอาหารอื่นๆ ที่จำเป็นสำหรับลูกสุนัขที่กำลังเจริญเติบโตด้วย

 

การเตรียมตัวสำหรับอาหารมื้อแรกของลูกสุนัขตัวใหม่

คงมีผู้เลี้ยงมือใหม่หลายคนที่ยังสับสนว่า อาหารสำหรับลูกสุนัขในมื้อแรกนั้น ควรจะเป็นอาหารประเภทไหนดี นั่นคือในช่วง 2-3 วันแรกที่เรารับลูกสุนัขมาเลี้ยงนั้น เราควรให้อาหารชนิดเดียวกันกับที่ลูกสุนัขเคยกินมาก่อนที่จะมาอยู่กับเรา รวมไปถึงเรื่องความถี่ของมื้ออาหารด้วย ต่อมาหลังจากที่ตัวลูกสุนัขสามารถปรับตัวกับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ได้แล้ว เราจึงค่อยๆ ปรับเปลี่ยนโปรแกรม และชนิดของอาหารได้ตามที่เราได้ทำการศึกษา หรือตามคำแนะนำของสัตวแพทย์นะคะ

สิ่งที่สำคัญก็คือ การปรับเปลี่ยนนั้นควรทำอย่างค่อยเป็นค่อยไปช้าๆ ซึ่งโดยประมาณแล้ว ระยะเวลาในการปรับเปลี่ยนจากการให้อาหารสูตรเดิมมาเป็นอาหารสูตรใหม่นั้น ควรใช้เวลาอย่างค่อยเป็นค่อยไปประมาณ 7-10 วัน

หมอมีคำแนะนำในการเปลี่ยนอาหารใหม่ให้ลูกสุนัขนะคะ ก็คือ เจ้าของควรเริ่มต้นจากการผสมอาหารใหม่ 25 เปอร์เซ็นต์ กับอาหารชนิดเดิม 75 เปอร์เซ็นต์ หลังจากนั้น 3-5 วัน ค่อยผสมอาหารเก่าและอาหารใหม่ในสัดส่วน ครึ่งต่อครึ่ง (อาหารใหม่ครึ่งหนึ่ง อาหารเก่าครึ่งหนึ่ง) และต่อมาหลังจากนั้นในช่วงวันที่ 6-10 จึงค่อยเปลี่ยนมาผสมอาหารใหม่ 75 เปอร์เซ็นต์ กับอาหารเก่า 25 เปอร์เซ็นต์

 

ชนิดของอาหารและปริมาณการให้อาหารที่เหมาะสม

สิ่งที่สำคัญอย่างที่บอกไว้แล้วในตอนต้นก็คือ ในช่วงปีแรกอาหารสำหรับลูกสุนัข จะต้องเป็นอาหารสูตรเฉพาะลูกสุนัขโดยเฉพาะจะดีที่สุดค่ะ ซึ่งอาหารประเภทที่จะแนะนำก็คือ อาหารแห้ง (อาหารเม็ด) ซึ่งมักจะมีน้ำเป็นส่วนประกอบประมาณ 9-11 เปอร์เซ็นต์ มีคุณค่าทางโภชนาการเหมือนกับอาหารรูปแบบอื่นๆ นอกจากนี้ ยังมีข้อดีในเรื่องของการประหยัดค่าใช้จ่าย การเก็บรักษาอาหาร และให้ความสะดวกแก่ผู้เลี้ยงด้วย (ในการให้อาหารแห้งกับลูกสุนัข อาจเริ่มต้นจากการผสมนมก่อนเพื่อให้อาหารเม็ดนิ่ม จากนั้นค่อยๆ ลดปริมาณนมลงไปเรื่อยๆ ตามความแข็งแรงของฟันสุนัข)

ท่านเจ้าของบางท่านอาจกังวลในเรื่องของสุขภาพลูกสุนัขเหล่านั้น โดยในความจริงแล้วสุนัขที่กินอาหารแบบแห้งมักจะพบปัญหาเกี่ยวกับทางเดินอาหารน้อยมากค่ะ ไม่ว่าจะท้องผูก ท้องเสีย ท้องอืด ฯลฯ และการกินอาหารแบบแห้งนั้นยังช่วยในเรื่องของการใช้ฟันบดเคี้ยว ทำให้เหงือกและฟันของลูกสุนัขแข็งแรงอีกด้วยนะคะ

เราจะสังเกตได้ว่าสุนัขที่กินอาหารอ่อนๆ มาตลอด มักจะมีปัญหาในเรื่องของโรคฟันอยู่บ่อยๆ เช่น ปัญหาหินปูนเกาะฟัน โรคเหงือก โดยปัญหาต่างๆ เหล่านี้จะทำให้สุนัขมีกลิ่นลมหายใจที่เหม็น และมีกลิ่นเหม็นมาจากในช่องปากด้วย

ส่วนข้อเสียเล็กๆ น้อยๆ ของการให้อาหารแบบแห้งกับลูกสุนัข ก็คือ เรื่องของอัตราการขึ้นของน้ำหนักที่อาจจะไม่เป็นไปตามที่ผู้เลี้ยงต้องการ ซึ่งจริงๆ แล้วอาหารแต่ละยี่ห้อหรือชนิด เขาจะมีคำแนะนำถึงปริมาณอาหารที่เหมาะสมต่อน้ำหนักตัวต่อวัน แจ้งไว้อยู่แล้วที่ข้างๆ ถุงอาหาร หรือกระป๋องอาหารนะคะ เราก็เทียบกับน้ำหนักตัวของลูกสุนัขที่เราเลี้ยงได้เลยค่ะ ว่าต่อวันเขาควรได้อาหารกี่กรัม เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นในการให้อาหารแก่ลูกสุนัขในปริมาณที่พอเหมาะ

ส่วนวิธีการให้อาหารสุนัขนั้นจะแบ่งออกเป็น 3 วิธี คือ

  1. ให้อาหารแบบวางทิ้งไว้ให้ลูกสุนัขกินตลอดเวลา
  2. ให้ลูกสุนัขกินแบบจำกัดเวลา แต่ไม่จำกัดปริมาณอาหาร
  3. ผู้เลี้ยงคำนวณปริมาณอาหารในการให้ลูกสุนัข และจำกัดเวลาในการให้อาหารในแต่ละมื้อ

 

ซึ่งในการวางแผนการให้อาหารสุนัขนั้น ผู้เลี้ยงจะต้องมีการวางแผนอย่างเป็นขั้นตอน เพื่อที่เราจะได้ทราบถึงวิธีการให้ที่เหมาะกับลูกสุนัขและปริมาณอาหารที่เหมาะกับลูกสุนัขของเรา โดยเริ่มต้นจาก

– ชั่งน้ำหนักลูกสุนัขไว้

– นำน้ำหนักของลูกสุนัขของเราไปเทียบกับปริมาณการให้อาหารที่ระบุไว้ข้างกล่องหรือถุงอาหาร

– หลังจากนั้นในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก ให้เราลองสังเกตสุขภาพลูกสุนัข โดยดูว่าลูกสุนัขอ้วนหรือผอมลงหรือไม่ โดยทำแบบนี้ติดต่อกันในช่วง 6 เดือนแรก ถ้าพบว่าลูกสุนัขยังมีลักษณะผอม น้ำหนักต่ำกว่ามาตรฐาน ก็ให้เพิ่มปริมาณอาหารขึ้น และสังเกตความเปลี่ยนแปลงจากลักษณะภายนอกทุกๆ 2 สัปดาห์

การเลือกอาหารและวางโปรแกรมการให้อาหารลูกสุนัขอย่างถูกวิธี จะทำให้ลูกสุนัขมีสุขภาพที่ดี และมีอุปนิสัยในการกินอาหารที่ถูกต้องในระยะยาวด้วยนะคะ ไม่ยากใช่มั้ยคะท่านผู้อ่าน ลองเอาเทคนิคเหล่านี้ไปใช้ดูนะคะ