ชีวิตของเอสเอ็มอีที่ฝ่าฟันอุปสรรค กว่าจะสร้างสินค้าให้ขึ้นมาผงาดในตลาดไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากจนเป็นไปไม่ได้ ด้วยตัวอย่างที่มีให้เห็นมากมาย และการเรียนรู้ จากประสบการณ์ของคนอื่นก็เป็นอีกหนึ่งทางลัดให้พบทางสำเร็จได้เร็วขึ้น

คุณศรีภา แสงฟ้าสุวรรณ  เจ้าของกล้วยเล็บมือนางอบ ยี่ห้อ “ศรีภา” เป็นหนึ่งในตัวอย่างของเอสเอ็มอี ที่สามารถสร้างสินค้าพื้นบ้าน เข้าสู่โมเดิร์นเทรด อย่างน่าทึ่ง

 

 

ราว 15 ปีที่แล้ว กล้วยเล็บมือนาง ไม่เป็นที่รู้จักในตลาด ด้วยเป็นผลไม้ท้องถิ่น มีมากที่จังหวัดชุมพร  แต่มาวันนี้ กล้วยชนิดนี้ คนรู้จักมากขึ้น ได้รับความนิยมมากขึ้น มาพร้อมๆ กับ สินค้า กล้วยเล็บมือนางอบ ตรา ศรีภา ที่สามารถส่งขายโมเดิร์นเทรด ไม่ว่าจะเป็นร้านสะดวกซื้ออย่าง เซเว่นอีเลฟเว่น คิง เพาเวอร์ ท็อปส์ซูเปอร์มาร์เก็ต โกลเด้นเพลส หรือการนำขึ้นเสิร์ฟบนการบินไทย และเลานจ์ผู้โดยสารของการบินไทยเช่นกัน

คุณศรีภา เล่าว่า ย้อนไปเมื่อ 15 ปีที่แล้ว เดิมตัวเองเคยมีอาชีพ เป็นพนักงานประจำตำแหน่งเลขานุการ แล้ววันหนึ่ง สามีก็ทักว่าจะทำงานเลขาไปจนแก่เลยเหรอ ตำแหน่งนี้ไม่โตนะ ในขณะที่ตำแหน่งอื่นก็โตขึ้นเรื่อยๆ

“ตอนนั้นเราก็เริ่มคิดแล้ว ทีนี้จะทำอะไรดี ก็มาดูสิ่งที่มีอยู่ใกล้ตัวคือ แถวบ้านมีกล้วยเล็บมือนางเยอะมาก และเป็นสิ่งที่แม่ทำให้กินตั้งแต่สมัยเรียน คือที่บ้านมีพี่น้องหลายคน  เวลามาเรียนในกรุงเทพฯ ก็ต้องประหยัด เอากล้วยเล็บมือนางตาก มากินเอง”

ซึ่งเป็นที่มา ของการปิ๊งไอเดีย ทำกล้วยเล็บมือนางอบ ขายออกสู่ตลาด

ภาพหน้าโรงงาน 

การดำเนินกิจการของ คุณศรีภา ก็มิใช่ ทำใหญ่โตพรวดพราด แต่หากค่อยเป็นค่อยไป กว่าจะได้ค้าขายกับโมเดิร์นเทรด ก็ผ่านแผงร้านค้า  ผ่านการฝากขายมาจำนวนไม่น้อย โดยมีโรงงานอยู่ที่จังหวัดชุมพร

กระทั่งวันหนึ่ง คุณศรีภา ก็คิดว่า อยากจะนำเข้ามาค้าขายในเซเว่นฯ บ้าง แต่ไม่รู้เลยว่าจะต้องทำอะไรอย่างไร ขั้นตอนเป็นแบบไหน

“เริ่มต้นเราไม่รู้อะไรเลยจริงๆ ก็เดินเข้าไปถามพนักงานในเซเว่นฯ เลย ว่าถ้าจะเอาสินค้ามาวางขายต้องทำยังไง พนักงานก็แนะนำว่า ต้องไปผ่านฝ่ายจัดซื้อ ซึ่งมีสำนักงานอยู่ที่สีลม กรุงเทพฯ จากนั้น ก็บอกรายละเอียดมาว่าให้ไปที่ตึกไหน ชั้นไหน เราก็ไป เอาสินค้าไปให้เขาดู เขาก็รับไว้  พักใหญ่ก็ติดต่อกลับมา”

“เขาถามว่า เรามีกำลังการผลิตอยู่เท่าไร พอตอบไป เขาก็บอกให้เราส่ง ในต่างจังหวัด และจังหวัดรอบๆ กรุงเทพฯ ไปก่อน เริ่มต้นเราได้ 400-500 สาขา ที่จังหวัดประจวบฯ กาญจนบุรี  สมุทรสงคราม และราชบุรี โดยให้เราไปส่งเอง และถ้ามียอดเหลือก็รับคืนเอง แต่สินค้าของเรายอดคืนไม่เยอะ ก็ไม่ค่อยมีปัญหา”

แพ็กเกจที่ส่ง การบินไทย 

เตรียมส่งการบินไทย

หลังจากนั้น เซเว่นฯ เริ่มเห็นศักยภาพของกล้วยเล็บมือนางอบ ‘ศรีภา’ จึงเริ่มลงมาดูรายละเอียดมากขึ้น ส่งทีมเจ้าหน้าที่มาช่วยพัฒนาสินค้า ไม่ว่าจะเป็นตัวสินค้า บรรจุภัณฑ์ การฆ่าเชื้อ ฯลฯ จนสินค้าพัฒนาขึ้น และสามารถส่งขายได้ทั่วประเทศ 4-5 พันสาขา กำลังการผลิต 4 ตันต่อเดือน โดยส่งสินค้าไปที่จุดกระจายสินค้าจากเดิมที่ต้องไปส่งเอง

“คือเราก็ไม่ได้จบมาทางวิทยาศาสตร์ด้านอาหาร แต่ทางเซเว่นฯ มีบุคลากรด้านนี้ ส่งเข้ามาช่วยเรา ซึ่งปัจจุบันเราใช้วิธีการฆ่าเชื้อด้วยการอบความร้อน รวมทั้ง มีคนเอาสินค้าเราไปทำการวิจัย อย่างเรื่องบรรจุภัณฑ์ เมื่อก่อน อยู่ในกล่องพลาสติก ต้องใช้กรรไกรตัด  ต่อมาก็พัฒนาให้อยู่ในซองที่ฉีกรับประทานได้สะดวก  มีปริมาณชิ้นน้อยลงต่อแพ็ก เหมาะแก่การรับประทานต่อครั้ง เรียกได้ว่า สะดวกขึ้น ตอบโจทย์ผู้บริโภคมากขึ้น และต้องผ่านการตรวจสอบเชื้อกับทางเซเว่นฯ อย่างสม่ำเสมอ” คุณศรีภา ว่าอย่างนั้น

เมื่อเป็น เอสเอ็มอี เต็มตัวแล้ว ก็มีโอกาสได้ออกอีเว้นต์ต่างๆ เช่น ที่เมืองทองธานี ทำให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น อันนำไปสู่การเข้าสู่โมเดิร์นเทรดในช่องทางอื่นไม่ว่าจะเป็น ท็อปส์ซูเปอร์มาร์เก็ต โกลเด้นเพลส การบินไทยและคิง เพาเวอร์ โดยแต่ละที่ก็ส่งในรูปแบบแพ็กเกจแตกต่างกันไป

อย่างเซเว่นฯ ส่งแพ็ก 40 กรัม 12 บาท // แพ็ก 160 กรัม  ขาย 52 บาท

ส่งการบินไทย เป็นแพ็กเล็ก กล้วย 3 ชิ้นราคาขายทั่วไป แพ็กละ 10 บาท

แต่ถ้าเป็นกล่องที่ขายตามงานอีเว้นต์ 27 แพ็กเล็ก 300 บาท กล่องเล็ก 8 แพ็กเล็ก 90 บาท

ส่วน คิง เพาเวอร์ เป็นกล้วยชุบช็อกโกแลต สตรอว์เบอร์รี่ ชาเขียว 10 ชิ้น ราคา 160 บาท  เป็นต้น

แพ็กเกจส่ง คิง เพาเวอร์ 

สำหรับรายได้ คุณศรีภา บอกว่า รายได้เข้ามา เดือนละล้านกว่าบาท ซึ่งเป็นยอดขายที่ยังไม่ได้หัก ค่าวัตถุดิบ แรงงาน ขนส่ง  ซึ่งนับว่าเป็นงานที่กระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างดีเยี่ยม  ทุกภาคส่วนที่อยู่ในวงจรนี้ ต่างมีรายได้กันถ้วนหน้า

แม้จะเห็นว่ามีรายได้เยอะ ซึ่งหากเกิดกรณีทำนองนี้หลายคนจะสงสัยว่า เสียภาษีถูกต้องหรือไม่ ซึ่งในประเด็นนี้ คุณศรีภา ตอบมาอย่างมั่นใจว่า “เราเสียภาษีตรงเป๊ะ พร้อมให้สรรพากรตรวจสอบตลอดเวลาไม่มีเรื่องการแต่งบัญชีอะไรแน่นอน คือเราก็อยากทำอะไรให้มันถูกต้อง เพราะมันจะสบายใจกว่า เวลาตรวจสอบย้อนหลังอะไรนี่ เราสบายใจได้แน่นอน”

“ทำมาถึงตรงนี้ เราก็อยากพัฒนาตัวเราเองขึ้นไปอีก ล่าสุด เซเว่นฯ ก็ถามเรามาว่า พร้อมที่จะเข้าสู่ระบบการขายทางออนไลน์หรือไม่ เราก็บอกว่าพร้อม ซึ่งก็คิดว่า เราอยากจะเติบโตขึ้นไปพร้อมๆกับรายได้ที่ดีของชุมชน ของเกษตรกรชาวสวนกล้วยเล็บมือนาง”

และนี่เป็นเรื่องราว เอสเอ็มอี ตัวอย่าง เอสเอ็มอี คลีนๆ ที่น่าศึกษา เรียนรู้ และได้รับการจดจำ  เลยทีเดียว

 

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม  โทร. 086-511-9577 และ 02-889-3747-8