“สมอลล์ ฟาร์ม” สวรรค์บนดินใกล้ดอยอินทนนท์ ไปสัมผัสธรรมชาติ – วิถีชีวิตแบบคาวบอย – เรียนรู้ชีวิตสัตว์ป่า

ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับ 2 ของไทย เมื่อได้ยินข่าวว่าอากาศดี ลมหนาวมาเยือน ใครๆ ก็อยากมาจังหวัดเชียงใหม่ เมืองที่ได้ชื่อว่า สวรรค์บนดิน ที่สามารถไปถึงและจับต้องได้ โดยเฉพาะดอยอินทนนท์ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ที่มวลความเย็นจากจีนแผ่เสริมลงมาปกคลุม ทำให้หลายคนนึกสนุก และหยิบเสื้อหนาวตัวเก่ง รองเท้าคู่เท่ พับใส่กระเป๋าและออกเดินทาง

แต่เมืองเชียงใหม่ ยังมีแหล่งท่องเที่ยวน่ารักและน่าแวะมากมายหลายแห่ง เช่น SMALL FARM – สมอลล์ ฟาร์ม ตั้งอยู่ที่บ้านหลวง บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 6 ก่อนขึ้นสู่ดอยสูง เลี้ยวซ้ายเข้าไปในเส้นทางเล็กๆ นิดเดียวก็ถึง

สมอลล์ ฟาร์ม เติบโตขึ้นภายใต้ความตั้งใจของ คุณเอก-ณกรณ์ กรณ์หิรัญ เศรษฐีหนุ่ม หุ้นส่วน “วุฒิศักดิ์ คลินิก” สถานเสริมความงามชื่อดังของไทย ซึ่งมีมากมายหลายสาขาทั้งในและต่างประเทศ

“ผมอยากมอบความสนุกและความสุขให้กับทุกคน โดยเฉพาะเด็กๆ เยาวชนของไทย จะได้มีโอกาสได้เห็นและเรียนรู้ชีวิตสัตว์ป่าหายากแบบใกล้ชิด ในฟาร์มเลี้ยงสัตว์สไตล์คาวบอย บนเนื้อที่กว่า 35 ไร่ ฟาร์มที่มีครบทุกอย่าง ตั้งแต่โรงนา กังหันลมธรรมชาติ คอกสัตว์มุงด้วยหญ้าคาสีน้ำตาลเข้ม ทุ่งนา ทุ่งดอกไม้ยาวสุดแนวรั้วไม้สีขาว โดยมีฉากหลังเป็นทิวเขาสลับซับซ้อนของดอยอินทนนท์ และฟ้าใสๆ ที่มองผ่านหมู่ต้นตาลสูงตรง เป็นธรรมชาติที่แท้จริงของท้องถิ่นแถวนี้”

อีกสิ่งหนึ่งที่นักธุรกิจหนุ่มมอบให้คนในชุมชนบ้านหลวงคือ คุณภาพชีวิตของพนักงานสมอลล์ ฟาร์ม นอกจากจะได้แต่งตัวแบบชาวฟาร์ม สวมเสื้อเชิ้ตลายสก๊อต กางเกง-กระโปรงยีนส์ และรองเท้าบู๊ต ย่ำไปบนดินและผืนหญ้า ทุกคนต่างมีใบหน้าเปื้อนยิ้ม ต้อนรับนักท่องเที่ยว เพราะต่างโชคดีที่ไม่ต้องละทิ้งถิ่นฐานบ้านเกิด ออกไปทำงานผจญภัยในเมืองใหญ่แบบคนบ้านอื่น แถมได้อยู่ในบรรยากาศแบบบ้านไร่กึ่งชนบทตามวิถีฟาร์มของแท้

เสียงเด็กๆ ตื่นเต้น ร้องเรียกให้ผู้ปกครองดูฝูง…แกะแพนด้า ตัวขาวอวบอ้วนใส่แว่นตาดำ ชวนให้นึกสนุกตามไปด้วย ภายในสมอลล์ ฟาร์ม ยังมีสัตว์หายากอีกมากกว่า 100 ชนิด วิ่งซุกซนอยู่ในรั้วไม้สีน้ำตาลเข้ม

โดยเฉพาะ…อัลปาก้า สัตว์รูปร่างผอมแปลกตาคือ ตัวยาวสีน้ำตาล มีผ้าขนมิงค์สีน้ำตาลอ่อนล้อมรอบลำคอระหง มองดูเหมือนหนาวจัดเสียจริง ยิ่งยามเยื้องย่างและชำเลืองมอง…ดูหยิ่งผยอง และอวดดี พิกล (ฮา) และถ้าไม่ระวังตัวให้ดี มีถ่มน้ำลายซ้ายขวาตามธรรมชาติอีกด้วยนะ

ส่วนแพะ แกะ วัว โคขาวลำพูน ควาย กระต่าย นกกระจอกเทศ หมูป่า เป็ด ไก่ ม้าแคระ และอื่นๆ อีกมากมาย ก็มองดูน่ารัก จนอดที่จะอมยิ้มและเอ็นดูไปกับท่าทางของสัตว์แต่ละชนิดไม่ได้ ถ้ามาช่วงยามเย็นจะได้เห็นฝูงม้าเดินเรียงกันเข้าคอกในโรงนาอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย

สัตว์ทั้งหมดนำเข้ามาจากนิวซีแลนด์และออสเตรเลีย รวมมูลค่าไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท การลงทุนค่อนข้างสูง แม้ผลตอบแทนอาจไม่สูงนัก แต่ด้วยจุดประสงค์คือ อยากสร้างความน่าสนใจให้กับแหล่งท่องเที่ยวใหม่ของเมืองเชียงใหม่ เพื่อเป็นทางเลือกและเกิดความหลากหลายในยามมาเยือนทางตอนใต้ของเชียงใหม่

สมอลล์ ฟาร์ม เปิดตลอดปี แต่ถ้าเข้าหน้าหนาวโซนจัดแสดงสัตว์เปิดบริการตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น. มีโชว์ให้อาหารเวลา 10.00-17.00 น. น้องๆ หนูๆ สามารถลงไปเล่นกับสัตว์และถ่ายรูปได้อย่างใกล้ชิด รับประกันความปลอดภัย เพราะสัตว์ทุกตัวที่นี่อารมณ์ดีมีเพลงฟัง

หรือจะนั่งรถม้าบริการรอบฟาร์มก็ทำได้ 4 คน/150 บาท ขี่จักรยานคันละ 40 บาท นอกจากนักท่องเที่ยวแล้ว หากโรงเรียนสนใจจะพาเด็กๆ มาตั้งแคมป์หรือทัศนศึกษาก็ทำได้ในราคาพิเศษ เพราะเจ้าของฟาร์มใจดีลดราคาให้เพียงขอแค่บอกว่าอยากมาเรียนรู้ชีวิตสัตว์ตัวน้อยเท่านั้น

หรืออยากจะพัก สมอลล์ ฟาร์ม มีบ้านพักสไตล์คันทรีแบบโรงนารวม 13 ห้อง เป็นทางเลือกในยามมาเยือนอำเภอจอมทอง เพราะช่วงไฮซีซั่นที่อากาศหนาวนักท่องเที่ยวเยอะ ห้องสำหรับ 4 ท่าน ราคา 4,000 บาท ส่วนห้องขนาด 2 เตียง อยู่ที่ 3,000 บาท แต่หากเข้าสู่หน้ากรีนซีซั่นก็ลดหย่อนลงมาทันที 20 เปอร์เซ็นต์ ทั้งหมดรวมอาหารเช้า ขี่ม้า และนั่งรถม้ารอบฟาร์มฟรี

หลังบ้านพักทุกห้องจะมีระเบียงตั้งโต๊ะเก้าอี้ให้ออกมานั่งรับลม…ชมแปลงพืชผักอินทรีย์สีเขียวสด ทุ่งนา ดงดอกไม้ ที่ขณะนี้มีทุ่งปอเทืองสีเหลือง ดอกคอสมอส หรือดาวกระจายสีชมพูบานสะพรั่ง แปลงสตรอว์เบอร์รี่ หรือพืชผักตามฤดูกาลที่กำลังออกดอก เพลิดเพลินไปกับเสียงน้ำไหลรินผ่านชานบ้านเบาๆ

และที่นี่ยังมีลานให้กางเต็นท์ กรณีที่ชอบสัมผัสลมหนาว ชมดาวเดือนแบบเต็มตา ข้างๆ มีแปลงเสาวรส และดอกใบละบาทกำลังออกดอกสีม่วงเป็นอุโมงค์อยู่หน้าห้องน้ำรวมกลางแจ้ง ก็ ฟิน…ไปอีกแบบ

พื้นที่กางเต็นท์มีเพียง 6 หลัง บวกอาหารเช้าคิดราคาเพียง 650 บาท/หลัง แต่ก็สามารถนำเต็นท์มากางได้เองอีก 6 หลัง เสียค่าพื้นที่ 500 บาท มีเตาให้ปิ้งย่าง สามารถสอบถามราคาเบาๆ กันได้ที่ฟาร์ม

ที่ต้องแนะนำและอยากให้ลองลิ้มชิมกันคือ ร้านอาหาร SMALL FARM RESTAURANT โดยเชฟมากฝีมือกว่า 30 ปีจากโรงแรมชื่อดัง แต่อยากเกษียณตัวเองอยู่กับธรรมชาติ รังสรรค์เมนูจากผักสดตามฤดูกาลที่ปลูกเองของฟาร์ม 95 เปอร์เซ็นต์ ทำให้อาหารทุกจานเลอค่าสมราคา โดยเฉพาะเมนูพิเศษ…ซีซาร์สลัด กุ้งทอดซอสมะขาม พล่าแซลมอน ปลาผัดพริกไทยดำ ปูผัดผงกะหรี่ ไก่ตุ๋นจักรพรรดิ เปิดให้บริการถึง 21.00 น. ทุกวัน ไม่รวมกาแฟดีของพื้นถิ่นไว้ให้จิบ

สนใจเข้าเที่ยวชม โทรศัพท์ไปสอบถามราคาบ้านพัก ลานกางเต็นท์ ได้ที่ (053) 033-068 หรือ (061) 980-6370