“ทุเรียนนิ้วทอง” ปลอกสวมนิ้วเคาะทุเรียน ทองคำหนัก 3 บาท เคาะแม่นยิ่งกว่าตาเห็น

ไม่ใช่แค่อาหารไทยที่ผู้บริโภคชาวจีนชื่นชอบ แต่ผลไม้อย่าง ทุเรียน มังคุด ลำไย ส้มโอ กล้วยไข่ และมะม่วง ก็ติดอันดับผลไม้ไทยที่คนจีนรู้จักเป็นอย่างดีด้วยเช่นกัน ถึงขนาดมีคำกล่าวของคนประเทศนี้ว่า“กินอาหารจีนต้องกินที่มณฑลกวางตุ้ง แต่ต้องกินกับข้าวหอมมะลิ เสร็จแล้วต้องตบท้ายด้วยผลไม้ไทย ถึงจะครบสูตร ซึ่งรสชาติผลไม้ไทยที่ถูกปากมากที่สุด คือ ทุเรียนและมังคุด” “ราชาและราชินีผลไม้” เป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลก

20151203_181726

นิ้วทองคำ ใช้เคาะทุเรียน
ขายนาน 
28 ปี

หลายคนถ้าอยากกินข้าวเหนียวมะม่วง หรือทุเรียนสด ต้องหาทานตามฤดูกาลเท่านั้น แต่บนถนนเยาวราชหรือที่รู้จักกันดีว่าไชน่าทาวน์ ย่านที่มีของอร่อย เลื่องชื่อเรื่องอาหารทั้งเมนูคาวหวาน รสชาติถูกปากคนไทยและต่างชาติ มีอยู่ร้านหนึ่งมีเมนูดังกล่าวให้รับประทานหน้ำใจทั้งปี ร้านนี้ชื่อว่า “ทุเรียน – บัวลอย นิ้วทอง”

“ทุเรียน – บัวลอย นิ้วทอง” ร้านที่มีลักษณะเป็นรถเข็นเปิดตั้งแต่ 18.00-03.00น.อยู่หน้าห้างทองโต๊ะกัง สาขา 3 ผู้ก่อตั้ง คือ คุณรุ่งโรจน์ และ คุณอภิญญา ทับทอง สองสามีภรรยาชาวจีน ค้าขายย่านเยาวราชมานานกว่า 28 ปี ก่อนหน้านี้จำหน่ายแต่บัวลอย ต่อมาเพิ่มทุเรียนสดด้วย โดยบรรทุกใส่รถปิ๊กอัพมาวางขาย ส่วนฉายานิ้วทองเป็นของคุณรุ่งโรจน์ คือ ปลอกสวมนิ้วไว้เคาะทุเรียน ซึ่งเป็นทองคำแท้หนัก 3 บาท

สำหรับความโดดเด่นของทุเรียนร้านนี้ คุณอภิญญา ลูกค้าเรียกติดปากกันว่า เจ๊บัวลอย เธอบอกว่า เป็นทุเรียนแก่ทุกลูก ไม่มีทุเรียนอ่อนปน รสชาติอร่อย กลิ่นหอม ไม่เหม็นเขียว เพราะถ้าเป็นทุเรียนอ่อน หากนำมาเก็บไว้นานจะไม่สุก แถมเนื้อเน่า ทางร้านจำหน่ายทุเรียน 2 พันธุ์ คือ “หมอนทอง”ผลใหญ่ เนื้อหนาสีเหลืองอ่อนละเอียด ไม่เละไม่แฉะติดมือ รสชาติหวานมัน เมล็ดน้อยกลิ่นไม่แรงนัก น้ำหนักเฉลี่ย 3-4 กก. /ลูก  และพันธุ์ก้านยาว ผลขนาดปานกลาง ทรงผลกลม มีจุดเด่นตรงที่มีก้านผลใหญ่และยาวกว่าพันธุ์อื่นๆ มีเนื้อละเอียดสีเหลือง เนื้อหนาปานกลาง เมล็ดค่อนข้างใหญ่ ให้รสชาติหวานมันเช่นกัน น้ำหนักเฉลี่ยต่อลูก 3 กก.

20151203_175634

ก้านยาว หมอนทอง
ครองใจลูกค้าต่างชาติ

สาเหตุที่ร้านนี้มีทุเรียนขายตลอดปี  เจ้าของร้านใช้วิธีรับทุเรียน  2 ภาค คือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ช่วงต้นปี ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์- มิถุนายน รับจากจังหวัดจันทบุรี ระยอง ช่วงปลายปีระหว่างเดือน กรกฎาคม – ตุลาคม รับจากชุมพร ทำให้ลูกค้าสามารถบริโภคทุเรียนได้ตลอดทั้งปี รับประกันความอร่อยทุกลูก แต่อย่างไรก็ตามเจ๊บัวลอยย้ำว่า “ทุเรียนอร่อย ไม่ว่าจะมาจาก นนทบุรี จันทรบุรี หรือระยอง ยังไม่สำคัญเท่า ทุเรียนแก่ แน่นอนกว่า”

20151203_180631

“ดิฉันรับทุเรียนคัดคุณภาพตั้งแต่ในสวนเลย รับจากสวนเดิมติดต่อกันมานาน 28 ปีแล้ว ซึ่งราคาทุเรียนต่อลูกทางร้านจะแพงกว่าตลาดทั่วไปประมาณ 10 บาท เพราะกล้ารับประกันเลยว่าเนื้อดี รสชาติอร่อย มีทั้งสุกจัด สุกพอดี ห่ามหน่อย กรณีเจอทุเรียนอ่อนจะทิ้งทันที ลูกค้าสามารถเปลี่ยนได้เลย”

ปัจจุบันลูกค้าที่เข้ามาอุดหนุนร้าน “ทุเรียน – บัวลอย นิ้วทอง” เจ๊เผยว่า 90 เปอร์เซ็นต์ เป็นต่างชาติเป็นนักท่องเที่ยว อันดับ 1 คือ ฮ่องกง คนจีน ตามด้วยคนเวียดนามและฝรั่ง โดยคนฮ่องกงชอบทุเรียนก้านยาวสุกจัด ชอบรสชาติ และกลิ่น หลังจากซื้อเสร็จจะให้แกะเปลือก ฉีกทุเรียนกินหน้าร้านเลย ส่วนลูกค้าจีนชอบทุเรียนหมอนทอง ชอบที่เนื้อแน่น พลูใหญ่ ปริมาณทุเรียนที่ขายภายในหนึ่งสัปดาห์เฉลี่ยประมาณ 1,000 กิโลกรัม

20151203_175829

คู่แข่งเพิ่มขึ้น
ฝึกภาษาจีนเพิ่ม

ด้านข้าวเหนียวมูลก็ไม่น้อยหน้า เจ๊บัวลอยมัดใจลูกค้าด้วยรสชาติหวาน มัน ไม่ใส่น้ำมันพืช ไม่ใส่สารกันบูด เป็นสูตรโบราณ ใส่หัวกะทิสดล้วนๆ อร่อย นุ่มนวลแบบธรรมชาติ กินได้ไม่ต้องกังวล ทางร้านขายเมนูข้าวเหนียวทุเรียน ข้าวเหนียวมะม่วง

เจ๊บัวลอยย้ำว่า ตนเป็นร้านแรกและร้านเดียวที่ขายเมนูข้าวเหนียวทุเรียน และข้าวเหนียวมะม่วงบนถนนเยาวราช แต่ทุกวันนี้มีร้านค้าหน้าใหม่เกิดขึ้นในละแวกเดียวกันถึง 6 ร้านค้า แสดงให้เห็นถึงความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น ไม่เฉพาะแต่คนไทยเท่านั้นที่ชอบผลไม้กลิ่นแรงอย่างทุเรียน เพราะต่างชาติตัวอย่างเช่น คนจีน คนฮ่องกง ต่างก็โปรดปรานผลไม้ชนิดนี้

ทุกวันนี้เจ๊บัวลอยอายุ 64 ปีแล้ว เจ๊บอกว่า สุขภาพยังแข็งแรง รักในอาชีพค้าขาย และผูกพันกับเพื่อนร่วมอาชีพในย่านไชน่าทาวน์แห่งนี้ แต่ด้วยยุคสมัยเปลี่ยนไปต้องพัฒนาทักษะอยู่สม่ำเสมอ และเพื่อให้สามารถสื่อสารกับลูกค้ารู้เรื่อง ต้องหันมาฝึกภาษาจีนกลาง ภาษาเวียดนามเพิ่มขึ้น