ตลาดความงามยังบูม อดีตเซลล์ผันตัว นำเข้าครีมบำรุง สารสกัดจากนกนางแอ่น สร้างแบรนด์ AMATA บุกลูกค้าออนไลน์ เล็งเจาะตลาดจีน

ตลาดความงามในไทยไม่เคยซบเซา องค์กรอิสระที่มีชื่อเสียงด้านการวิจัยข้อมูลทางการตลาดของผู้บริโภค  หรือ Euromonitor เผยภาพรวมตลาดความงามในไทยปี 2559 มีอัตราการเติบโตสูงขึ้นกว่าปีก่อน 6.5 เปอร์เซ็นต์ มีมูลค่ารวมกว่า 154,000 ล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่มสินค้า  ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว 46 เปอร์เซ็นต์ (ดูแลผิวหน้า ดูแลผิวกาย) ผลิตภัณฑ์ผม 19 เปอร์เซ็นต์ เครื่องสำอาง  14 เปอร์เซ็นต์  ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทำความสะอาดร่างกาย 17 เปอร์เซ็นต์ และน้ำหอม 5 เปอร์เซ็นต์

แม้ภาพรวมเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังยังคงมีความผันผวน แต่อย่างไรก็ตาม “สกินแคร์” ก็ยังเป็นสินค้าที่ตลาดมีความต้องการอยู่ต่อเนื่อง นอกจากนั้นยังคงมีนักลงทุนหน้าใหม่หวังจะเข้ามาทำกำไรในตลาดนี้อยู่เสมอ เฉกเช่น คุณพรเทพ ทิพยพรกุล หรือคุณกอล์ฟ อดีตพนักงานประจำขายตรง ศิษย์เก่ารั้วมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน

ปัจจุบันคุณกอล์ฟเป็นผู้นำเข้าครีมบำรุงผิวหน้าจากประเทศเกาหลี แบรนด์ “AMATA BEST EXTRA”  หนึ่งเดียวในไทยที่ใช้สารสกัดจากรังนกนางแอ่น และน้ำแร่จากแคลิฟอร์เนีย ซึ่งมีผลการวิจัยรองรับว่าช่วยเรื่องความชุ่มชื้น รักษารอยแผลเป็น เพิ่มความแข็งแรงให้กับเซลล์ผิว

คุณกอล์ฟ เล่าว่า เกิดและเติบโตมาในครอบครัวที่ทำธุรกิจผลิตกล่อง อาทิ กล่องกระดาษ กล่องรองเท้า แต่ทว่าหลังจากจบการศึกษาปริญญาตรี  บินลัดฟ้าไปเรียนภาษาจีน 6 เดือน จากนั้นกลับมาบวชทดแทนคุณพ่อแม่ ก่อนที่จะไปทำงานประจำในบริษัทขายตรงแห่งหนึ่งอยู่นาน 2 ปี รายได้ดีเดือนละหลักแสน

คุณกอลฟ์ บอกต่อว่า แม้รายรับจากงานประจำจะค่อนข้างดี แต่อย่างไรก็ตามยังคงมีความคิดอยากทำธุรกิจส่วนตัว ประกอบกับมีโอกาสไปงานแสดงสินค้าที่ประเทศฮ่องกง เจอครีมที่มีลักษณะเป็นเนื้อเจลสีเหลือง  ใช้สารสกัดจากรังนกนางแอ่น และน้ำแร่จากแคลิฟอร์เนีย ซึ่งมีผลการวิจัยรองรับว่าช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความชุ่มชื้นให้กับเซลล์ผิว  ลดการอักเสบของผิวหนัง และลดริ้วรอย เลยติดต่อนำเข้ามาจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย

“ผมสำรวจตลาดครีมบำรุงผิวหน้าในไทยแล้วว่ายังไม่มีครีมเนื้อเจลสีเหลืองที่ใช้สารสกัดจากรังนกนางแอ่น และน้ำแร่จากแคลิฟอร์เนีย อีกทั้งปราศจากสเตอรอยด์ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ เลยมองเห็นโอกาสและช่องทางทำธุรกิจ ในที่สุดติดต่อนำเข้ามาจำหน่ายในไทย โดยสร้างแบรนด์ไทยว่า  AMATA (อัมตะ) ได้รับเครื่องหมาย GMP และ อย. จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา”

สำหรับแผนการตลาด ชายหนุ่มเลือกบุกตลาดออนไลน์ 100 เปอร์เซ็นต์ ผ่านโซเชียลมีเดีย มีคลิปวีดีโอไวรัล นอกจากนั้นจะเฟ้นหาตัวแทนจำหน่ายที่เหมาะสมทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด

ด้านกลุ่มลูกค้า เจ้าของผลิตภัณฑ์ ระบุว่า ครีมเนื้อเจลดังกล่าวสามารถใช้ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย และหลังจากที่วางจำหน่ายมา ได้การตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง ในอนาคตมีแผนขยายไปประเทศจีน รวมถึงจะใช้ดาราเป็นพรีเซ็นเตอร์

“จุดแข็งของแบรนด์ AMATA คือ คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ รวมถึงความแปลกใหม่ที่ในตลาดครีมบำรุงผิวยังไม่มี  รวมถึงวัตถุดิบที่ใช้ได้มาตรฐานการรับรองระดับสากล”