เพาะ ‘เห็ดโคนน้อย’ สร้างรายได้เสริม เตรียมเพิ่มกำลังผลิตส่งขายมาเลย์

เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ชาวบ้านไร่ตก หมู่ 6 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา หมู่บ้านชายแดนไทยมาเลเซีย รวมตัวกันตั้งกลุ่มเพาะเห็ดโคนน้อยตามโครงการ “สัมมาชีพชุมชนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” เพื่อเสริมสร้างรายได้ และลดค่าใช้จ่ายในครอบครัว ได้รับงบสนับสนุนงบประมาณ 16,000 บาท เพื่อนำมาใช้หมุนเวียนเพาะเห็ดโคนน้อย เช่นซื้ออุปกรณ์และปัจจัยการผลิตต่างๆ และมีผู้เชี่ยวชาญในการเพาะเห็ดโคนน้อยมาแนะนำเทคนิคการเพาะเห็ดโคนน้อย

นายเปรม สุวรรณรัตน์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ประธานกลุ่มกล่าวว่า การเพาะเห็ดโคนน้อยจะใช้วัสดุหลักเป็นขี้เลื่อยจากไม้ยางพารา ซึ่งจะเจริญเติบโตและให้ผลผลิตได้ดีกว่าขี้เลื่อยจากไม้อื่น

“สูตรการทำใช้ขี้เลื่อย 100 กิโลกรัม รำข้าว 8 กิโลกรัม ยิปซั่ม ปูนขาว ภูไมท์ ยูเรีย อย่างละ 1 กิโลกรัม ดีเกลือ 200 กรัม นำน้ำมาผสมกับดีเกลือและยูเรียคนให้ละลาย ผสมให้เข้ากัน แล้วนำน้ำที่ผสมดีเกลือกับยูเรียค่อยๆ รดลงไป คนให้เป็นเนื้อเดียวกัน ทิ้งไว้ 1-2 วัน นำส่วนผสมที่ได้มาใส่ถุงพลาสติกอัดให้แน่นน้ำหนักถุงละ 1 กิโลกรัม มัดปากถุง โดยใช้จุกพลาสติก อัตราส่วนที่ผสมกันจะได้ 120 ถุง”

 นายเปรมกล่าวว่า นำไปนึ่งในถังเพื่อเป็นการฆ่าเชื้อ ที่อุณหภูมิ 90 องศาเป็นเวลา 2 ชั่วโมง รอให้ก้อนเห็ดเย็นแล้วทำการหยอดเชื้อเห็ด ซึ่งขั้นตอนนี้ต้องใช้ความระมัดระวังเรื่องความสะอาดเป็นพิเศษ เพราะเชื้ออาจตายได้ โดยเชื้อเห็ด 1 ขวด ราคา 10 บาท ใช้หยอดได้ 35-40 ก้อน

“นำไปบ่มเชื้อในที่ร่ม 7 วัน คอยสังเกตเมื่อมีเส้นขาวๆ ตามก้อนให้แกะจุกปากถุงออกแล้วนำไปวางในโรงเรือนพ่นน้ำเป็นฝอยๆ ให้ชุ่ม แล้วคลุมด้วยผ้าใบให้มิดชิด หลังจากนั้นประมาณ 7 วัน เก็บผลผลิตได้”

นายเปรมกล่าวว่า เห็ดโคนน้อยเจริญเติบโตเร็วมากประมาณ 10 – 15 วันก็สามารถเก็บขายได้ เก็บวันละ 2 ครั้งเช้าเย็น หากปล่อยไว้นานเห็ดจะบานและเป็นสีดำตลาดไม่ต้องการ ซึ่งเห็ดแต่ละรุ่นจะให้ผลผลิตเก็บขายได้ประมาณ 15 วัน หรือเก็บได้ถึง 30 ครั้ง ราคาขายในท้องตลาดกิโลกรัมละ 180- 200 บาท

“กลุ่มเพาะเห็ดมาประมาณ 2 เดือน ตลาดเริ่มโตขึ้น มีพ่อค้าแม่ค้าจากประเทศมาเลเซียเข้ามาติดต่อนำไปขาย ซึ่งในอนาคตอาจต้องเพิ่มกำลังการผลิตให้มากขึ้น นั่นหมายถึงรายได้ของสมาชิกที่เพิ่มขึ้นด้วย” นายเปรมกล่าว