ผู้เขียน | ดวงกมล โลหศรีสกุล |
---|---|
เผยแพร่ |
เกษตรกรหญิง จบ ป.6 วัย 44 ปี ปลูกกล้วยน้ำว้า 2 สายพันธุ์ที่โคราช บนพื้นที่ 130 ไร่ หรือต้นกล้วยราว 12,000 ต้น ขายทั้งผล ขายทั้งหน่อ ส่งขายร้านเซเว่น และมีพ่อค้าคนกลางมารับซื้อไม่อั้น ล่าสุดได้ลูกชายคนโตมาช่วยขยายตลาดผ่านเฟซบุ้ก สุดภูมิใจโกยรายได้ปีละหลายล้านบาท
คุณสายพิน แก้วศรี หรือ แอ๊ว คือ เจ้าของ สวนสายพินพันธุ์ไม้ ตั้งอยู่ที่เลขที่ 128 หมู่ 2 ต.มาบตะโกเอน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา
คุณแอ๊ว เล่าว่า เกิดมาท่ามกลางครอบครัวที่ยึดอาชีพเกษตรกรมาหลายชั่วอายุคน มีพี่น้อง 2 คน ตัวเองเป็นน้องสาวคนเล็ก จบการศึกษาเพียงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ต้องช่วยพ่อแม่ทำนา ปลูกข้าว ปลูกผลไม้ ตั้งแต่เด็ก จนกระทั่งบุพการีทั้ง 2 เสียชีวิต เลยสวมบทบาทเกษตรกรเต็มตัว
เกษตรกรหญิงเมืองโคราช เล่าต่อว่า ตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อแม่ทำสวนแบบผสมผสาน ปลูกกล้วย ผสมกับการปลูกพืชชนิดอื่น อาทิ ลำไยพันธุ์อีดอ ซึ่งปลูกเพื่อการส่งออก นอกจากนั้นยังมี ละมุด มังคุด มะขามหวาน ขนุน ทุเรียน แต่ปรากฏว่า “กล้วย” เป็นไม้ผลที่สามารถสร้างรายได้มากที่สุด
“ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ ทำสวนผสมผสานปลูกผลไม้ 10 กว่าชนิด บนพื้นที่ 40 ไร่ จากนั้นขยับขยายเรื่อยมาเป็น 60 ไร่ 100 ไร่ ล่าสุดเพิ่มเป็น 130 ไร่ หรือราว12,000 ต้น ปัจจุบันเน้นปลูกผลไม้เป็นหลัก อาทิ ลำไย ละมุด มังคุด มะปราง ทุเรียน รวมถึงกล้วย ปลูกพันธุ์ปากช่อง 50 และมะลิอ่อง”
สำหรับกล้วยน้ำว้าพันธุ์ปากช่อง 50 คุณแอ๊ว บอกว่า เป็นพันธุ์ที่ได้จากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เป็นผลงานจากการวิจัยคิดค้นของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตัดขายได้ราคาดี หวีละ 20 – 50 บาท ซึ่งกล้วย 1 เครือ จะได้กล้วยเฉลี่ย 15 หวี คุณสมบัติพิเศษของกล้วยพันธุ์ น้ำว้าปากช่อง 50 คือ มีรสชาติหวานหอม นุ่ม ลูกใหญ่ ยาว มีเหลี่ยม เป็นที่นิยมในท้องตลาด ส่วนพันธุ์มะลิอ่อง ลูกจะกลมใหญ่ ผิวขาว เนื้อจะนุ่ม
ต้นกล้วย 1 ต้น บำรุงดีๆ แต่งใบ แต่งหน่อ สามารถอยู่ได้นาน 8 ปี เจ้าของสวน ยกตัวอย่างว่า ปลูกกล้วย 10 ไร่ ขายเฉพาะผลบางปี มีเงินเก็บ 7 แสนบาท
“กล้วยใช้เวลาปลูก 7 เดือนก็สามารถตัดขาย ใช้ต้นทุนไม่เยอะ ไม่ต้องรดน้ำบ่อย 1เดือนรดเพียง3ครั้ง ไม่ต้องฉีดยาเคมี ส่วนปุ๋ยให้เพียงเดือนละครั้ง ใช้ปุ๋ยยูเรีย (ปุ๋ยที่มีไนโตรเจนสูง) สลับกับปุ๋ยเคมีสูตร 15 ใส่ 1 ต้น/กำมือ ทุก 1-2 เดือน ในการปลูกกล้วยน้ำว้า แล้วคอยหมั่นแต่งใบที่แก่จัดให้โล่งอยู่เสมอ เช่นเดียวกับการตัดแต่งหน่อกล้วยที่มักจะเหลือไว้กอละ 3 ต้นเท่านั้น ส่วนการรดน้ำจะขึ้นอยู่กับสภาวะอากาศ”
เจ้าของสวน บอกว่า ปริมาณกล้วย ต่อเครือ ราว 50 กิโลกรัม ราคาขายหน้าสวนต่อหวี มีตั้งแต่ 20 – 50 บาท ผลผลิตทั้งหมด มีพ่อค้ามารับซื้อ และไม่มีทีท่าว่ายอดขายจะตก เนื่องจากกล้วยเป็นผลไม้เศรษฐกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง และอีกวิธีที่สำคัญ คือ การตลาดต้องดีด้วย ได้ลูกชายเข้ามาเปิดเพจเฟสบุ๊ค ขยายกลุ่มลูกค้า
“ปัจจุบันทางสวน มีรายได้ 2 ทาง คือ ขายทั้งผล ขายทั้งหน่อ ราคาหน่อละ 50 บาท เคยขายได้ 3,000 หน่อ ลูกค้าจ่ายเงินสด 150,000 บาท ส่วนกล้วยรายรับต่อปีไม่ต่ำกว่า 7 ล้านบาท”