โลกของการทำธุรกิจจะประสบความสำเร็จหรือไม่ มีองค์ประกอบหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ ก็มีโอกาสที่จะไปถึงเป้าหมายได้ทั้งนั้น บางคนทำธุรกิจมามากมายกว่าที่จะประสบความสำเร็จ แต่บางรายทำอะไรก็ล้มเหลว อาจเป็นเพราะยังไม่เจอธุรกิจที่ใช่ก็เป็นได้ หรือกับอีกหลายคนแค่เริ่มต้นทำธุรกิจแรกในชีวิต สามารถขยายกิจการ และต่อยอดไปสู่งานอื่นๆ ได้ก็มีถมเถ

ขึ้นอยู่กับจังหวะ โอกาส ไอเดีย และการมองเห็นช่องทางของแต่ละคน!!

อย่างเช่น คุณธวัช พลทองมาก เจ้าของร้านจำหน่ายสินค้าจากวิสาหกิจชุมชนและสินค้าโอท็อป ข้างปั๊มน้ำมัน ปตท. มอเตอร์เวย์ ระยอง ซึ่งเป็นพื้นที่เช่า ในความดูแลของ ปตท. ที่เริ่มต้นชีวิตการทำงานตั้งแต่จบมัธยมต้น แต่ตัดสินใจเลือกที่จะกลับไปเรียนต่อ แล้วมาลองใหม่ หาโอกาสและช่องทางการทำธุรกิจของตนเองจนสำเร็จได้

“พื้นเพเป็นคนบุรีรัมย์ เติบโตและเรียนจบมัธยมศึกษาตอนต้น ก่อนจะย้ายมาอยู่กับพี่ชายที่จังหวัดชลบุรี ทำงานเป็นพนักงานในห้าง จนถึงจุดหนึ่งที่รู้สึกว่าเงินเดือนมันได้น้อย ก็เลยตัดสินใจกลับไปเรียนต่อพาณิชย์ สาขาการบริหารธุรกิจ เอกคอมพิวเตอร์ และได้เข้าทำงานกับทางมหาวิทยาลัยบูรพา ในตำแหน่งพนักงานการเงินและบัญชี ทำมาเกือบ 4 ปี จุดเปลี่ยนคือ ต้องลาออกไปเป็นทหาร แต่พอกลับมาจากการเป็นทหาร ก็มาสานต่อธุรกิจรถตู้ให้เช่า ซึ่งทำควบคู่มาตั้งแต่ตอนทำงานที่มหาวิทยาลัยบูรพา เริ่มต้นจากการเป็นรถตู้รับส่งนักเรียน แล้วจึงมาทำเป็นรถตู้เพื่อทัวร์ ท่องเที่ยว

ก่อนที่ผมจะมีร้านขายของข้างปั๊ม จุดเริ่มต้นมันมาจากร้านดั้งเดิมของแฟน ซึ่งที่บ้านของเขาเปิดร้านขายของฝาก อยู่ที่ตลาดหนองมน จังหวัดชลบุรี ตอนนั้นผมเห็นว่าตลาดมันนิ่งแล้ว ช่องทางขายเริ่มตัน ก็เลยต้องการหาตลาดเพิ่ม  ประจวบกับทางบ้านแฟนมีโรงงานเผาข้าวหลาม จึงคุยกันว่า เราน่าจะเพิ่มสินค้าข้าวหลามเข้ามาขาย” คุณธวัช เริ่มต้นด้วยเรื่องเล่าฉบับย่อของชีวิต และการทำงานให้กับนิตยสารเส้นทางเศรษฐีฟัง

ส่วนช่องทางการขายที่มองหาและสนใจจะขยายร้านเพิ่มคือ สถานีน้ำมัน ปตท. เพราะเหตุผลที่ว่า ปตท. มีการพัฒนาธุรกิจอยู่สม่ำเสมอ และดูมีความมั่นคง โดยคุณธวัชบอกถึงเทคนิคการเลือกสินค้า ในการนำเอาเข้ามาขาย มีอยู่ 4  ข้อ ดังนี้

1. คุณภาพสินค้า เป็นสิ่งแรกที่พิจารณา ต้องดูว่าสินค้านั้นมันมีคุณภาพจริงหรือไม่
2. การได้รับมาตรฐาน มีแบรนด์ติดตราสินค้า เป็นอีกสิ่งที่สำคัญมาก แต่สำหรับเกษตรกร หรือกลุ่มแม่บ้านที่ยังไม่ได้รับมาตรฐาน หรือทำตามระเบียบที่กำหนดไว้ก็จะพิจารณาโดยขอดูสินค้า ว่ารสชาติเป็นอย่างไร จะขายแบบไหน ถ้าดูแล้วว่าทำได้ ก็จะช่วยด้วยการนำสินค้ามาแต่งตัวใหม่ ทำแพ็กเกจจิ้งให้
3. เลือกที่แตกต่าง ไม่เหมือนใคร เพราะการเป็นผู้นำตลาดเอาสินค้ามาขายก่อนจะทำให้ขายดี เช่น โรตีกรอบ ซึ่งเมื่อก่อนไม่มีใครรู้จักหรือนำมาขาย แต่พอติดตลาดก็ทำให้มีคนสนใจ มีคู่แข่งเพิ่มขึ้น
4. ระยะเวลาอายุของสินค้า ว่าเก็บได้นานเท่าไหร่ เหมาะกับการจำหน่ายหรือไม่

นอกจากนี้ คุณธวัช ยังบอกว่า “สิ่งสำคัญของร้านจำหน่ายสินค้าประเภทนี้คือ ทำเล ซึ่งควรเลือกพื้นที่ในจุดที่มีนักท่องเที่ยวชาวไทย หรือต่างประเทศเดินทางผ่านตลอดทั้งปี ช่วงแรกที่มาลงทุนเปิดร้านกับ ปตท. ก็เพื่อต่อยอดจากโรงงานข้าวหลามที่มีอยู่ โดยเริ่มจากร้านแบบคีออส (Kiosk)

และอีกเรื่องที่สำคัญคือ ความซื่อสัตย์ เพราะทำให้มีลูกค้าต่อเนื่อง อยู่ยั่งยืน ดังนั้น สินค้าของที่ร้านจะเน้น คุณภาพและความสดใหม่ มีกำหนดเปลี่ยนทุก 7 วัน สินค้าตัวไหนที่ใกล้วันหมดอายุจะรีบเก็บลง”

ในระยะเวลาร่วม 10 ปีนับจากวันที่เริ่มเปิดร้านจนถึงปัจจุบัน คุณธวัชสามารถขยายร้านได้เกือบ 10 แห่ง ใช้วิธีบริหารธุรกิจแบบครอบครัว แบ่งหน้าที่รับผิดชอบให้กับทุกคน มีจำนวนพนักงาน 20-30 คน ทั้งมีแนวคิดที่จะรับนักเรียนแบบพาร์ตไทม์ เพื่อให้โอกาสและช่วยเหลือค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง ด้วยเหตุผลที่ว่าคุณธวัชเคยทำงานตั้งแต่วัยเรียนจึง เข้าใจปัญหาเศรษฐกิจและค่าใช้จ่าย

สำหรับการจัดรูปแบบร้าน จะแบ่งสินค้าเป็นโซน เช่น โซนอาหารทะเล โซนทุเรียนทอด โซนสำหรับคนขับรถ โซนผลไม้สด เป็นต้น เพื่อให้ง่ายต่อลูกค้า และการดูแลสินค้า โดยสินค้าภายในร้านมีหลากหลาย อย่างเช่น โรตีกรอบ มะขาม  ทุเรียนทอด ขนุนทอด และสินค้าโอท็อปของจังหวัดชลบุรี จังหวัดระยอง อื่นๆ อีกมากมาย

สินค้าขายดียอดฮิตในร้าน 3 รายการ ที่ไม่ว่าจะคนไทย หรือคนต่างชาติก็ชอบ นั่นคือ อาหารทะเล ทุเรียนทอดและขนุนทอด อีกอย่างที่ชาวต่างชาตินิยมก็คือ พวกผลไม้อบแห้ง ประเภทฟรีซดราย จะชอบมาก โดยเฉพาะคนจีน จะซื้อติดไม้ติดมือกลับไปตลอด

“การมาเปิดร้านขายสินค้าจากวิสาหกิจชุมชน สินค้าโอท็อปแบบนี้ สำหรับผมถือได้ว่าเป็นการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เหมือนน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า อยากช่วยให้สินค้าเหล่านี้ขายได้ มีช่องทางที่เขาจะสามารถกระจายสินค้าไปได้ อีกทั้งการที่ผมรับสินค้าของชุมชนต่างๆ มาทำแพ็กเกจจิ้ง แล้วมาติดแบรนด์วางขาย เป็นการช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้านั้นๆ ด้วย ปัจจุบัน ยอดขายสินค้าของร้านข้างปั๊ม ปตท. มอเตอร์เวย์ ระยอง สามารถทำรายได้ประมาณ 1-1.5 ล้านบาท ต่อเดือน ซึ่งกำไรไม่ได้เยอะ เมื่อต้องหักค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็ได้กำไรไม่มาก แต่ก็ถือว่าอยู่ได้” คุณธวัช บอก

ถ้าหากใครที่สนใจอยากลงทุน อยากเปิดร้าน ทำธุรกิจเป็นของตนเอง สนใจทำเลภายในปั๊ม ปตท. อยู่คุณธวัช บอกว่า สามารถเข้าไปติดต่อกับที่ปั๊มได้เลย โดยเข้าไปสอบถามรายละเอียดกับทางผู้จัดการปั๊ม ในกรณีที่ 1 ถ้าเขาบอกว่า ปั๊มนี้ทาง ปตท. บริหารงานเอง ก็จะมีเบอร์สำหรับติดต่อกับทางสำนักงานใหญ่ของ ปตท. ที่เขาดูแลส่วนงานนี้ ก็ติดต่อกันไปตามกระบวนการ กรณีที่ 2 ถ้าหากเป็นปั๊มที่เป็นดีลเลอร์ (มีเจ้าของปั๊มบริหารงานเอง) ก็จะสามารถติดต่อกับเจ้าของปั๊มได้โดยตรง