ผู้เขียน | วัชรี ภูรักษา |
---|---|
เผยแพร่ |
กระแสนิยมคนชอบรับประทานต้นอ่อนทานตะวัน กำลังมาแรง หลายคนมองหาวิธีการปลูก การเพาะ หรือบางคนเพาะขายเป็นอาชีพเสริมก็มี เนื่องจากตลาดยังนิยมและสามารถขายได้ เพราะเป็นผักที่มีอายุการเก็บเกี่ยวสั้น ดูแลไม่ยาก อีกทั้งยังไร้สารเคมีอีกด้วย
ซึ่งหลายคนที่หันมาปลูกต้นอ่อนทานตะวันขาย ไม่เพียงแต่ทำเป็นอาชีพเสริมเท่านั้น แต่ยังสามารถทำเป็นอาชีพหลัก สร้างรายได้ให้เป็นอย่างดีอีกด้วย
ลาออกจากงานออฟฟิศ
มาปลูกผักขาย ยึดเป็นงานหลัก
คุณสวรินทร์ ขุนโยธา หรือ คุณกัล วัย 41 ปี เจ้าของกิจการเพาะต้นอ่อนทานตะวัน ซึ่งมีโรงเรือนเพาะปลูก โรงเล็กๆ ข้างบ้าน เล่าเรื่องราวของเธอให้ฟังว่า “เติบโตมาจากครอบครัวที่ปลูกผัก จึงทำให้เข้าใจการปลูกผักหรือวิธีการต่างๆ ได้ง่าย แต่ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้ทำอาชีพเพาะปลูกอะไร เป็นเพียงพนักงานของรัฐคนหนึ่งเท่านั้น
ช่วงระหว่างที่ทำงาน เกิดป่วยมีเนื้องอกที่มดลูก 4 ก้อน ต้องลางานเพื่อไปรักษาตัวอยู่บ่อยๆ จึงได้ตัดสินใจลาออกจากงานเพื่อมารักษาตัวและผ่าตัด เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ ระยะเวลาผ่านมาเกือบ 6 ปี ที่ลาออกจากงานออฟฟิศมายึดอาชีพเกษตร ปลูกต้นอ่อนทานตะวันเพื่อส่งขายให้กับตลาดสด สามารถสร้างรายได้ต่อเดือนให้ไม่น้อย
ย้อนเล่าไปช่วงที่ต้องมารักษาตัว หลังจากลาออกจากงาน ได้ไอเดียมาเพาะต้นอ่อนทานตะวันขายเพราะการไปช่วยหลานขายต้นอ่อนทานตะวัน และผลิตผลจากไร่ลุงท็อป จ.ลพบุรี เนื่องจากมีงานทุ่งทานตะวัน เกิดสนใจเพราะสามารถขายได้วันละ 3-4 พันบาท ทั้งคิดว่าสามารถทำได้ง่ายที่บ้าน จึงกลับมาศึกษาและทำการเพาะต้นอ่อนทานตะวัน เริ่มจากทดลองก่อน เมื่อปลูกและได้ผลผลิต ก็แจกจ่ายให้เพื่อนบ้านได้ชิมกันก่อน จากนั้นก็เริ่มหาตลาดเพื่อขายบ้าง
จากที่ทดลองทำ กระทั่งสามารถจำหน่ายได้ ระยะเวลาประมาณหนึ่งปีครึ่ง คุณกัล บอกว่า “ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยาก เพราะวิธีการเพาะต้นอ่อนทานตะวันทำได้ง่าย ใครก็สามารถทำได้ ด้วยวิธีการเพาะปลูกต่างๆ สามารถหาได้จากสื่อทั่วไป อีกทั้งต้นอ่อนทานตะวันกำลังอยู่ในกระแสคนนิยมรับประทานกันมาก
ปัจจุบัน การเพาะต้นอ่อนทานตะวันขาย จึงได้กลายเป็นอาชีพหลักไปแล้ว อีกทั้งยังสามารถสร้างรายได้ต่อเดือนไม่ต่ำกว่าเดือนละ 35,000-40,000 บาท เป็นรายได้ที่สามารถหาได้ที่บ้าน”
เพาะต้นอ่อนไม่ยุ่งยาก
ทำได้เองที่บ้าน
ด้วยวิธีการปลูกแบบอินทรีย์ ไม่ใช้สารเคมีเข้ามาช่วยในการปลูก ต้นอ่อนทานตะวันจึงเป็นอาหารที่ไม่มีสารเคมี โดยคุณกัลบอกถึงสโลแกนการปลูกผักว่า “ไม่สวยแต่ปลอดภัย”
พื้นที่ข้างบ้าน ที่ใช้ในการปลูกต้นอ่อนทานตะวันมีเพียงประมาณ 4-5 เมตร โดยทำชั้นปลูกแบบคอนโดฯ ปลูกได้ประมาณ 20-25 ถาด ซึ่งต้องวางแผนงานไว้ล่วงหน้าให้สอดคล้องกับออร์เดอร์ที่มี
สำหรับวิธีการปลูก คุณกัล บอกว่า นำเมล็ดต้นอ่อนทานตะวันแช่น้ำประมาณ 7-8 ชั่วโมง หลังจากนั้นบ่มเมล็ดอีกประมาณ 12 ชั่วโมง เมื่อนำมาปลูกในถาดก็โรยดินชั้นล่างก่อน จากนั้นโปรยเมล็ดต้นอ่อนบ่มเตรียมไว้ แล้วโปรยดินกลบทับอีกชั้น หลังจากนั้น 2 วัน ก็จะเริ่มงอก ต้นอ่อนทานตะวันอายุ 7 วัน ก็สามารถตัดขายได้ ซึ่งถ้าวางแผนงานก็จะมีต้นอ่อนทานตะวันขายทุกวัน
ด้านผลผลิตที่ได้ต่อวันและสามารถส่งขายได้เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 15 กิโลกรัม เป็นอย่างน้อย ขายกิโลกรัมละ 80 บาท ซึ่งเป็นราคามาตรฐานในการขายต้นอ่อนทานตะวันของที่นี่ ไม่ว่าวัตถุดิบจะถูกหรือแพงขึ้น ก็ขอขายในราคานี้ ทั้งการปลูกต้นอ่อนทานตะวันยังได้รับเงินทุกวัน และแนวโน้มของผักที่ไม่มีสารเคมีดีขึ้นทุกวัน เพราะคนหันมาสนใจเรื่องสุขภาพกันมากขึ้น อีกทั้งต้นอ่อนทานตะวันมีจุดเด่นตรงที่กรอบ อร่อย คนจึงนิยม คุณกัลเล่าให้ฟังในมุมมองของคนเพาะปลูก
คุณกัล ยังเล่าต่อด้วยว่า “ทุกการทำงานย่อมต้องเคยผิดพลาดกันมา ไม่มากก็น้อย เธอก็เคยเจอปัญหาในการเพาะต้นอ่อนทานตะวันเช่นกัน ช่วงแรกที่ทำด้วยความไม่เข้าใจ ทำให้ปลูกไปแล้วผักน็อก เติบโตได้ไม่เต็มที่ แล้วก็ไม่สวยเท่าที่ควร
อีกทั้งช่วงหน้าหนาวต้นอ่อนทานตะวันจะโตช้า บางทีก็ไม่ค่อยโต ต้นไม่ยาว ยิ่งถ้าอากาศไม่ร้อน ไม่มีความชื้น ผักก็จะไม่งอก ตอนแรกๆ ที่ยังไม่มีประสบการณ์ก็ลำบากหน่อย แต่เมื่อต้องทำมาค้าขายกับคนอื่นแล้ว สัจจะและความซื่อสัตย์ คือเรื่องสำคัญ คู่ค้าถึงจะทำมาค้าขายกันยืด จึงพยายามปรับการปลูกผักให้สามารถส่งขายอย่างต่อเนื่องต่อไปได้”
นอกจากต้นอ่อนทานตะวันจะสามารถนำไปประกอบอาหารได้อย่างหลากหลายเมนูแล้ว ยังสามารถนำไปจัดกระเช้าของฝาก ของขวัญ มอบให้ผู้ใหญ่ได้อีกด้วย เพราะที่ผ่านมา มีลูกค้าหลายคนสั่งต้นอ่อนทานตะวันนำไปจัดกระเช้ามาแล้ว คุณกัล บอก
สำหรับใครที่สนใจ สามารถโทรติดต่อสอบถามคุณกัลได้ที่เบอร์ (089) 508-6691 Facebook : Sawarin PK Kan Khunyota หรือตามที่อยู่ กองพันทหารสื่อสารที่ 21 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ 10220