จบเภสัชจุฬาฯ ผันตัวเป็นเเม่ค้าขายของใน IG ปั้นธุรกิจขนตาปลอม “บอกต่อ” ขึ้นเเท่นอันดับหนึ่งในตลาด ครองใจสาวอยาก (ตา) สวย

ปัจจุบัน “ขนตาปลอม” เปรียบเสมือนอวัยวะที่ 33 ของผู้หญิง เพราะลำพังการแต่งหน้าเพียงอย่างเดียวเหมือนว่าจะสวยไม่สุด สมัยนี้สาวๆ ที่รักสวยรักงามจะไม่ปล่อยให้ดวงตาโล่งเตียนเป็นอันขาด ฉะนั้น “ขนตาปลอม” เลยกลายเป็นไอเท็มชิ้นสำคัญบนโต๊ะเครื่องแป้งที่ขาดไม่ได้

“บอกต่อ” คือ แบรนด์ขนตาปลอมของคนไทย ที่ได้รับความนิยมมากในหมู่ช่างแต่งหน้า และขณะนี้ จัดจำหน่ายโดย บริษัท บอกต่อคอสเมติกส์ จำกัด บริหารงานโดยสาวคนสวย คุณชลธิชา ศรีแสวง หรือ คุณปราง ซีอีโอ ดีกรีปริญญาโท คณะเภสัชศาสตร์ สาขาเภสัชอุตสาหกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

16145747_1633326216694477_1515059861_o

จบ ป.โท คณะเภสัชศาสตร์
ลุยขายของออนไลน์

คุณปราง เผยที่มาของการทำธุรกิจว่า ช่วงที่เรียนปริญญาโท เคยขายของออนไลน์ จำพวกครีมทาหน้า สบู่ล้างหน้า ยาลดความอ้วน โดยลักษณะรับมาขายไป ขายได้ 4 เดือน เริ่มมองหาสินค้าใหม่มาทำตลาด โดยคิดว่า ขายอะไรที่ร้านอื่นไม่ขาย หาความแตกต่าง กระทั่งสรุปว่า “ขนตาปลอม” ในขณะนั้นราวปี 2554 เป็นสินค้าที่ร้านค้าออนไลน์ยังไม่นิยมนำมาจำหน่าย

คุณปราง รับขนตาปลอมมาขายในอินสตาแกรม (IG) โดยเธอใช้วิธีจูงใจลูกค้าด้วยการรีวิวสินค้าเอง ให้คนซื้อเห็นว่าเจ้าของร้านใช้จริง ขายใน IG ราว 5 เดือน ฟีดแบกดีมาก กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นพริตตี้นักศึกษา และช่างแต่งหน้า ซีอีโอสาวเลยตัดสินใจสร้างแบรนด์ขนตาปลอมเป็นของตัวเอง โดยนำปัญหาที่พบเจอจากการพูดคุยกับลูกค้ามาสร้างสรรค์แบบขนตาปลอมและศึกษาวัตถุดิบอย่างลึกซึ้ง รวมถึงการออกแบบพัฒนารุ่นใหม่ๆ เป็นแบบเฉพาะของแบรนด์เอง เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มให้ได้มากที่สุด จนส่งผลให้รายได้ทะยานขึ้นหลักแสนต่อเดือน

2

“จุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิดแบรนด์ขนตาปลอม บอกต่อ คือ ลูกค้าเข้ามาอุดหนุนเยอะมาก สินค้าของเราใช้ดี เกิดการบอกแบบปากต่อปาก เลยคิดชื่อที่คนไทยจำง่าย เข้าใจง่าย พูดติดปาก คำๆ นั้น คือ บอกต่อ เพราะคำว่า บอกต่อ มักจะได้ยินอยู่เสมอในกรณีที่สินค้าตัวนั้นใช้ดี อะไรดีก็มักบอกต่อกัน อะไรที่ไม่ดีก็ยิ่งบอกต่อกันอย่างรวดเร็ว” คุณปราง บอกที่มาของแบรนด์

ขนตาปลอมบอกต่อ เป็นแบรนด์ขนตาปลอมที่เกิดขึ้นราวปี 2555 ด้วยความพยายามและตั้งใจสรรหาแบบขนตาที่หลากหลาย ทำให้ปัจจุบันขนตาปลอม บอกต่อ เป็นแบรนด์อันดับ 1 ที่ลูกค้าให้ความไว้วางใจ พอติดแล้วก็จะเป็นขนตาปลอมที่ดูไม่ปลอม มีแบบขนตาปลอมให้สาวๆ เลือกมากมายถึง 90 เบอร์ สินค้าทุกชิ้นต้องผ่านการตรวจสอบคุณภาพก่อนถึงค่อยนำมาออกสู่ตลาด
3

จับตลาดขนตาปลอม
จ้างโรงงานผลิต สร้างแบรนด์เอง

ถามว่าจำเป็นมากน้อยแค่ไหนที่สาวๆ ยุคนี้จะต้องติดขนตาปลอม ซีอีโอสาว ระบุว่า จุดแรกที่คนมองมาที่คุณคือดวงตา เพราะฉะนั้น ดวงตาสำคัญมาก ขนตาปลอม จึงมีความจำเป็นในเรื่องความสมบูรณ์แบบครบทุกองค์ประกอบ

“จริงๆ แล้วไม่ใช่เพียงแค่สาวๆ ยุคนี้ที่ติดขนตาปลอม ผู้หญิงกับขนตาปลอมมีมาทุกยุคทุกสมัยแล้ว เพียงแต่เป็นเรื่องของวิวัฒนาการ รวมถึงนวัตกรรมที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นวัสดุที่พัฒนาจากอดีตมาสู่ปัจจุบัน ในอดีตนั้นวัสดุที่นำมาใช้ค่อนข้างแข็งกระด้าง หนา และหนัก ทำให้เจ็บตา พอเริ่มมีการพัฒนาวัสดุที่ใช้ผลิต ไม่หนัก ไม่แข็ง ติดง่าย ไม่ระคายเคือง และการออกแบบที่หลากหลายมากขึ้น ติดไปแล้ว ไม่ดูหลอกตา ไม่ดูแปลกประหลาด สาวๆ หลายคนก็กล้าจะติดขนตาปลอมมากขึ้น”

ด้านของวัสดุที่ใช้ผลิตขนตา ซีอีโอสาว ระบุว่า มี 2 ชนิด คือ เส้นผมสังเคราะห์คุณภาพสูง เรียงเส้นเหมือนขนตาจริง ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่ม เบาสบาย ปราศจากการระคายเคือง และ เส้นผมจริง โดยใช้วิธีจ้างโรงงานที่ประเทศจีนและอินโดนีเซียผลิต แต่ละเดือนราวหลายแสนคู่ โดยบางรุ่นออกแบบเอง ส่วนคุณภาพและความปลอดภัยได้มาตรฐานสากล

16176354_1633326250027807_1250120998_n

ในส่วนการทำตลาด กรรมการผู้จัดการ ระบุว่า บอกต่อคอสเมติกส์ บุกตลาดประเทศเพื่อนบ้าน ด้วยวิธีไปออกงานอีเว้นต์ ไปเวิร์กช็อปให้ความรู้สาวๆ และช่างแต่งหน้าเรื่องการติดขนตาปลอมว่า ไม่ได้ยากอย่างที่คิด อีกทั้งบอกประโยน์ของการติดขนปลอมว่าสามารถเพิ่มความสวยงามให้กับใบหน้าได้ด้วย เพราะจุดเด่นของใบหน้ามักอยู่ที่ดวงตา ฉะนั้นการเสริมเสน่ห์กับดวงตาให้งดงามนั้น ย่อมเป็นที่ต้องการของผู้หญิงทุกคน โดยประเทศที่เข้าไปแล้วมี ลาว เมียนมา ฟิลิปินส์ อินโดนีเซีย กัมพูชา มาเลเซีย สิงคโปร์ บรูไน เวียดนาม ปัจจุบันมีตัวแทนจำหน่ายเกือบทั่วทั้ง AEC กลุ่มลูกค้าเอเชียชอบขนตาที่ติดแล้วดูเป็นธรรมชาติ และขนตาเจ้าสาวติดแล้วสวยเหมือนเจ้าหญิง

Print

การเติบโตของธุรกิจขนตาปลอม ซีอีโอสาว ตอบว่า ธุรกิจเติบโตขึ้นทุกปี ปัจจัยที่ผลักดันให้ธุรกิจนี้โตคือ ความไม่หยุดสวยของผู้หญิง โดยเฉพาะตลาดเพื่อนบ้านที่เพิ่งหันมาสนใจเรื่องบุคลิกภาพ และจากการที่ได้เจาะตลาดประเทศใกล้เคียง ทำให้รู้ว่าลูกค้าส่วนใหญ่ชอบฝีมือช่างแต่งหน้าคนไทย ทางบอกต่อเลยคิดโปรเจ็กต์ที่ชื่อว่า MAKE MEUP เป็นโปรเจ็กต์ที่เปิดโอกาสให้ช่างแต่งหน้าไทย ได้มีโอกาสแสดงความสามารถ ได้ทำอะไรที่ตัวเองไม่เคยคิดจะกล้าทำ และจะนำผลงานของทุกคนออกสู่ทั่ว AEC

“ช่างแต่งหน้า เปรียบเสมือนคนในครอบครัวของขนตาปลอมบอกต่อ เราอยากสนับสนุนคนในครอบครัวของเราไปให้ไกล ไปให้ถึงฝันที่คนกลุ่มนี้วาดไว้ ฉะนั้นเลยเกิดโปรเจ็กต์ที่ชื่อว่า MAKE ME UP ขึ้นมา บรรดาพี่ๆ น้องๆ ช่างแต่งหน้า จะได้มาโชว์ความสามารถให้เต็มที่ เพื่ออวดสู่สายตาชาวโลก”

16121606_1633331796693919_274488751_o

ภารกิจ MAKE ME UP
ดันช่างแต่งหน้าไทยไปทั่วโลก

คุณปราง อธิบาย โปรเจ็กต์ที่ชื่อว่า MAKE ME UP เป็นความร่วมมือกัน ระหว่างบอกต่อกับช่างแต่งหน้าไทยฝีมือดี 18 คน เข้ามาแสดงความสามารถโชว์ศักยภาพในแบบของตัวเอง ถ่ายทอดผ่านคลิปวิดีโอนำไปเผยแพร่ต่างประเทศ โดยคลิปแรกของโปรเจ็กต์นี้จะเกิดขึ้นในโลกออนไลน์ วันที่ 21 มกราคม 2560

สำหรับแนวโน้มธุรกิจขนตาปลอมปีนี้จะเป็นอย่างไร เจ้าของธุรกิจ ระบุว่า ขนตาปลอมจะอยู่คู่กับผู้หญิงได้ทุกยุคทุกสมัยจริงๆ ดังนั้น แนวโน้มของธุรกิจนี้จะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ไม่สิ้นสุด ฉะนั้น ทางบริษัทจะไม่หยุดพัฒนาสิ่งใหม่ๆ ตามไปด้วย ยกตัวอย่าง ในปีนี้ทางบริษัทจะมีผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับขนตาปลอมอีกหลายอย่าง

อุปสรรคการทำธุรกิจนี้คืออะไร คุณปราง บอกว่า เป็นเรื่องทัศนคติ ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่ยังไม่เคยติดขนตาปลอมก็จะกลัว และกังวล ฉะนั้น สิ่งสำคัญคือ การปรับทัศนคติกับลูกค้า

สำหรับข้อคิดหรือคติที่คุณปรางใช้ในเวลาทำงาน เธอบอกว่า คือ “สติ” โดยอธิบายเสริมว่า ไม่ว่าจะทำอะไร ต้องมีสติ ส่งผลได้ทั้งดีและร้าย ต่อมาคือ ความจริงใจต่อลูกค้า

ในอนาคต ผู้บริหาร ตั้งเป้าหมายว่า จะทำให้แบรนด์บอกต่อ เป็นผู้นำผลิตภัณฑ์ด้านดวงตา ที่สาวๆ มั่นใจกล้าเลือกใช้ รวมถึงกระเป๋าช่างแต่งหน้าทุกคนจะต้องมีบอกต่อ