“มิตซุย” แอร์คนไทย ลุคส์ญี่ปุ่น ผุดนวัตกรรมประหยัดไฟ 30 เปอร์เซ็นต์ ติดตั้งง่าย เจาะตลาดค้าปลีก

ทายาทหนุ่มไฟแรงวัย 34 ปี คนรุ่นใหม่ที่ Forbes ยกให้ติดอันดับ 1 ใน 15 นักธุรกิจที่น่าจับตามองแห่งเอเชีย ฐานะพี่ชายคนโต เจ้าของธุรกิจเครื่องปรับอากาศ“มิตซุย”ครองใจลูกค้าคนไทยมายาวนานกว่า 20 ปี ขอสยายปีกกิจการบุกตลาดค้าปลีกและออนไลน์ ชูคุณภาพ ขายลุคส์ญี่ปุ่น ล่าสุดผุดนวัตกรรม VRF ประหยัดไฟ 30 เปอร์เซ็นต์ ติดตั้งง่าย ประหยัดพื้นที่ ตอบโจทย์ลูกค้าบ้านที่มีจำนวนห้องเยอะ อาคาร สำนักงาน โรงเรียน ตั้งเป้ายอดขายปีนี้เพิ่ม 50 เปอร์เซ็นต์

คุณเชาวนนท์ คลังเปรมจิตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามมิตซุย จำกัด คือ ทายาทรุ่นที่ 2 ของผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องปรับอากาศ MITSUI (มิตซุย) แอร์ของคนไทย

คุณเชาวนนท์ เล่าว่า เกิดและเติบโตมาในครอบครับที่ทำธุรกิจผลิตและจำหน่ายเครื่องทำความเย็น และเครื่องปรับอากาศ ลูกค้าในยุคแรกๆ ของแอร์มิตซุยส่วนใหญ่ คือ ลูกค้ากลุ่มโปรเจค เช่น โรงแรม อาคารสำนักงาน มหาวิทยาลัย จนกระทั่งเมื่อปี 2554 เข้ามาช่วยดูแลกิจการของครอบครัว เริ่มหันมาทำตลาดกลุ่มลูกค้ารายย่อย รวมถึงเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์

คุณเชาวนนท์จบคณะบริหารระหว่างประเทศ จากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค) เคยได้ไปเรียนและฝึกงานที่ประเทศญี่ปุ่น หลังจากกลับมา ก็ถูกวางตัวให้เข้ามาดูแลกิจการ เขานำเทคโนโลยีใหม่ๆ จากญี่ปุ่น มาใช้กับเครื่องปรับอากาศมิตซุย จนเป็นที่ยอมรับของตลาด โดยเฉพาะตลาดโปรเจคหรือโครงการอสังหาริมทรัพย์

“ผมนำความรู้และคอนเน็คชั่นมาเชื่อมต่อสร้างประโยชน์กับธุรกิจ รวมถึงนำเทคโนโลยีใหม่ๆ จากญี่ปุ่นมาใช้กับเครื่องปรับอากาศมิตซุย เช่น ระบบ VRF เป็นระบบที่มีอินเวอร์เตอร์ในตัว ติดตั้งง่าย ประหยัดพื้นที่ ประหยัดพลังงานลง 30 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงทำระบบแอร์ในเรือ แอร์หน้าต่างในตู้คอนเทนเนอร์ แอร์สั่งตาม ที่สำคัญเลือกใช้วัสดุที่หลากหลายตามลักษณะของพื้นที่ เช่น เหล็ก ไฟเบอร์กลาส พลาสติก”

เดิมที่มิตซุยเน้นลูกค้าโปรเจคใหญ่ ปัจจุบันผู้บริหารเริ่มหันมาเจาะตลาดลูกค้าปลีกมากขึ้น และเนื่องจากเป็นแบรนด์เล็ก คุณเชาวนนท์อาศัยทำโปรโมชั่นร่วมกับพาสเนอร์ เช่น บัตรเครดิตเคทีซี  เปิดขายออน ไลน์ ผ่านเว็บไซด์มาร์เก็ตเพลสต่างๆ

สำหรับสัดส่วนลูกค้าโครงการ 70 เปอร์เซ็นต์ ตลาดค้าปลีก 30 เปอร์เซ็นต์ ผู้บริหาร บอกต่อว่า การมีพาร์ทเนอร์ที่ดี จะช่วยผลักดันยอดขาย เพราะปีนี้ต้องการบุกตลาดค้าปลีกอย่างจริงจัง อย่างเช่น จับมือกับเคทีซี ก็หวังจะผลักดันยอดขายให้เติบโตขึ้นอีก 50 เปอร์เซ็นต์ จากเดิมที่เติมโตประมาณ 10-20 เปอร์เซ็นต์

“นับตั้งแต่ผมเข้ามาช่วยกิจการ ยอดขายเครื่องปรับอากาศก็เพิ่มขึ้น 100 เปอร์เซ็นต์ กำลังการผลิตเฉลี่ยปีละ 10,000ตัว ส่งต่างประเทศ  ลาว กัมพูชา ในปีนี้ตั้งเป้ายอดขาย 100 ล้านบาท ในอนาคตอันใกล้จะนำระบบ ISO เข้ามาปรับใช้ รวมถึงใช้ระบบบริหารจัดการและเก็บข้อมูลผ่านออนไลน์มากขึ้น”

ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา ทายาทหนุ่ม เผยว่า จุดแข็งที่ทำให้แอร์มิตซุยยังยืนหยัดอยู่ในตลาดได้เพราะใช้ 3 กลยุทธ์ คือ 1.ราคาไม่แพง 2.คุณภาพและการบริการ เปลี่ยนคืนสินค้าภายใน 7วัน 3. ความหลากหลายของสินค้า