กลับบ้านเกิด เลี้ยงเป็ด-ปลูกผัก ส่งขายเกาะสมุย รายได้เดือนละ 5 หมื่น

มุมมองในการดำเนินชีวิตของแต่ละคนต่างกัน มีช่องทางในการทำงานและประกอบอาชีพที่แตกต่างกันไป บางครั้งการทำธุรกิจที่หลายคนใฝ่ฝันถึงก็อาจจะไม่ตอบโจทย์ชีวิตของใครอีกหลายคน เฉกเช่น คุณสิทธิชัย จันทสุวรรณ หรือผู้ใหญ่เล็ก ผู้ใหญ่บ้านคีรีรัตน์ ต.ควนทอง อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้ใหญ่มาตั้งแต่ปี 2552 จนถึงปัจจุบัน ผู้ใหญ่บ้านที่ใช้เวลาว่างจากการปฏิบัติงานราชการ และช่วยเหลือชาวบ้าน มาประกอบอาชีพเสริมอีกหนึ่งอาชีพ คือเป็นเกษตรกร ทำเกษตรผสมสานบนพื้นที่ 4 ไร่กว่า สร้างรายได้เพิ่มอย่างน่าพึงพอใจสำหรับชีวิตเกษตรกรคนหนึ่งที่ได้กลับมาใช้ชีวิตที่บ้านเกิด และดำเนินวิถีชีวิตอย่างพอเพียง

ผู้ใหญ่เล็ก เริ่มต้นเล่าให้ฟังว่า “เมื่อก่อนมีความคิดอยากเป็นนักธุรกิจ ประจวบกับมีที่ดินอยู่ที่เกาะสมุย จึงลงทุนทำธุรกิจเปิดบริการที่พัก สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเกาะสมุย ก่อนที่จะมีเหตุให้เลิกทำ เนื่องจากพ่อแม่ที่บ้านป่วย และต้องการคนดูแลใกล้ชิด อีกทั้งการทำธุรกิจมันมีความเครียดและแรงกดดันหลายอย่าง ไม่ว่าจะเรื่องการบริหาร เรื่องผลกำไร การลงทุน เครียดอยู่ตลอดเวลา จึงตัดสินใจร่วมกับภรรยาว่าจะเลิกทำธุรกิจ แล้วกลับมาอยู่บ้านที่จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวะที่ย้ายกลับมาอยู่บ้านที่นครศรีธรรมราช ก็ได้ลงสมัครชิงตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านคีรีรัตน์ ซึ่งก็ได้รับเลือกและดำรงตำแหน่งเรื่อยมา

 

ด้วยสภาพแวดล้อมของคนในพื้นที่ และคนท้องถิ่นที่นี่ ทำการเกษตรมาดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็นการทำสวนยาง ปลูกพืชผลทางการเกษตร ซึ่งส่วนตัวเองก็มีพื้นที่ อีกทั้งชอบงานด้านการเกษตรจึงปรับพื้นที่ที่มีให้เป็นการทำเกษตรแบบผสมผสาน โดยใช้ประโยชน์จากพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด”

โดยเริ่มจากการเลี้ยงเป็ดในพื้นที่หลังบ้าน ปรับสภาพพื้นที่ให้เหมาะสำหรับการเลี้ยงเป็ด สภาพแวดล้อมที่ดีต้องมีลำคลอง มีการกั้นบริเวณแยกสัดส่วนการเลี้ยง ทำโรงเรือนสำหรับเป็นที่อยู่อาศัยให้เป็ดในช่วงเวลากลางคืน และปล่อยเลี้ยงตามธรรมชาติ ให้เป็ดมีพื้นที่เดิน พักผ่อน และเปิดเพลงให้เป็ดฟัง เป็ดจะได้ไม่เครียด ผู้ใหญ่เล็กบอก

สำหรับการให้อาหารสูตรของผู้ใหญ่เล็กคือ ให้อาหารเพียงหนึ่งครั้งต่อวัน โดยการคำนวณจากนิสัยการกินของเป็ดซึ่งจากเดิมที่เคยให้ 1 วัน 2 มื้อนั้น เป็ดสามารถกินอาหารได้จำนวน 2.2 กรัมต่อ1 ตัว จึงได้ทำการปรับเปลี่ยนวิธีการให้อาหาร และนิสัยการกินของเป็ด เป็นแบบที่ให้อาหารเพียงวันละ 1 ครั้ง ในจำนวน 2.2 กรัม ต่อหนึ่งตัว ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการต่อวันของเป็ดแล้ว ที่นี่เลี้ยงเป็ดอยู่ประมาณ 1,000 ตัว ก็เอาจำนวนนี้คูณกันไปเลย ในการให้อาหารต่อวัน ช่วยลดเวลาในการให้อาหาร และลดความยุ่งยากลงไปในช่วงแรก เป็ดก็อาจจะไม่ชิน ผอมไปบ้าง แต่สักพักเขาจะดีขึ้น ร่างกายเป็นปกติ ให้ไข่ได้ตามปกติ อย่างที่นี่ก็สามารถให้ไข่เฉลี่ยได้วันละประมาณ 900 กว่าฟอง ไข่เป็ดที่นี่จะขายทั้งสดและจะนำเอามาแปรรูปเป็นไข่เค็ม ไข่หวานเพื่อเพิ่มมูลค่าในการขาย

จากการเลี้ยงเป็ด ขยายไปสู่การลดต้นทุนเรื่องปุ๋ย ในแปลงเกษตรที่ปลูกพืชผลทางการเกษตรแบบผสมผสาน โดยผู้ใหญ่เล็กเล่าว่า “ผมเริ่มทำสวนเกษตรแบบผสมผสานมาหลังจากการเลี้ยงเป็ดได้พักเดียว ก็มาเริ่มพัฒนาที่ดินใกล้ๆ สวนยางมาทำเป็นแปลงเกษตร ปลูกพืชผล เช่น ฝรั่งกิมจู 50 ต้น ,ส้มโชกุน 40 ต้น,  กล้วย 30 ต้น, มะม่วง 30 ต้น, ทุเรียน 40 ต้น, ละมุน 30 ต้น, เงาะ 4-5 ต้น ปลูกผักบุ้ง ขุดบ่อเลี้ยงปลาหมอ ผสมผสานกันไป เป็นการปลูกพืชผลทุกอย่างที่เราชอบ อยากลองปลูก บนพื้นที่ประมาณ 4 ไร่ โดยใช้ประโยชน์จากสิ่งที่เรามีอย่างคุ้มค่า อย่างมูลเป็ดเอามาทำเป็นปุ๋ยใส่ต้นไม้ ใส่แปลงผัก นำน้ำจากบ่อเลี้ยงปลามาใช้ภายในสวน ต่อเป็นปั๊มน้ำ ดูดน้ำจากบ่อเป็นระบบรางน้ำเปิดปิด สำหรับการรดน้ำในสวน ภายในแปลงเกษตร 4 ไร่ จะปลูกพืชที่ให้ผลผลิตทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว และพวกพืชผักสวนครัว”

สำหรับรายได้และการขาย ผู้ใหญ่เล็ก แจกแจงรายละเอียดเอาไว้ว่า อย่างรายได้จากไข่เป็ด ก็มาทั้งแบบที่เอาไปขายเอง และมีลูกบ้านมารับเอาไปขายต่อ ซึ่งก็แบ่งรายได้ให้คนเอาไปขาย 30 เปอร์เซ็นต์ เราก็ 70 เปอร์เซ็นต์ ผักบุ้งขายส่งกำละ 7 บาท เก็บขายทุกวัน หรือไม่ว่าจะเป็นกล้วย ฝรั่ง หรือผลิตที่ปลูกในสวนก็สามารถขายได้ เนื่องจากผลผลิตส่วนใหญ่จะส่งไปขายที่เกาะสมุย เพราะไม่ได้ไกลจากอำเภอขนอมมาก เดินทางไปมาสะดวก ทั้งอาศัยว่ามีญาติพี่น้องที่ยังอยู่ที่นั่น ซึ่งเขายังทำธุรกิจเปิดรีสอร์ต มีที่พัก มีร้านที่นั่น เขาต้องการผลผลิต ก็ปลูกแล้วส่งไปขายที่นั่น เรียกได้ว่าผลผลิตที่เอาไปขายที่นั่น ก็ยังไม่พอ ยังมีความต้องการอีก เพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยว

“การทำเกษตร คือเราได้ทำงานที่ชอบและสนุกไปด้วย ได้เงินไปด้วย ทำเพลินๆ แต่มีรายได้ตลอดทั้งปี เมื่อปลูกแล้วมันขายได้ สร้างรายได้เพิ่มให้ครอบครัวได้ ก็น่าสนใจ ผลผลิตทุกอย่างที่ปลูกไม่ว่าจะภายในสวน หรือรอบๆ บริเวณบ้านก็สามารถเอาไปขายได้ ถ้ารู้จักหาช่องทางการขาย เดี๋ยวตลาดมันก็จะเติบโต ขยายการขายได้เอง แต่ที่สำคัญคือการทำบัญชี และการจดบันทึกการเก็บเกี่ยวผลิตและจำนวนการขาย รายได้ที่ได้รับว่ามาได้อย่างไร โดยหน้าที่นี้ผมยกให้ภรรยาเป็นคนจัดการ” ผู้ใหญ่เล็กยังบอกอีกว่า สำหรับการทำเกษตร สิ่งหนึ่งที่อยากให้ทุกคนคิดก็คือ ทำทุกอย่างที่ตัวเรามีให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ไม่ใช่ทำเพื่อจะขายให้ได้มากที่สุด

นอกจากนี้ ที่นี่ยังเป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงอีกด้วย สำหรับใครที่สนใจอยากไปศึกษาดูงาน หรือเรียนรู้ ขอคำแนะนำในการทำการเกษตรก็สามารถแวะเวียนไปเที่ยว และเยี่ยมชมกันได้ที่ ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน 156 หมู่ 1 ต.ควนทอง อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช หรือจะโทร (086) 2785645