เปิบเมนูป่าสุดแซ่บ ตำป่นจักจั่น หนึ่งปีมีครั้งเดียว ทำเงินสะพัดหน้าแล้ง จับขายตัวละ 3 บาท

วันที่ 3 มีนาคม 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเข้าช่วงฤดูแล้งของทุกปี ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายน ถึงแม้ชาวบ้านในพื้นที่ จ.นครพนม จะประสบปัญหาภัยแล้ง ขาดแคลนน้ำในการเกษตร ทำให้หลายพื้นที่ต่างพากันหาอาชีพเสริมด้วยการออกล่าของป่าขาย โดยเฉพาะอาชีพที่สร้างรายได้ดีที่สุดอาชีพหนึ่งในช่วงฤดูแล้งคือการออกล่าจักจั่นขาย เนื่องจากเป็นอาหารป่าที่ได้รับความนิยมและเป็นที่ต้องการของตลาด ปีไหนหายากจะมีราคาแพงถึงตัวละ 2-3 บาท โดยในช่วงฤดูแล้ง ชาวบ้านจะพากันออกไปล่าจักจั่นตามวิถีชีวิตภูมิปัญญาชาวบ้าน ส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ตามป่าเต็ง ป่ารังที่มีความอุดมสมบูรณ์ ซึ่งใช้วิธีนำยางไม้ไปติด หรือจะมีการออกไปส่องหาในเวลากลางคืนตามความถนัด

เช่นเดียวกันกับตลาดสดเทศบาลตำบลนาแก อ.นาแก จ.นครพนม ถือเป็นตลาดศูนย์กลางอาหารพื้นบ้านที่สำคัญของ จ.นครพนม ทำให้ในช่วงฤดูแล้ง บรรดาพ่อค้า-แม่ค้าต่างพากันนำอาหารป่ามาวางขาย ประกอบด้วย ไข่มดแดง แมงแคง จักจั่น ผักหวาน ถือเป็นเมนูยอดฮิตที่ชาวบ้านนิยมซื้อไปปรุงเป็นเมนูเด็ด โดยเฉพาะจักจั่น ถือเป็นเมนูอาหารป่าที่หายาก 1 ปีมีครั้งเดียว ในปีนี้มีราคาแพงตกตัวละประมาณ 2-3 บาท เนื่องจากปัญหาความแห้งแล้ง รวมถึงไฟป่า และระบบนิเวศถูกทำลาย ทำให้จักจั่นจะหายาก ส่วนวงจรชีวิตจักจั่นจะมีการวางไข่ในช่วงหน้าฝนตามต้นไม้ และมีการฟักเป็นตัวก่อนคลานลงไปอาศัยในพื้นดิน และมีการขึ้นมาลอกคราบบนต้นไม้ อาศัยอยู่ในป่า มีวงจรชีวิตประมาณ 4 เดือน ตัวผู้จะสามารถส่งเสียงร้องได้ ส่วนการล่าจักจั่น ชาวบ้านจะใช้วิธีตามล่าหาเสียงในป่า และใช้ไม้ยาวติดด้วยยางไม้ไปติดปีกจักจั่นที่ต้องใช้ความชำนาญ และอีกวิธีคือ จะใช้วิธีการนำไฟไปส่องหาในป่าช่วงกลางคืน โดยจะดูจากคราบตัวอ่อนจักจั่นตามโคนต้นไม้ และใช้ไฟส่องหา เขย่าต้นไม้ให้บินมาตอมไฟ และเก็บจักจั่นไปขาย

จากการสอบถามบรรดาพ่อค้า-แม่ค้าที่จำหน่ายอาหารป่าในตลาดสดเทศบาล ต.นาแก อ.นาแก จ.นครพนม ระบุว่า ในช่วงหน้าแล้งจักจั่นจะเป็นเมนูอาหารป่าที่ทำเงินให้กับชาวบ้านได้วันละ 3,000-5,000 บาท แล้วแต่ความชำนาญในการหา ซึ่งจะนำมาขายให้พ่อค้า-แม่ค้าในราคาประมาณตัวละ 1-2 บาท จากนั้นจะนำมาขายต่ออีกในราคาตัวละ 2-3 บาท ตามขนาด ส่วนใหญ่ลูกค้าจะนิยมซื้อตัวเมียของจักจั่นไปรับประทาน เพราะจะมีไข่ มีรสชาติอร่อยกว่าจักจั่นตัวผู้ และเป็นที่นิยม ตลาดต้องการสูง 1 ปีมีครั้งเดียว ทำให้ทุกปีชาวบ้านจะสามารถสร้างรายได้จากการล่าจักจั่นมาขายจำนวนมาก ชดเชยการทำการเกษตรได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญ จักจั่นยังเป็นเมนูเด็ดของแซ่บอีสานที่หากินยาก สามารถนำไปปรุงเป็นเมนูอาหาร ได้ทั้งคั่ว แกง ตำป่น ทอด ตามความชอบ หากนำไปปรุงเมนูขึ้นร้านอาหารจะมีราคาแพง ตกจานละ 300 -400 บาท แล้วแต่เมนู

 

ที่มา มติชนออนไลน์