ลูกชาวสวนจังหวัดปทุมธานี ปลูกกล้วยหอมทองส่งขายเซเว่น – การบินไทย ป้อนตลาดปีละ 6 พันตัน ได้ฉายากล้วยหอมร้อยล้าน

หลังประสบวิกฤตโรคระบาดในสวนส้ม ทำให้ต้องหันมาปลูกพืชผักสวนครัวและกล้วยหอมเพื่อสร้างรายได้ทดแทน ตรงนี้นับเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่ทำให้ คุณเกรียงศักดิ์ วิเลปะนะ ลูกชาวสวนพบโอกาสทองที่แฝงอยู่ในกล้วยหอม ผลไม้เศรษฐกิจที่โตก้าวกระโดด ราคาพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง แถมมีดีมานด์ทั้งตลาดในประเทศ และต่างประเทศ

ปัจจุบัน ผู้ชายคนนี้กลายเป็นเจ้าตลาดกล้วยหอม ด้วยการสร้างแบรนด์ “KING FRUITS” (คิง ฟรุทส์) มีพื้นที่ปลูก 3,000 ไร่ เกษตรกรเครือข่ายอีก 1,000 ไร่ ตั้งเป้าอีก 2 ปีจะขยายพื้นที่ปลูก 10,000 ไร่ ส่งกล้วยหอมขายแต่ละวันเกือบ 15 ตัน ตลาดหลักส่งเข้าร้านสะดวกซื้อ เซเว่นอีเลฟเว่น, ห้างสรรพสินค้า อาทิ สยามพารากอน ฟู้ดแลนด์ บิ๊กซี เทสโก้ โลตัส แม็คโคร แม็กซ์แวลู และสายการบิน เช่น การบินไทย บางกอกแอร์เวย์ รวมทั้งการบินเครือไมเนอร์ กรุ๊ป รายได้ทั้งปี 2559 ราว 200 ล้านบาท

ผลผลิตมาตรฐานส่งออก
ขายในไทย คนไทยกินของดี

คุณเกรียงศักดิ์ เรียนด้านการเกษตรที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตบางพระ อำเภอบางพระ จังหวัดชลบุรี หลังจากเรียนจบ เขาเลือกเดินตามรอยของครอบครัว ด้วยการสืบทอดมรดกสวนส้มเขียวหวาน ในฐานะรุ่นที่ 3 ณ ตำบลคลองสี่ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี แต่แล้วปี 2540 สวนส้มประสบปัญหาผลส้มร่วง อันเกิดมาจากโรคกรีนนิ่ง เลยหันมาปลูกผักสวนครัว รวมถึงกล้วยหอม เริ่มต้นส่งผลผลิตขายผ่านพ่อค้าคนกลาง เมื่อเริ่มดีขึ้นเปิดตลาดเองโดยเช่าแผงที่ตลาดไท นับจากนั้นมาก็ขยายตลาดเพิ่มอย่างต่อเนื่องจวบจนทุกวันนี้

“ครอบครัวเป็นเกษตรกรปลูกส้มเขียวหวาน 30 ไร่ที่คลองสี่ จังหวัดปทุมธานี เมื่อครั้งส้มเกิดโรคระบาด จึงหาพืชตัวอื่นมาทดแทน นั่นคือ ผักสวนครัว อาทิ มะระ บวบ แตงร้าน รวมถึงกล้วยหอมทอง ซึ่งเป็นพืชที่ได้รับความนิยมมากในยุคนั้น แรกเริ่มส่งผลผลิตผ่านพ่อค้าคนกลาง ผลปรากฏว่ารายได้กล้วยหอมแซงหน้าผักชนิดอื่นๆ หนที่สุดเลือกปลูกเฉพาะกล้วยหอม”

คุณเกรียงศักดิ์เริ่มปลูกแต่กล้วยหอม ราวปี 2548 บนพื้นที่ 30 ไร่ ซึ่งชายหนุ่ม เผยว่า ผลผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด จึงขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มขึ้นตามลำดับไปตามจังหวัดต่างๆ อาทิ อยุธยา สระบุรี นครนายก กระทั่งปัจจุบันปี 2559 มีพื้นที่ปลูกกล้วยหอมทอง 3,000 ไร่ เกษตรกรเครือข่ายอีก 1,000 ไร่ ไม่ว่าจะเป็นจันทบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี บึงกาฬ พัทลุง นครสวรรค์ กำแพงเพชร ชุมพร เป็นต้น ตั้งเป้าอีก 2 ปีจะขยายพื้นที่ปลูก 10,000 ไร่

พื้นที่ปลูกกล้วยหอมทองของคุณเกรียงศักดิ์ มีทั้งที่ดินของตัวเอง และเช่าปลูก การเช่าปลูกเขาจะทำสัญญากับเจ้าของพื้นที่ทุกๆ 3 ปี ค่าเช่า 2,000-5,000 บาท ต่อไร่ต่อปี การปลูกกล้วย ไม่ได้ปลูกทีเดียว 3,000 ไร่ ใช้วิธีปลูกหมุนเวียน ครั้งละ 300 ไร่ หรือประมาณ 100,000 ต้น ต่อครั้ง ทั้งนี้เพื่อให้ได้ผลผลิตออกสม่ำเสมอ กล้วยแต่ละรุ่น จะใช้ระยะเวลาปลูก 9 เดือน -1 ปี ตัดขายได้

“ผมรับซื้อกล้วยจากเกษตรกรเครือข่ายเป็นเครือ กล้วยทุกลูกสามารถตรวจสอบได้ว่ามาจากสวนไหน อีกทั้งยังได้รับเครื่องหมายรับรองคุณภาพ Global GAP มาตรฐานดังกล่าวรับรองคุณภาพการเพาะปลูกสินค้าเกษตร เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจว่าสินค้าอาหารที่ผลิตจากฟาร์มดังกล่าวไม่ใช้สารเคมีและไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนั้น ยังได้เครื่องหมาย NSF (เครื่องหมายมาตรฐานและใบรับรองที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพด้านสุขลักษณะ, ความปลอดภัยและคุณภาพสิ่งแวดล้อม) ตัวโรงคัดบรรจุกล้วยได้มาตรฐานตามระบบ GMP และ HACCP

ปลูกเท่าไหร่ก็ไม่พอขาย
ช่วงเทศกาล ราคาดีเท่าตัว

สำหรับต้นทุนการปลูกกล้วยหอม ชายหนุ่ม ชี้แจงว่า จะใช้ทุนราว 15,000 บาท ต่อไร่ หากปลูกแบบยกร่องจะได้ 300 ต้น ต่อไร่ ถ้าปลูกแบบพื้นราบได้ 400 ต้น ต่อไร่ ภายใน 9 เดือน ถึง 1 ปี ตัดกล้วยขายได้ผลตอบแทน 60,000-70,000 บาท ต่อไร่ ลงทุนหน่อกล้วยครั้งแรกครั้งเดียว รุ่นต่อไปใช้หน่อที่แตกขึ้นมาใหม่ ปลูกต่อได้

ด้านการรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรเครือข่าย ทาง “คิง ฟรุทส์” จะรับซื้อตามคุณภาพ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 10-20 บาท ซึ่งกล้วย 1 หวี น้ำหนักเฉลี่ย 2.5 กิโลกรัม (14-16 ลูก) กล้วยเกรด A น้ำหนักต่อลูก 180 กรัม

การปลูกกล้วยหอมทองให้ได้เกรด A คุณเกรียงศักดิ์ แนะว่า ธรรมชาติของกล้วยชอบปุ๋ย ชอบน้ำ ต้องรดน้ำทุกวัน ระวังเรื่องน้ำท่วมขัง ปลูกดินตื้นจะโตไว แต่ล้มง่ายต้องมีไม้ค้ำ เมื่อออกปลี ให้ใช้ไม้ค้ำทุกเครือ ออกปลีได้ 70-90 วันจะให้ลูก ใช้ถุงหรือกระดาษคลุมลูกเพื่อให้ผิวกล้วยสวย เมื่อตัดผลผลิต กล้วยจะมีอายุได้ราว 1 ปี ให้โค่นทิ้ง นำหน่อใหม่จากต้นเดิมลงปลูกแทน ทว่าราวเดือนเมษายน-มิถุนายนเป็นช่วงฤดูฝน มีลมพายุ ช่วงนี้กล้วยหอมมักขาดตลาด

ในส่วนช่องทางจัดจำหน่าย เกษตรกรรายนี้ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าป้อนให้กับตลาดทุกระดับ ซึ่ง 40 เปอร์เซ็นต์ส่งร้านสะดวกซื้อ เซเว่นฯ, 30 เปอร์เซ็นต์ ส่งห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่, 20 เปอร์เซ็นต์ส่งสายการบินเฟิร์สคลาส, ที่เหลือ 10 เปอร์เซ็นต์ ส่งโรงงานเบเกอรี่

“เราได้รับโอกาสจากการบินไทย ระดับชั้นโดยสารเฟิร์สคลาส ให้ส่งกล้วยหอม 4 ปีต่อเนื่อง สเปกกล้วยที่ส่ง เป็นกล้วยหอมเกรด A ผิวสวย น้ำหนักลูกละ 180 กรัม ผิวของกล้วยต้องไม่มีรอยช้ำ รสชาติต้องหวานสม่ำเสมอ ส่วนร้านสะดวกซื้อ เซเว่นฯ น้ำหนักต่อลูก 120 กรัม ส่งวันละ 70,000 ชิ้น”

สร้างโรงงานแปรรูปกล้วย
หวังเพิ่มมูลค่าช่วงราคาตก

กรณีร้านสะดวกซื้อ เซเว่นฯ มีความต้องการกล้วยหอมมากถึง 200,000 ลูก ต่อวัน ปัจจุบัน เซเว่นฯ มีกล้วยแพ็กยังไม่ตามเป้า ฉะนั้น ความต้องการกล้วยยังเปิดกว้าง ยิ่งการบริโภคกล้วย กลายเป็นเทรนด์ของคนรักสุขภาพ ส่งผลให้ผลไม้ชนิดนี้กลายเป็นพืชเศรษฐกิจที่น่าสนใจอย่างยิ่ง

คุณเกรียงศักดิ์ ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบัน กล้วยหอมราคาดีขึ้นกว่าเมื่อก่อน เนื่องจากเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ปลูกเท่าไหร่ไม่พอขายด้วยซ้ำ ยิ่งเฉพาะปีนี้ราคากล้วยหอมพุ่งขึ้นเกือบเท่าตัวเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ช่วงเทศกาลกล้วยยิ่งขายดี เช่น ตรุษจีน สารทจีน เช็งเม้ง กินเจ

ในส่วนของยอดขาย เจ้าของกิจการ เผยว่า ปี 2558 รายได้ 150 ล้านบาท ปี 2559 ราว 200 ล้านบาท ภายในปี 60 ทุ่มงบ 50 ล้านบาทสร้างโรงงานแปรรูปกล้วย หวังเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร

“สินค้าเกษตร ราคาไม่แน่นอน ควบคุมไม่ได้ บางช่วงที่ผลผลิตล้นตลาด ราคาก็ตก ฉะนั้น เลยสร้างโรงงานแปรรูปหวังเพิ่มมูลค่ากล้วยในช่วงที่ราคาตกต่ำ โดยเน้นแปรรูปทำเป็นอาหารทานเล่นและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เตรียมส่งออกไปประเทศเพื่อนบ้านแล้ว”

สิ่งสำคัญที่ทำให้ “คิง ฟรุทส์” เติบโตเป็นเบอร์ 1 กล้วยหอมทอง คุณเกรียงศักดิ์ ย้ำว่า อยู่ที่ความมุ่งมั่น ทุ่มเท เน้นทำในสิ่งที่ถนัดเพียงอย่างเดียว ทำให้ดีที่สุด เน้นความต้องการของตลาดเป็นหลัก ขณะเดียวกัน พร้อมที่จะแก้ไขและปรับปรุง เพื่อก้าวไปสู่คำว่า คุณภาพ อย่างมั่นใจ และไม่เคยท้อ