จากการแสดงพื้นถิ่น สู่ เครื่องประดับลูกปัดมโนราห์ มูลค่าสูงสุดชิ้นละหมื่น

หยิบการแสดงพื้นถิ่น ต่อยอดทำ วาโย เครื่องประดับลูกปัดมโนราห์ สร้างรายได้มูลค่าสูงสุด ชิ้นละหมื่น!

มโนราห์, มโนห์รา หรือเรียกโดยย่อได้อีกชื่อว่า โนรา เป็นชื่อศิลปะการแสดงพื้นเมืองอย่างหนึ่งของภาคใต้ โดยเฉพาะในจังหวัดพัทลุง ซึ่งการรำโนรา จะเป็นการรำเสมือนกับท่าร่ายรำของเทวดา ทั้งยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติจากยูเนสโก

โดย 1 ใน 14 ขั้นตอนการแต่งกาย จะมี เครื่องรูปปัด ซึ่งเป็นการร้อยด้วยลูกปัดสีเป็นลายมีดอกดวง ใช้สำหรับสวมลำตัวท่อนบนแทนเสื้อ ประกอบด้วยชิ้นสำคัญ 5 ชิ้น คือ บ่า (สำหรับสวมทับบนบ่าซ้าย-ขวา รวม 2 ชิ้น) ปิ้งคอ (สำหรับสวมห้อยคอหน้า-หลังคล้ายกรองคอหน้า-หลัง รวม 2 ชิ้น) พานอก (ร้อยลูกปัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ใช้พันรอบตัวตรงระดับอก บางถิ่นเรียกว่า “พานโครง” บางถิ่นเรียกว่า “รอบอก”) โดยเครื่องลูกปัดดังกล่าวนี้ มีการใช้เหมือนกันทั้งตัวยืนเครื่องและตัวนาง (รำ)

น้าดำ-อะวรรณ เต็มดี วัย 48 ปี เจ้าของแบรนด์ วาโย (WAYO) เครื่องประดับจากลูกปัดมโนราห์

เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ได้พูดคุยกับ น้าดำ-อรวรรณ เต็มดี วัย 48 ปี เจ้าของแบรนด์ วาโย (WAYO) เครื่องประดับจากลูกปัดมโนราห์ ที่หยิบเอามรดกวัฒนธรรมประจำถิ่น มาต่อยอดใหม่ให้เกิดเป็นแฟชั่นที่จับต้องได้สวยๆ

น้าดำ เล่าว่า ด้วยความที่เธอเกิด เติบโต และแต่งงานอยู่กินวนเวียนกับครอบครัวมโนราห์มาตลอดชีวิต เรียกว่ามีความเป็นมโนราห์อยู่ในสายเลือดอย่างเต็มเปี่ยม แต่เนื่องด้วยอายุที่มากขึ้น ทำให้การเข้าไปแสดงรำมโนราห์ได้น้อยลง

น้าดำเลยคิดว่า จะต่อยอดหรือทำยังไงให้ตัวเองอยู่กับ มโนราห์ ไปได้เรื่อยๆ จึงมองหาไอเดียรอบๆ ตัวก็เจอเข้ากับ เครื่องรูปมโนราห์ หรือ ลูกปัดมโนราห์ หนึ่งในเครื่องแต่งกายของเครื่องแบบการแสดงรำมโนราห์นี่แหละ จึงหยิบมาเป็นไอเดียต่อยอดทำเป็นสินค้าแฟชั่นเสียเลย

“พอเราหยิบเอาลูกปัดโนรามาร้อย เราก็ได้ต่อยอดความเป็นมโนราห์ให้รุ่นลูกรุ่นหลานสามารถได้เรียนต่อหรือเรียนรู้จากเราได้ แล้วพอมาอยู่เป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ มันยิ่งทำให้เราได้เป็นที่เผยแพร่วัฒนธรรมเก่าแก่ของเราให้กับรุ่นลูกรุ่นหลานให้ช่วยกันรักษาเอาไว้ไม่ให้สูญหาย นอกจากนั้น น้าดำก็มีเวลา มีโอกาสได้เป็นวิทยากรไปสอนคนในแถวบ้าน ให้เขาสามารถนำความเป็นโนราของเรามาต่อยอดได้เหมือนน้าดำด้วย ก็ถือเป็นกระจายรายได้ให้ชุมชนด้วยอย่างหนึ่งค่ะ ปัจจุบันก็ 6 ปีได้แล้วค่ะที่ทำมา” น้าดำ ว่าอย่างนั้น

โดยสินค้าที่ทำออกมา ส่วนใหญ่เป็นพวกเครื่องประดับทั่วไปอย่าง พวงกุญแจ ต่างหู เครื่องประดับชิ้นเล็กๆแบบอื่นๆ รวมถึง สายคล้องแมสก์

“สินค้าเราต่างจากการร้อยลูกปัดธรรมดายังไง พูดถึงสีมันก็คล้ายกันนะคะ แต่ลูกปัดมโนราห์เนี่ย มันจะมีสีแท้ๆ แล้ว มันจะมี 9 สี แต่ว่ามันจะมีเพิ่มเติมมาเป็นสีม่วง สีอย่างฟ้าใส สีใสๆ แบบนี้ เข้ามาช่วยเติมเพื่อเป็นสีสัน บางคนก็ชอบสีวาวๆ ฉ่ำๆ แต่ว่าโดยสีมโนราห์แล้วมันจะเป็นพวก สีขาว สีฟ้า สีน้ำเงิน สีเขียว อะไรแบบนี้แต่ว่าอันนี้เรามายกระดับอีกเฉดสีหนึ่ง เพื่อให้ตอบโจทย์คนที่ชอบสีพาสเทลหรืออะไรที่ดูทันสมัยมากขึ้นอะไรอย่างนี้ค่ะ แต่ก็ยังคงมีสีคลาสสิคอยู่ ก็คือเป็นแพลตเทิร์นบนชุดมโนราห์ที่เอามาทำเครื่องประดับ นอกจากนั้นก็ทำเป็นชิ้นเล็กๆ เพราะจังหวัดพัทลุง มันจะมีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะเหมือนกันนะ ซื้อไปเป็นของฝากของที่ระลึกกัน” น้าดำ ว่า

นอกจากนั้น น้าดำ ยังเล่าต่อว่า มีแพลนจะทำเป็นของใช้ด้วยเหมือนกัน แต่ว่ายังหาตลาดไม่ได้ จึงอาศัยทำตามที่ลูกค้าสั่งมากกว่า จะไม่ทำสต๊อกไว้แล้วมาวางขาย

“ช่วงนี้ก็จะมีพัฒนาไปทำชุดแฟชั่น ยกตัวอย่าง ทางเหนือเขาจะสั่งลูกปัดมโนราห์ของเราไปแมตช์กับสินค้าของเขา น้าดำก็เลยมีความคิดว่า ในเมื่อเขาต่อยอดจากเราแล้ว เราก็ต่อยอดจากเขาด้วยสิ ด้วยการที่ซื้อผลิตภัณฑ์จากเหนือมาเติมประยุกต์ให้เข้ากับสินค้าลูกปัดโนราของเรา ตรงนี้เท่ากับเราต่างคนต่างคอยช่วยต่อยอดกัน แต่มันก็เป็นอะไรที่เฉพาะกลุ่มนั่นแหละ อีกอย่างหนึ่ง ถ้าเป็นงานสินค้าแบบนี้ มันก็เป็นงานโชว์เสียส่วนใหญ่ วัตถุดิบเราสั่งจากกรุงเทพฯ ค่ะ แต่ลูกปัดบางร้านบางเจ้าสีมันจะตก สีมันจะลอก แต่ของน้าดำสีมันจะไม่ลอก เพราะน้าดำจะมีร้านที่สั่งอยู่ประจำ ที่มีการรับประกันเรื่องคุณภาพ ราคาจะสูงหน่อยแต่ว่าสีไม่ลอกไม่ตกแน่ ลูกค้าซื้อจากเราไปเขาก็ไม่ผิดหวัง”

“สินค้าของเราเริ่มจากหลักสิบ หลักร้อย หลักพัน แล้วก็มาเป็นหลักหมื่นก็มีค่ะ เป็นสินค้าแฟชั่นชุดลูกปัดทั้งชุด สำหรับสวมใส่ ซึ่งงานแต่ละงานใช้เวลาพอสมควรเลยค่ะ ถ้าเป็นระยะเวลาสั้นๆ แบบทำวันเดียวเสร็จ ก็จะเป็นพวงกุญแจ ส่วนงานที่ใช้เวลาทำนานที่สุดเป็นชุดเครื่องบัว จะใช้เวลานานเพราะว่ามันไม่มีรอยต่อเชือกเลย ทำแบบเส้นต่อเส้นไปเรื่อยๆ มันจะมีจุดจบตรงนี้ มันจะมีลวดลายในการต่อที่จะยากหน่อย ข้อเสียของกลุ่มเราก็คือ สมาชิก 20 คนไม่ได้ทำเป็นกันทุกคนในกลุ่ม บางครั้งน้าดำต้องเป็นคนเริ่มทำแบบให้ แล้วให้สมาชิกมาทำต่อ ก็เลยจะใช้เวลาพอสมควร” น้าดำ เล่า

ถามถึงรายได้จากการต่อยอดลูกปัดมโนราห์ น้าดำ กล่าวว่า หากเป็นเมื่อก่อน รายได้ก็ไม่ได้เยอะนัก ใน 2-3 ปีแรกที่ทำแบรนด์ เพราะน้าดำจะทำสินค้าเฉพาะกลุ่ม อย่าง ชุดมโนราห์ก็ทำชุดมโนราห์อย่างเดียว แต่มาช่วง 3 ปีหลัง ได้ต่อยอดมาทำสายคล้องแมสก์ เพราะช่วงโควิด สายคล้องแมสก์เป็นสินค้าที่ขายดีมาก

สุดท้ายนี้ น้าดำ บอกว่า ในอนาคตทางแบรนด์มีแผนต่อยอดธุรกิจไปตีตลาดชาวต่างชาติมากขึ้น เพื่อส่งต่อวัฒนธรรมมโนราห์ในรูปแบบของสินค้าเครื่องประดับสู่สายตาต่างชาติ พร้อมกับส่งเสริมให้วิสาหกิจชุมชนและชาวบ้านจังหวัดพัทลุง ให้อนุรักษณ์และทำเป็นอาชีพเพื่อสร้างรายได้ได้

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก โนราวาโย