อดีตวิศวกร ผันตัวทำฟาร์มเห็ด ต่อยอดผลิต สแน็กเห็ด หักทุนแล้ว กำไรหลักแสน

จากอดีตวิศวกร ผันตัวมาทำฟาร์มเห็ด ก่อนจะแตกไลน์มาเป็นโรงงานเห็ดแปรรูป สร้างแบรนด์ สแน็กเห็ด The Mushroom House วางขายบนห้างสรรพสินค้าชั้นนำ เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่รักสุขภาพ สร้างรายได้กว่าหลักล้านบาท หักทุนหักอะไรแล้วกำไรเหลือๆ กว่าหลักแสน

ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง สำหรับ คุณวรเศรษฐ์ เกิดทะเลไพศาลกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปักธงชัยฟู้ดโพรเซส จำกัด เจ้าของฟาร์มเห็ดผลิตภัณฑ์แปรรูปเห็ด ภายใต้แบรนด์ The Mushroom House และผลิตภัณฑ์แปรรูปสมุนไพร เขาเล่าให้ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ฟังว่า หลังจากที่ตนเองและภรรยาได้ลาออกจากการทำงานประจำ ซึ่งเดิมตนเองเป็นวิศวกร และภรรยาทำงานด้านบริหาร บริษัทแห่งหนึ่ง

“ตอนลาออกจากงานมาก็มาทำฟาร์มเพาะเห็ด บนพื้นที่ 2 ไร่ อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา เพราะตอนนั้นเห็นว่า ตลาดเห็ดบ้านเรา คนมีความต้องการสูง ทั้งยังมีเทรนด์สุขภาพที่คนรุ่นใหม่หันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น เลยเลือกมาทำฟาร์มเห็ด โดยเห็ดที่เพาะที่ฟาร์ม ประกอบไปด้วยเห็ดนางฟ้าภูฏาน เห็ดนางรมฮังการี และเห็ดโคนญี่ปุ่น ผลผลิตที่ได้นำมาขายตามตลาดสด แต่ตอนหลังมีคนเพาะเห็ดมากขึ้น ทำให้ผลผลิตล้นตลาด ราคาตก ทำให้ต้องหาวิธีการแปรรูป โดยได้ไปอบรมการแปรรูปเห็ดจากหน่วยงานที่เข้ามาส่งเสริม”

“หลังจากนั้นก็มาทำการแปรรูปเห็ดในฟาร์มออกมาในรูปแบบของสแน็กพร้อมรับประทาน อย่าง แหนมเห็ด ข้าวเกรียบเห็ด เห็ดปรุงรสสมุนไพร และเห็ดกรอบรสชาติต่างๆ มาบรรจุในซองสุญญากาศ นำมาขายในรูปแบบของสแน็ก ภายใต้แบรนด์ The Mushroom House จากเห็ดที่ขายราคากิโลกรัมละประมาณ 60-70 บาท ก็เพิ่มมูลค่ามาได้ 2-3 เท่าตัว”

เจ้าของ The Mushroom House ยังเล่าต่อว่า สินค้ามีการนำส่งขายให้กับโมเดิร์นเทรด เช่น ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต และห้างสรรพสินค้าในเครือเดอะมอลล์ ซึ่งเห็ดที่ได้รับความนิยมมี 2 ตัวคือ เห็ดนางฟ้าปรุงรสสมุนไพร และ เห็ดฮังการี รสบาร์บีคิว

ปัจจุบันโรงงานทำการแปรรูปเห็ด ทั้ง 3 ชนิด โดยใช้เห็ดนางฟ้าภูฏาน และเห็ดนางรมฮังการี ถึงปีละ 40-50 ตัน ส่วนของเห็ดโคนญี่ปุ่น ปีหนึ่งใช้ประมาณ 20 ตัน ซึ่งนอกจากใช้เห็ดในฟาร์มของตนเอง แล้วยังใช้เห็ดในฟาร์มที่เป็นเครือข่ายในพื้นที่ใกล้เคียง จำนวน 20 ราย ในจังหวัดบุรีรัมย์ และชัยภูมิ

“ในส่วนของลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์แปรรูปเห็ด หรือ สแน็กเห็ด ของเราจะเป็นกลุ่มวัยรุ่น วัยทำงาน และผู้สูงอายุ บางคนนำไปกินเป็นสแน็ก ในขณะที่บางคนก็ซื้อไปกินกับข้าวต้ม ฯลฯ ราคาขายอยู่ที่ซองละ 30 บาท ในช่วง 3 ปีที่ทำการแปรรูปเห็ดออกมาขาย ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นทุกปี เฉลี่ยปีละ 10-20% สร้างรายได้ต่อเดือนประมาณ 3-4 ล้านบาท หักทุนแล้วกำไรเฉลี่ยหลักแสนบาท ก็ถือว่าเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ดีอาชีพหนึ่ง คู่แข่งที่ทำคล้ายๆ กันตอนนี้ที่เห็นก็มีเพียงแค่ 2 แบรนด์ ถือว่าการแข่งขันไม่ได้สูงมากนัก” คุณวรเศรษฐ์ กล่าว

นอกจากผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเห็ดแล้ว บริษัท ปักธงชัยฟู้ดโพรเซสฯ ยังได้มีการแปรรูปสมุนไพรอบแห้ง เนื่องมาจากในช่วงโควิด คนไทยและคนทั่วโลกหันมาใส่ใจกับเรื่องของสุขภาพมากขึ้น ก็เลยได้ทำ สมุนไพรอบแห้งขึ้นมา

โดยได้นำผลผลิตจากเกษตรกรในพื้นที่เครือข่ายมาแปรรูป ส่งขายให้กับบริษัท และโรงงานที่นำไปเป็นส่วนผสมในการผลิตเครื่องเทศ สมุนไพรอบแห้งที่ทำขายประกอบด้วย ตะไคร้ กระชาย กระเทียม มะเขือเทศ รากผักชี ฯลฯ ส่งโรงงานผลิตเครื่องเทศเพียงอย่างเดียว ไม่ได้มีการนำมาจำหน่ายปลีก

“ในอนาคตมีแผนที่จะส่งสแน็กเห็ดออกไปขายในประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มมุสลิม เช่น มาเลเซีย และบูรไน ที่เลือกขายในประเทศกลุ่มมุสลิม เพราะในสมัยเคยทำงานเกี่ยวกับต่างประเทศ ทราบมาว่าคนมุสลิม นิยมบริโภคเห็ด และสินค้าของเรามีเครื่องหมายฮาลาลด้วย” คุณวรเศรษฐ์ ว่าอย่างนั้น

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก : ฟาร์มเห็ดและแปรรูปเห็ด ณ ปักธงชัยฟาร์ม และ โทร. (089) 897-4700