เปิดไอเดียต่อยอด สร้างโอกาสธุรกิจ มัดใจนักท่องเที่ยว รับเทรนด์เที่ยวบูม

เปิดไอเดียต่อยอด สร้างโอกาสธุรกิจ มัดใจนักท่องเที่ยว รับเทรนด์เที่ยวบูม

ด้วยอานิสงส์จากการท่องเที่ยวฟื้นตัว และกลับมาคึกคักในช่วงเวลานี้ รวมถึงเทรนด์จากสื่อละครของบ้านเรา ที่มีอิทธิพลทำให้ นักท่องเที่ยว ต่างโหยหาการพักผ่อนจากการเดินทางเพื่อเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ และตามรอยอาหารชื่อดังที่มีชื่อเสียง

จึงนับเป็นโอกาสอันดีที่ SMEs หรือผู้ประกอบการรายใหม่หลายๆ ท่าน จะหันมาลงเล่นในธุรกิจสินค้าและบริการในกลุ่ม 5F ซึ่งได้แก่ Food, Festival, Film, Fight และ Fashion เว็บไซต์ Bangkok Bank SME เผย 4 ไอเดียธุรกิจ ที่อาจช่วยให้เหล่าพ่อค้าแม่ค้านำไปต่อยอด พัฒนาสินค้าและบริการให้โดนใจนักท่องเที่ยวรับเทรนด์ท่องเที่ยวบูมในปีนี้ มาแนะนำ ดังนี้

1. ธุรกิจอาหาร และเครื่องดื่ม

พูดถึง อาหารไทย ใครๆ ก็ยอมรับว่าขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยจนมีหลายเมนูที่โด่งดัง และเป็นที่รู้จักทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย นับเป็นหนึ่งในเป้าหมายของการเดินทางมาเยือนไทยของชาวต่างชาติ ไม่เว้นแม้แต่คนไทยด้วยกันเอง ที่ชอบแสวงหาร้านเด็ด ร้านดัง มา Up ภาพอวดกันจนติดเทรนด์บนโซเชียลมีเดียให้เห็นกันอยู่ทุกวัน โดยเฉพาะอาหารประจำถิ่น ที่หารับประทานได้ยาก ยิ่งดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

จะเห็นว่า ผู้ประกอบการ SMEs ในบ้านเรา มีข้อได้เปรียบในเรื่องของวัตถุดิบอาหารไทยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพียงแค่ต้องคิดค้น หาวิธีพัฒนาสูตร รสชาติ และรังสรรค์หน้าตาอาหาร ให้ออกมาโดดเด่นไม่ซ้ำใคร ผสมผสานเอกลักษณ์ความเป็นไทย ซึ่งเป็นจุดขายหลัก ที่สำคัญ ต้องคำนึงถึงเรื่องความสะอาด ถูกสุขอนามัยด้วย

ด้วยความนิยมของธุรกิจอาหาร และเครื่องดื่มที่ผู้ประกอบการหลายคน เลือกทำเป็นอาชีพสร้างรายได้ ซึ่งนั่นย่อมหมายถึงคู่แข่งที่มากเช่นกัน สิ่งที่จะทำให้ธุรกิจไปรอด นอกจากความสะอาดและรสชาติอร่อย คือ ต้องมีกลยุทธ์ที่ดี

อย่างกลยุทธ์ “การตลาดแบบน่ารัก” หรือ Cute Marketing ซึ่งเป็นคำนิยามจากงานวิจัย ‘HULIQ’ (https://huliq.com) ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายด้วย Soft Power อีกรูปแบบหนึ่ง โดยใช้ความน่ารักเป็นจุดขาย ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ สีสันของตัวสินค้า หรือ แพ็กเกจจิ้ง เพื่อกระตุ้นภาพจำทางการตลาดของแบรนด์หรือสินค้าของเราได้

ภาพลักษณ์ของสินค้าที่ดูน่ารัก จะช่วยเพิ่มโอกาสการแชร์ต่อ บอกต่อกันบนโลกโซเชียล จนสินค้าของคุณติดเทรนด์ได้ง่ายๆ

นอกจากความน่ารักแล้ว การออกแบบแพ็กเกจจิ้ง ให้สวยงามแปลกตา พร้อมคุณสมบัติ ‘รักษ์โลก’ ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม นับเป็นอีกหนึ่งจุดขายให้แบรนด์ของคุณได้เช่นกัน อาทิ การใช้ภาชนะจากวัสดุธรรมชาติทดแทนพลาสติก อย่าง ภาชนะใบไม้ ภาชนะที่ทำจากเยื่อของพืช หรือภาชนะกาบหมาก เป็นต้น

2. เปลี่ยน ‘โอท็อป’ เป็น ‘ท็อปแบรนด์’

ผลผลิตจากชุมชนใกล้ตัว สามารถพัฒนาเป็นแบรนด์ระดับท็อปได้เช่นกัน หากคุณเข้าใจถึงจุดแข็ง และจุดอ่อนของผลิตภัณฑ์นั้นๆ ก็สามารถเพิ่มมูลค่าได้ไม่ยาก เช่น การใช้กลยุทธ์ Storytelling หยิบยกเรื่องราวที่น่าสนใจ หรือเรื่องราว Unseen ของวัตถุดิบ กว่าจะมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่สมบูรณ์แบบ มาเผยแพร่ให้ผู้คนได้รับรู้ ผ่านช่องทางการสื่อสารบนโซเชียลมีเดีย หรืออาศัยไอเดียความคิดสร้างสรรค์ออกแบบผลิตภัณฑ์ และแพ็กเกจจิ้งให้สามารถบอกเล่าเรื่องราวได้ในตัวเมื่อพบเห็น

รูปจาก เว็บไซต์ ธนาคารกรุงเทพ

เมื่อเรามีสินค้าคุณภาพ พร้อม Story ที่ไม่เหมือนใครแล้ว การเลือกช่องทางการจัดจำหน่ายให้เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ก็เป็นอีกหนึ่งหนทางที่จะยกระดับสินค้าโอท็อปให้เป็นท็อปแบรนด์ได้ เช่น หากสินค้าของคุณอยู่ในกลุ่มขนมขบเคี้ยว อย่าง ผลไม้อบแห้ง คุกกี้ผลไม้ ฯลฯ อาจนำไปฝากขายตามคาเฟ่ที่ Mood & Tone ส่งเสริมกับสินค้านั้นๆ เพื่อเป็นการปูทางสร้างการรับรู้ และเสริมภาพลักษณ์แบรนด์ ก่อนจะขยับขยายเข้าสู่โมเดิร์นเทรดในอนาคต

ขณะเดียวกัน ก็ต้องไม่ลืมการสร้างตัวตนของแบรนด์ และหมั่น Update เรื่องราวสินค้าโดยใส่ Storytelling บนสื่อโซเชียลมีเดียควบคู่กันไปด้วยอย่างสม่ำเสมอ เช่น การสร้างเพจ สร้างคอนเทนต์ บน Facebook, Instagram และ TikTok ที่คอยแนะนำเรื่องเล่า พร้อมโพสต์ภาพสินค้าที่เกี่ยวข้อง มีความเป็นมาเป็นไปและประโยชน์จากเรื่องที่เล่าสู่แฟนเพจ ภาพถ่ายหรือโพสต์วิดีโอแบบ Real Time เพื่อตอกย้ำภาพจำให้แบรนด์ของคุณ เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งที่มีความคุ้นเคยกับผู้บริโภค เพื่อสร้างฐานลูกค้าประจำให้คอยติดตามอย่างต่อเนื่อง เป็นต้น

รูปจาก เว็บไซต์ ธนาคารกรุงเทพ

3. ธุรกิจจัดงานอีเวนต์ ในธีมชนบท

ในช่วงที่หลายประเทศเริ่มเปิดประเทศ และเปิดรับนักท่องเที่ยวมากขึ้น ประเทศไทยเองก็ได้รับการตอบรับจากกระแสการเดินทางท่องเที่ยวครั้งนี้เช่นกัน แน่นอนว่า อีกหนึ่งธุรกิจที่ได้รับอานิสงส์จากการท่องเที่ยวบูม คือธุรกิจรับจัดงานอีเวนต์ ที่มีแนวโน้มกลับมาคึกคักอีกครั้ง ซึ่งธุรกิจอีเวนต์ จะนำเสนอรูปแบบงานอย่างไรให้ถูกตาต้องใจลูกค้า? เรามีคำตอบ…

Bangkok Bank SME ขอเสนอไอเดียการจัดงานสไตล์ “Rustic Event” ซึ่งเป็นสไตล์ชนบทของประเทศฝั่งตะวันตก มีกลิ่นอายของความอบอุ่น สบายๆ เรียบง่าย ใกล้ชิดธรรมชาติ เน้นเฟอร์นิเจอร์ไม้ หรือของตกแต่งที่ทำจากไม้ ลายไม้ ดอกไม้ ใบไม้ เป็นต้น

รูปจาก เว็บไซต์ ธนาคารกรุงเทพ

โดยส่วนใหญ่ รูปแบบงานจะคุมธีมสีเอิร์ธโทน อาจจัดในคอนเซ็ปต์ที่จำลองเอาโรงนา หมู่บ้านเล็กๆ ในชนบท มาไว้กลางเมืองใหญ่ ที่ผู้คนโหยหาธรรมชาติ หรือในเมืองรอง และสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่มีวิวทิวทัศน์กลมกลืนไปกับการจัดงานสไตล์ Rustic Event อาทิ การจัดงานบนชายหาดริมทะเล ทุ่งหญ้าบนที่ราบริมเขื่อน หรือท่ามกลางธรรมชาติของป่าเขา เป็นต้น ซึ่งธีม Rustic Event สามารถเข้ากับอีเวนต์หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น งานเลี้ยงสังสรรค์ มินิคอนเสิร์ต งานแต่งงาน ไปจนถึงงานแฟร์ต่างๆ

SMEs ที่ทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการรับจัดงาน อย่าลืมใช้โอกาสนี้ สร้างรายได้ให้เติบโต เช่น คุณอาจจะจัดเป็นแพ็กเกจแบบต่างๆ ให้ลูกค้าที่มองหาบริการรับจัดงานแบบสร้างสรรค์ ใส่ความครีเอต และครบ จบในที่เดียว ได้เลือกใช้หลากหลายรูปแบบ มีเพิ่มบริการเสริม เช่น ให้เช่าชุดในคอนเซ็ปต์เดียวกับงาน, บริการจุดถ่ายภาพเช็กอิน หรือของแจกในงานตามธีมงาน เป็นกิมมิกที่สร้างความประทับใจให้ผู้ที่มาร่วมงานได้แบบไม่ซ้ำใคร

4. สตาร์ตอัปเทคโนโลยีสายท่องเที่ยว

ข้อมูลจาก ททท. เผยว่า ในปัจจุบัน ผู้ประกอบการหลายราย นิยมนำเทคโนโลยีใหม่ๆ และช่องทางออนไลน์มาเป็นส่วนหนึ่งของการทำตลาดถึงกว่า 80% ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณา หรือการซื้อสินค้าและบริการออนไลน์

จึงเป็นอีกหนึ่งโอกาส ในการแจ้งเกิดสตาร์ตอัปรุ่นใหม่ที่มีใจรักเรื่องเทคโนโลยี และการท่องเที่ยว ให้นำทั้ง 2 สิ่งนี้ มาปรับใช้ให้เกิดเป็นธุรกิจใหม่ๆ ที่น่าสนใจ เช่น การให้บริการจองร้านอาหาร-ที่พัก-ยานพาหนะ บริการการขนส่งและนำเที่ยว บริการไกด์ส่วนตัว-ไกด์ท้องถิ่น บริการจองสิ่งอำนวยความสะดวก หรือบริการเสริมอื่นๆ อาทิ การจองคิวนวดสปา จองเรือคายัค จองเซิร์ฟบอร์ด จองจักรยาน จองคิวเวิร์กช็อปต่างๆ เป็นต้น

รูปจาก เว็บไซต์ ธนาคารกรุงเทพ

นอกจากไอเดียธุรกิจ ที่เราได้นำเสนอทั้ง 4 ธุรกิจเหล่านี้แล้ว ยังมีสินค้าและบริการอีกมากมายที่ได้รับอานิสงส์จากการท่องเที่ยวฟื้นตัว และกลับมาคึกคักในช่วงเวลานี้ รวมถึงยังเป็นเทรนด์ที่น่าจับตาระยะยาว เนื่องจากนักท่องเที่ยว ต่างโหยหาการพักผ่อนจากการเดินทางเพื่อเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ และตามรอยอาหารชื่อดังที่มีชื่อเสียงหลังจากหยุดชะงักมาหลายปี