เกษตรวัดเพลง ชวนชาวสวนแปรรูปผลผลิต แก้พริกล้นตลาด

วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2560 พื้นที่อำเภอวัดเพลง จ.ราชบุรี เป็นพื้นที่หลักของการปลูกมะพร้าวน้ำหอม ข้าว และผักบุ้ง โดยเฉพาะพริกซึ่งเป็นผักที่เกษตรกรให้ความสนใจ และนิยมปลูกกันเป็นจำนวนมากส่งผลให้ปัจจุบันราคาพริกบางชนิด ขณะนี้เกิดปัญหาราคาตกต่ำลง  ทางเกษตรอำเภอจึงเตรียมหาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรในการนำพริกมาแปรรูป เพิ่มมูลค่าสินค้าเพื่อให้เกษตรกรมีรายได้ไม่ลำบาก

นายสนอง ทองจาด ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8  ต.จอมประทัด อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี เปิดเผยว่า ที่บ้านปลูกพริกประมาณ 4 ไร่ ร่วมกับบวบงู  ใช้เวลาปลูกจนถึงเก็บผลผลิตประมาณ 3 เดือน โดยราคาพริกจะขึ้นลงอยู่กับท้องตลาดว่ามีการปลูกมากหรือน้อย   เช่น พริกกระเหรี่ยงใช้เวลาตั้งแต่เริ่มปลูกจนถึงเก็บผลผลิตได้ประมาณ 4 เดือน ขณะนี้ขายอยู่กิโลกรัมละ 65 บาท  เก็บต่อครั้งห่างกันประมาณ 10 วัน  ได้ผลผลิตประมาณ 200-300 กิโลกรัม และจ้างคนเก็บอีกกิโลกรัมละ 13 บาท จะได้เงินค่าขายพริกกะเหรี่ยงต่อครั้งประมาณ 20,000 บาท   ขณะที่พริกกระเหรี่ยงหากราคาจะอยู่ประมาณ 65 บาท สามารถเก็บผลผลิตได้นานประมาณ 2 เดือน  หักค่าปุ๋ย ค่ายาต่างๆแล้ว จะเหลือเงินจากการปลูกพริกประมาณ 30,000 บาท  ขณะที่เพื่อนเกษตรกรบางคนปลูกพริกพันธุ์ยอดสนหรือพันธุ์คลองท่อ ซึ่งขณะนี้ราคาต่ำลดลงเหลือ กิโลกรัมละ 25 บาท จากปกติกิโลกรัมละ  40-50 บาท ทำให้มีปัญหาพริกล้นตลาด

ด้านนายโชคดี ตั้งตรงจิต รักษาราชการแทนเกษตรอำเภอวัดเพลง กล่าวถึงแนวทางแก้ไขปัญหาว่า  ได้มองเรื่องความยั่งยืนของเกษตรกร เห็นว่าอาชีพของเกษตรกรของชาววัดเพลงที่ปลูกพริกมานานแล้ว จำเป็นจะต้องส่งเสริมให้รวมกลุ่มมาเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชน และส่งเสริมการผลิตที่ได้มาตรฐานและความปลอดภัย  รวมทั้งให้ความรู้เรื่องมาตรฐานด้าน GAP การมีปัญหาด้านราคา บางครั้งผลผลิตล้นตลาด จึงได้จัดทำโครงการทำพริกแห้งอนามัย โดยร่วมกับอาจารย์ภาควิชามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน กรุงเทพฯ มาถ่ายทอดความรู้ให้แก่เกษตรกรไปแล้วหนึ่งครั้ง  และได้นำตัวแทนเกษตรกรไปอบรมการแปรรูปที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พร้อมร่วมกันฝึกปฏิบัติจริง โดยเกษตรกรนำพริกยอดสนไปคนละ 1 กิโลกรัมเพื่อให้คณะอาจารย์สาธิตการแปรรูปต่างๆ ในการนำความรู้กลับมาแปรรูปเองในอนาคตอันใกล้นี้ที่จะมีการรวมกลุ่มกันผลิตขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาราคาพริกตกต่ำในเวลาล้นตลาด  อีกส่วนที่สำนักงานเกษตร จะทำต่อคือการทำคอนแทร็คฟาร์มมิ่ง หรือการซื้อขายโดยมีสัญญาข้อตกลงล่วงหน้าในบางส่วน ซึ่งจะให้บริษัทที่รับซื้อขายโดยตรงมาตกลงกับภาคเกษตรกรพร้อมเสนอราคาที่เกษตรกรจะสามารถอยู่ได้ที่ราคาเท่าไหร่  มีการทำสัญญาในการแปรรูปเป็นพริกในรูปแบบต่างๆ

ส่วนสถานการณ์พริกนั้น ขณะนี้หากเป็นพริกขี้นก และ พริกยอดสนจะมีราคาถูกเหลือประมาณกิโลกรัมละ 20-25 บาท  แต่หากเป็นพริกกะเหรี่ยงตอนนี้ยังมีราคาดีอยู่ที่กิโลกรัมละ 60-65 บาท  จึงจะต้องสิ่งเสริมการแปรรูปออกมาให้ได้ ส่วนการแก้ไขปัญหาพริกที่เป็นโรคนั้น  จะเน้นให้เกษตรกรได้มีการป้องกันก่อนตั้งแต่การนำเมล็ดพันธุ์ที่ปลอดจากต้นที่เป็นโรคมาทำพันธุ์ รวมถึงการดูแลรักษาแปลง การเตรียมดิน การปลูกที่ไม่แน่นจนเกินไป ซึ่งจะเป็นปัญหาต่อการหลบซ่อนของศัตรูได้ง่าย การใช้สารชีวภัณฑ์ที่ใช้ควบคุมจะใช้หลายวิธีแบบผสมผสาน โดยขั้นสุดท้ายคือการใช้สารเคมีต่างๆ ในการกำจัด

สำหรับความนิยมการปลูกพริกในพื้นที่อำเภอวัดเพลงจะนิยมปลูกพริกพันธุ์คลองท่อหรือพันธุ์ยอดสน ซึ่งมีลักษณะเด่นกว่าพริกทั่วไปคือจะมีเม็ดที่มีรูปทรงสวยตรงเรียวยาว เวลานำไปโขลกน้ำพริก นำไปแปรรูปต่างๆจะไม่มีกลิ่นเหม็นเขียวเหมือนพริกทั่วไป และมีความเผ็ดไม่มาก  สมัยก่อนเกษตรกรจะส่งไปขายกรุงเทพฯ เช่น ตลาดไท ตลาดสี่มุมเมือง  แต่ขณะนี้มีการนำไปขายที่ตลาดศรีเมืองมากกว่า โดยแม่ค้าจะให้ความสนใจและถามเกษตรกรว่าพริกมาจากไหน  ซึ่งหากเป็นพริกพันธุ์ยอดสนจากอำเภอวัดเพลงก็จะได้ราคาดีกว่าพริกทั่วไปจึงเป็นที่นิยมปลูกของเกษตรกรและประชาชนจะซื้อไปบริโภค

 

ที่มา มติชนออนไลน์