ผู้เขียน | กรรณิกา เพชรแก้ว |
---|---|
เผยแพร่ |
เรื่องโดย : กรรณิกา เพชรแก้ว
นฤพล บัวจีน เป็นหนุ่มเชียงใหม่ อายุอานามยังไม่มาก ครอบครัวทำธุรกิจเกี่ยวกับผ้าพื้นเมืองมานานกว่า 10 ปี แต่เจ้าตัวเพิ่งเข้ามาร่วมด้วยช่วยกันกับพี่สาวเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยมีหน้าที่ออกแบบตามใจรัก
พี่สาวของนฤพลทำธุรกิจรับทำกระเป๋าที่มีส่วนประกอบเป็นผ้าปักชาวเขา ไม่ได้มีหน้าร้านของตัวเอง ทำอยู่กับบ้าน แต่ก็เป็นธุรกิจที่ดีมานาน กระทั่งน้องชายมาช่วยทำ และเอาการออกแบบมาใช้อย่างเป็นหลักเป็นฐาน กระเป๋าที่ประดับด้วยผ้าปักชาวเขา ก็เริ่มมีหน้าตาแปลกๆ เก๋ๆ ออกมาแต่ละแบบมีใบเดียว เรียกว่าเป็นกระเป๋าใบเดียวในโลก
นฤพล บัวจีน
เพราะนฤพลจะออกแบบกระเป๋าจากผ้าปักแต่ละผืนที่ได้มา ประกอบเข้ากับหนังแท้ และของประดับประดาสอดคล้องกับเนื้อผ้าลายผ้า ไม่ใช่เอาผ้ามาแปะอย่างใครอื่น
เรียกว่าพอเห็นผ้าแล้วเจ้าตัวถึงมานั่งคิดๆๆ ว่าจะให้กระเป๋าออกมาหน้าตาแบบใด ใบขนาดไหน จะใช้หนังหรือวัสดุอื่นประกอบอย่างใด คือเอาผ้าเป็นนางเอก อย่างอื่นอันได้แก่ หนังแท้ หรือลูกปัดสวยๆ นั้นเป็นส่วนประกอบ
“ผมไม่เปลี่ยนแปลงสภาพของผ้าเลย ผืนแค่ไหนก็แค่นั้น ไม่พยายามตัด เพราะเขาทำมาสวยมากแล้ว ภูมิปัญญาในการวางสี ลวดลายนั้นสุดยอดแล้ว เราไม่ควรทำให้ของเขาเสียคุณค่า ควรเคารพในฝีมือของเขา เพราะคนสมัยก่อนเขาทำผ้าด้วยใจ ทำเพื่อใช้ในเทศกาลต่างๆ หรือไปงานบุญงานมงคล เขาไม่ได้ทำเพื่อขาย เพราะฉะนั้น เขาจะตั้งใจทำอย่างประณีตเกินกว่าเราจะไปทำลาย” ดังนั้น ใครมาขอให้นฤพลทำกระเป๋าใบเล็กกว่าผืนผ้า หรือให้ตัดให้เล็มผ้าออกเสียบ้าง เขาไม่ยอม
ก่อนจะมาช่วยงานกับพี่สาว เจ้าตัวไม่เคยรู้จักผ้า แต่เมื่อมาทำงานและรับหน้าที่ออกแบบ ซึ่งมีหน้าที่ต้องนำผ้าพื้นเมืองที่รับซื้อมาจากชาวเขา มาปรับใช้เป็นกระเป๋า ก็เริ่มเรียนรู้เรื่องผ้า แม้ไม่ได้มีพื้นฐานด้านศิลปะ แต่ใจรัก และสนุกกับการคิด หลังจากเริ่มทำงานไปได้สักพักก็ออกแสวงหาความรู้เพิ่มเติม ทั้งจากคนในวงการค้าขายด้วยกัน วงการออกแบบ ไปจนถึงครูบาอาจารย์ทั้งไทยและเทศ
ชื่อร้าน Good Hands ที่เจ้าตัวเปิดขึ้นร่วมกับภรรยาเมื่อไม่นานมานี้ ต่อยอดจากธุรกิจของพี่สาว ก็เป็นชื่อที่อาจารย์สิงห์ อินทรชูโต อาจารย์หนุ่มนักออกแบบแนว EcoDesign สอนวิชานวัตกรรมการออกแบบเพื่อสิ่งแวดล้อม ที่คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และเป็นหนึ่งในคนไทยที่ CNN บอกว่าน่าจับตา เป็นคนตั้งให้ เจ้าตัวภูมิใจหนักหนา เพราะมาจากคนที่เป็นต้นแบบในการใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนาสินค้าและพัฒนาโลกอย่างจริงจัง
ผ้าปักชาวเขาที่นำมาใช้เป็นวัตถุดิบหลักในการประดิษฐ์กระเป๋านั้น เป็นผ้าปักเก่าที่ชาวเขานำมาขาย มีทั้งในไทยและประเทศเพื่อนบ้าน แต่ก็มีหลายเกรด ที่ปักเอาง่ายๆ หรือฝึกปักโดยเด็กหรือสาววัยรุ่นก็มี ที่ปักอย่างถวายชีวิต หรือด้วยความรักเต็มล้น จากคนเป็นแม่ เป็นเมีย เป็นลูกหลาน ให้กับคนที่ตนรักไว้ใช้ก็มี ประเภทหลังนี้แหละที่นักเลงเล่นผ้าเขาใฝ่หากันผ้าผ่านการใช้ ผ่านเรื่องราวมากมาย ท้ายสุดมาเติมสีสันเรื่องราวให้กระเป๋าของ นฤพล เขาบอกว่า กระเป๋าของเขาทุกใบมีเรื่องราว ใบนั้นผ้าที่นำมาใช้เคยเป็นผ้าห่มของม้ง บางผืนเป็นผ้าชาวปกากะญอ บางผืนมาจากชนเผ่าในตะวันออกกลาง หรือบางผืนมาจากอินเดีย แอฟริกา
นฤพลเองมองหาผ้าปักลายวิไลเลิศมาทำวัตถุดิบ ส่วนผ้าเกรดรองนั้น พยายามไม่ไปยุ่ง เพราะอยากเชิดชูฝีมือดีๆ มากกว่า อีกทั้งกระเป๋าของเขาก็เน้นขายคนที่รสนิยม นั่นหมายความว่าต้องใช้ของดี ไม่ว่าจะนางเอกอย่างผ้าปัก หรือทุกส่วนประกอบ
“ผมดูผ้าก่อนแล้วถึงออกแบบ แบบของกระเป๋าจะออกไปตามที่ลายผ้าแต่ละผืนกำหนด ผ้าผืนใหญ่ก็ทำเป็นกระเป๋าใบใหญ่ จะไม่ตัดผ้าเพราะเท่ากับทำลายความงามดั้งเดิมของเขา ผ้าแต่ละผืนเราเลือกมาแล้วอย่างดี เรื่องอะไรจะทำให้เสีย”
กระเป๋าที่นฤพลทำขายดิบขายดี ทั้งที่ราคาไม่ถูก ใบละหลายร้อยไปจนถึงหลายพัน บางใบที่สะสวยจัด ผ้างดงามหายาก เมื่อเอามาประกอบกับหนังแท้ได้แล้ว ขายใบละหมื่นกว่าบาทคนก็รอซื้อ
นอกจากนั้นยังส่งไปขายต่างประเทศ อเมริกา ยุโรป พากันมาสั่ง แต่เจ้าตัวก็ยืนยันว่าต้องดูผ้าก่อนจะรับทำ ถ้ามีผ้าลักษณะใดจะแจ้งให้ลูกค้าต่างประเทศรับรู้ก่อน บอกเขาว่าผ้าแบบนี้จะทำกระเป๋าออกมาแบบนี้ ใบประมาณนี้ ถ้าเขาตกลงก็เริ่มทำ จะรับคำสั่งซื้อมากหรือน้อยล้วนแต่อยู่ที่ผ้าทั้งสิ้น
และแน่นอนว่า เมื่อผ้าแต่ละผืนปักมาไม่เหมือนกัน กระเป๋าแต่ละใบจึงไม่เคยเหมือนกัน ต่างล้วนเป็นใบเดียวในโลก
“ไม่มีพี่น้องชาวเขาเผ่าต่างๆ ผมก็แย่นะพี่ พวกเขาเก็บผ้าดีๆ ไว้ขายให้เรา ไอ้ที่จะไปเดินหาเทิ่งๆ ตามตลาดนั่นไม่มีทาง ของอย่างนี้สายใครสายมัน เขามีผ้าดีๆ เขาก็บอก เพราะเขาอยากให้เราเอามาทำของสวยๆ ทำให้ผ้าที่ไม่มีคนใช้แล้ว ลืมแล้ว มีชีวิตใหม่”