ผู้เขียน | ปาณตะวัน |
---|---|
เผยแพร่ |
ตุ๊กตุ๊ก เป็นรถสามล้อบรรทุกของขนาดเล็ก เริ่มแรกนำเข้าจากญี่ปุ่นมาในเมืองไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 สมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ โดยช่างชาวไทยได้ดัดแปลงใส่หลังคา ใส่เบาะ เพื่อใช้เป็นรถโดยสารขนาดเล็กที่มีรูปทรงและหน้าตาอย่างที่เห็นกันอยู่นี้ เมื่อมีชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวเมืองไทย ได้เห็นรถประเภทนี้ซึ่งสมัยนั้นไม่มีชื่อเรียก ชาวต่างชาติจึงเรียกตามเสียงเครื่องสูบสมัยก่อน ซึ่งดัง ต๊อกๆ ต่อมาเพี้ยนเสียงเรียกเป็น ตุ๊กตุ๊ก มาจนถึงทุกวันนี้ รูปทรงและสีสันอันมีเอกลักษณ์ได้กลายเป็นซิกเนเจอร์ประจำประเทศไทย
รถตุ๊กตุ๊กกลายเป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทย การนั่งรถตุ๊กตุ๊กเที่ยวชมเมืองกลายเป็นโปรแกรมทองของนักท่องเที่ยวต่างชาติ การผลิตรถตุ๊กตุ๊กจำลองในรูปแบบผลิตภัณฑ์ของที่ระลึก กลายเป็นสินค้าขายดีตามแหล่งท่องเที่ยว มิหนำซ้ำ รถตุ๊กตุ๊กกลายเป็นแฟชั่นชุดประจำชาติที่โด่งดัง เมื่อดีไซเนอร์ออกแบบให้นางงามไทยใส่ชุดตุ๊กตุ๊กไปประกวดบนเวทีนางงามโลก โฉมใหม่ของตุ๊กตุ๊กจึงดังกระฉ่อนกันไปทั่วบ้านทั่วเมือง
ไม่แปลที่คนไทยส่วนมาก ไม่นั่งรถตุ๊กตุ๊ก ไม่ซื้อผลิตภัณฑ์ของที่ระลึกที่ทำเป็นรูปรถตุ๊กตุ๊ก แต่น่าแปลกที่คนไทยส่วนมากไม่รู้ว่า รถตุ๊กตุ๊กขนาดเท่าของจริง ได้กลายเป็นเฟอร์นิเจอร์สุดหรูประดับบ้าน ประดับร้านค้า ตกแต่งร้านอาหาร โรงแรม และรีสอร์ท การผลิตรถตุ๊กเพื่อใช้เป็นเฟอร์นิเจอร์ ได้กลายเป็นการผลิตที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ายุคคลาสสิก เหตุนี้ทำให้รถตุ๊กตุ๊กของไทยขายดีทั้งในประเทศและต่างประเทศทั่วโลก
ตลาดเปลี่ยนต้องปรับตัวตอบโจทย์ลูกค้า
คุณเชด ต่ายกระโทก เจ้าของ หจก. ตุ๊กตุ๊ก 1999 หรือ ไทยแลนด์ตุ๊กตุ๊ก หนึ่งในบริษัทรับผลิตรถตุ๊กตุ๊กแถวหน้าของเมืองไทย เผยถึงโอกาสการผลิตรถตุ๊กตุ๊กไทยว่า ตลาดรถตุ๊กตุ๊กเป็นตลาดเฉพาะกลุ่ม ลูกค้าที่สนใจรถประเภทนี้จะเป็นกลุ่มคนที่นิยมสะสมรถคลาสสิก โดยกลุ่มลูกค้ามีทั้งในประเทศและต่างประเทศ คุณเชดผลิตรถตุ๊กตุ๊กส่งออกในสัดส่วนครึ่งต่อครึ่ง ถ้าเป็นลูกค้าในประเทศก็จะเป็นกลุ่มบริษัท โรงแรม รีสอร์ท รวมทั้งลูกค้าที่ประกอบธุรกิจท่องเที่ยว และธุรกิจภาพยนตร์ บางรายต้องการแค่โครงสร้างของรถตุ๊กตุ๊ก เป็นรถไม่มีเครื่องยนต์ เพื่อโชว์เอกลักษณ์และใช้เป็นพร็อพ (มาจาก property หมายถึงอุปกรณ์ประกอบฉาก) สำหรับให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก การผลิตเหล่านี้เป็นการผลิตเพื่อรองรับตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งคุณเชดเองก็ยอมรับว่า ตนเองต้องปรับตัวเพื่อตอบโจทย์ของกลุ่มลูกค้าที่มีความหลากหลายขึ้น
การผลิตรถตุ๊กตุ๊กเพื่อใช้เป็นเฟอร์นิเจอร์ ยังคงเน้นโครงสร้างหลักให้เหมือนเดิม และใช้สีดั้งเดิม คือ น้ำเงิน-เหลือง ซึ่งยังคงครองความนิยมของตลาดอย่างสูง วัดได้จากยอดสั่งซื้อ 80 เปอร์เซ็นต์ของการสั่งซื้อระบุสีน้ำเงิน-เหลือง แต่บางครั้งอาจมีออร์เดอร์ระบุสเป็กเพิ่มเติม ตามไอเดียและลูกเล่น หรือตามจุดประสงค์การใช้งานของลูกค้า อย่างเช่น เปลี่ยนสี เพิ่มดีไซน์ให้เก๋ไก๋ขึ้น เพิ่มไซส์ ขยายขนาดให้กว้างขึ้นยาวขึ้น หรือเพิ่มแถวเบาะนั่ง เป็นต้น
สำหรับลูกค้าต่างประเทศ ส่วนมากเป็นกลุ่มร้านอาหารไทยในต่างแดน สั่งซื้อเพื่อนำไปโชว์เป็นพร็อพประดับร้าน เช่นเดียวกับธุรกิจร้านอาหารในเมืองไทย นอกจากนี้ยังมีกลุ่มธุรกิจรถคีออสสำหรับขายอาหารไทย และกลุ่มที่นิยมซื้อไปเก็บสะสม บ้างก็ซื้อไปใช้ส่วนตัวก็มี เนื่องจากชาวต่างชาติมองว่ารถตุ๊กตุ๊กเป็นรถคลาสสิก ซึ่งชาวต่างชาติชื่นชอบและหลงใหลเอามากๆ
คุณเชดอธิบายถึงการผลิตและการขนส่งว่า เมื่อประกอบเป็นรถตุ๊กตุ๊กเสร็จ ก็จัดการใส่ตู้คอนเทนเนอร์บรรทุกไปทางเรือ เมื่อไปถึงบางประเทศก็ใช้งานได้เลย แต่บางประเทศต้องถอดแบตเตอรี่ออกก่อนการขนส่ง เมื่อลูกค้ารอรับที่ปลายทางก็จะนำแบตเตอรี่จากบ้านมาใส่และขับออกไปได้ ตรงนี้เป็นเรื่องของกฎหมายของแต่ละประเทศที่แตกต่างกัน คุณแอบกระซิบว่า ลูกค้าของเขามีเกือบทั่วโลก ออร์เดอร์ที่ได้รับมาจากอเมริกา ฟินแลนด์ ยุโรป รวมทั้งญี่ปุ่นด้วย
20 ปีแห่งความหลัง
“ย้อนกลับไปเกือบ 20 ปีที่แล้ว เดิมเลยผมทำธุรกิจเทรดเดอร์กับต่างชาติมาก่อน และรถตุ๊กตุ๊กก็เป็นหนึ่งในสินค้าที่เรามีออเดอร์อยู่ตลอด ก็ทำมาเรื่อยๆ จนปี 2540 ช่วงนั้นบริษัทที่ผลิตรถตุ๊กตุ๊กส่งให้เรามีปัญหาภายในจนต้องปิดกิจการไป ซึ่งส่งผลกระทบกับเราโดยตรง เพราะเรารับออเดอร์จากลูกค้าต่างชาติค้างอยู่ แต่หาผู้ผลิตให้ไม่ได้ ทำให้ตัดสินใจก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตเองเพื่อผลิตป้อนลูกค้าที่เราค้างออเดอร์เขาอยู่ ตอนนั้นผมมองว่าธุรกิจนี้ค่อนข้างจะมีคู่แข่งน้อยในตลาด เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ค่อนข้างจะเฉพาะทาง แต่ความต้องการของตลาดยังมีอยู่ โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศ จึงหันมาจับธุรกิจรับผลิต ซ่อมบำรุง และจำหน่ายรถตุ๊กตุ๊กทั้งในประเทศและส่งออกต่างประเทศอย่างจริงจังมาเกือบ 20 ปีแล้ว” คุณเชดกล่าวพร้อมรอยยิ้มอย่างภูมิใจ
รถตุ๊กตุ๊กเป็นงานแฮนด์เมดทั้งคัน
การผลิตรถตุ๊กตุ๊กของ หจก. ตุ๊กตุ๊ก 1999 ใช้กระบวนการที่เรียกได้ว่าเป็นงานแฮนด์เมดทั้งคัน โดยใช้ช่างที่ชำนาญในการผลิตประมาณ 5-6 คน ใช้เวลาประมาณ 7 -8 วันต่อการประกอบโครงสร้างของตุ๊กตุ๊กแบบปกติหนึ่งคัน โดยเริ่มต้นของงานจากกาสั่งอะไหล่มือสองของรถสี่ล้อเล็กจากญี่ปุ่น จากนั้นต้องเช็คดูเรื่องของเครื่องยนต์ ช่วงล่าง เพลา เบรก โครงสร้างตัวรถและดีไซน์สีสันตามออเดอร์ที่ลูกค้าต้องการ จากนั้นจึงเช็คสภาพและทดสอบการใช้งานก่อนส่งให้ลูกค้า
การใช้งานของรถตุ๊กตุ๊กจะขับได้ประมาณ 80-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนการซ่อมบำรุงก็เหมือนรถยนต์ปกติ คือ ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ผ้าเบรก และอื่นๆ ตามความเสื่อมของระยะเวลาการใช้งาน ส่วนราคารถเริ่มต้นที่หลักแสนเบาะๆ อย่างต่ำคันละ 165,000 บาท ใช้ระบบน้ำมันและเกียร์ธรรมดา แต่ก็จะมีรถเกียร์ออโต้ ล้อแม็ก และรถตุ๊กตุ๊กแบบติดแก๊สให้เลือกได้ตามอัธยาศัย
ตุ๊กตุ๊กไม่ล้าหลังซื้อขายผ่านตลาดออนไลน์
“ผมทำการตลาดบนโลกออนไลน์มากว่า 10 ปี แล้ว ซึ่งตอนนั้นถือเป็นตลาดที่ใหม่มาก แต่ด้วยความรู้ด้านการทำเว็บไซต์ที่ติดตัวมา จึงทำให้นำมาต่อยอดการขายตรงผ่านเว็บไซต์ของตัวเองที่ชื่อ www.thailandtuktuk.net ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า จนถึงตอนนี้ก็ยังคงใช้พื้นที่ออนไลน์เพื่อทำการตลาดเช่นเดิม แต่เพิ่มช่องทางอื่นๆ ควบคู่ไปด้วยเพื่อกระจายสินค้าให้เป็นที่รู้จักทั้งทางไลน์และและเฟซบุ๊ก เนื่องจากโลกเปลี่ยนแปลง การเติบโตของการตลาดออนไลน์เพิ่มสูงขึ้นแบบก้าวกระโดด และแน่นอนว่ากลุ่มลูกค้าที่ติดต่อเข้ามาบนช่องทางออนไลน์นี้ ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน”
การผลิตรถตุ๊กตุ๊กเหลือน้อยราย
ตอนนี้มีผู้ผลิตรถตุ๊กตุ๊กในเมืองไทยเหลือเพียง 4 ราย ซึ่งแต่ละรายมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ของคุณเชดเด่นที่การทำระบบเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพ และมีใบรับประกัน 1 ปี โดยธรรมชาติของอุตสาหกรรมลักษณะนี้ค่อนข้างจะเฉพาะกลุ่ม จึงไม่ค่อยมีเติบโตมากนัก อีกส่วนที่ทำให้ผู้ผลิตมีไม่มากเป็นเพราะเรื่องของกฎหมาย โดยเฉพาะเรื่องการจดทะเบียนรถสามล้อในเมืองไทย ที่จะต้องเป็นนิติบุคคลเท่านั้น ทำให้คนธรรมดาทั่วไปไม่สามารถซื้อไปใช้เพื่อเป็นพาหนะส่วนตัวได้ จึงเป็นการจำกัดกลุ่มลูกค้าไปในตัว
“ช่วงปีแรกๆ ที่เริ่มทำธุรกิจ การเติบโตของตลาดค่อนข้างคึกคัก เพราะเป็นธุรกิจที่อิงกับวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว ซึ่งตุ๊กตุ๊กถือเป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทยอย่างหนึ่ง เป็นจุดเด่นที่ทำให้เรายังคงดำเนินธุรกิจมาได้จนถึงวันนี้ ช่วงรุ่งเรืองเคยผลิตได้สูงสุดถึงเดือนละ 15 คัน แต่ถ้าช่วงไหนมีเหตุการณ์ความไม่สงบต่างๆ ออร์เดอร์สั่งซื้อก็จะน้อยลงเพราะลูกค้าต่างชาติเดินทางมาเมืองไทยน้อยลง โอกาสที่เค้าจะเห็นรถตุ๊กตุ๊กและสั่งซื้อก็ลดลงไปด้วย”
แม้ว่าคุณเชดจะยอมรับว่า ตอนนี้ออเดอร์หายไปกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ก็ต้องปรับตัวลดต้นทุนเพื่อความอยู่รอดเช่นเดียวกัน แม้จะเจอผู้ผลิตรถสามล้อจากจีนเข้ามาตีตลาดอีกทางหนึ่ง สามล้อของจีนมีลักษณะคล้ายมอเตอร์ไซค์สามล้อ แต่ราคาถูกกว่าเกือบครึ่ง แต่ความแข็งแรงและความคงทนสู้รถตุ๊กตุ๊กของไทยไม่ได้ แม้จะเจอภาวะวิกฤติทางธุรกิจที่เป็นหน้าเป็นตาของเมืองไทยก็ตาม เจ้าของธุรกิจรายนี้ก็ยังคงเดินหน้าผลิตรถตุ๊กตุ๊กไทยป้อนตลาดต่างประเทศต่อไป