จาก ผักเชียงดา สู่ NARAH ธุรกิจผู้ป่วยเบาหวาน ปักธงโกอินเตอร์สำเร็จ!

จาก ผักเชียงดา สู่ NARAH ธุรกิจผู้ป่วยเบาหวาน ปักธงโกอินเตอร์สำเร็จ!

แม้ว่า สมุนไพรไทย จะได้รับการยอมรับด้านสรรพคุณ แต่การจะส่งออกสินค้าไปขายในตลาดโลกได้นั้น สิ่งสำคัญยิ่งกว่า จำเป็นต้องมี “มาตรฐานสากล” เป็นเครื่องการันตี  ดั่งในรายเอสเอ็มอี จ.เชียงใหม่ แบรนด์ “NARAH” (นราห์) สามารถพาสมุนไพรไทยปักธงในตลาดโลกสำเร็จ

โดยมีธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank  คอยสนับสนุนพาเข้าถึงแหล่งทุน “กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ” ช่วยลดต้นทุนธุรกิจ พร้อมยกระดับสร้าง “มาตรฐานระดับสากล”

คุณธีรพงศ์ เธียรพัฒนพล ประธานกรรมการบริหาร และผู้ก่อตั้ง บริษัท นราห์ อินดัสตรี จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพร แบรนด์ “NARAH” เล่าแรงบันดาลใจธุรกิจ เกิดจากตัวเองมีปัญหาสุขภาพเป็น “โรคเบาหวาน” ซึ่งเป็นโรคเดียวกันที่เคยคร่าชีวิตคุณพ่อของเขามาแล้ว

“ภาพในอดีตที่ผมจำได้ คือ คุณพ่อต้องกินยาเป็นกำๆ จากคนร่างใหญ่กลายเป็นซูบผอม สุดท้ายก็เสียชีวิต ผมไม่อยากจะเป็นเหมือนพ่อ เลยกลับมาศึกษาเรื่องสมุนไพรจริงจัง เพื่อรักษาตัวเอง จนพบ ผักเชียงดา ที่มีสรรพคุณลดน้ำตาลในเลือด เมื่อใช้กับตัวเองแล้วได้ผล ผมเลยคิดว่า ต้องมีคนอื่นๆ อีกจำนวนมากที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพเหมือนกัน ทำให้คิดจะนำสมุนไพรผักเชียงดามาต่อยอดทำเป็นธุรกิจ”

คุณธีรพงศ์ เธียรพัฒนพล ประธานกรรมการบริหาร และผู้ก่อตั้ง บริษัท นราห์ อินดัสตรี จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพร แบรนด์ “NARAH”

คุณธีรพงศ์ เล่าต่อว่า ตนมองเห็นว่า เทรนด์รักสุขภาพ ไม่ใช่เฉพาะเกิดขึ้นในเมืองไทย แต่เป็นเทรนด์เหมือนกันทั่วโลก เป้าหมายธุรกิจของ บ. นราห์ อินดัสตรี จก. จึงมุ่งส่งออกสินค้าไปปักธงในต่างประเทศให้ได้ ทว่า ในความเป็นจริง การส่งออกสินค้าโดยเฉพาะเกี่ยวกับสุขภาพ แค่บอกเล่าสรรพคุณด้วยตัวเอง คงไม่เพียงพอ จำเป็นต้องมี “มาตรฐานระดับสากล” มาเป็นเครื่องยืนยัน

“ลำพังมาตรฐานของไทย ไม่เพียงพอ จะสร้างชื่อในเวทีโลกได้ ผมจึงเริ่มศึกษาการสร้างมาตรฐานสากลอย่างแท้จริง ซึ่งยากและซับซ้อนมาก อย่างมาตรฐานออร์แกนิกระดับโลก ก็ต้องเป็นออร์แกนิกตั้งแต่แหล่งต้นน้ำ มาถึงพื้นที่เพาะปลูก และโรงงานผลิต ซึ่งเราศึกษาและพัฒนามาต่อเนื่อง จนปัจจุบัน เราได้ทั้งมาตรฐาน USDA จากสหรัฐอเมริกา และ EU Organic จากสหภาพยุโรป” คุณธีรพงศ์ เผย

ทั้งนี้ หนึ่งในปัจจัยสำคัญช่วยติดปีกธุรกิจให้โกอินเตอร์สำเร็จ คือ มีโรงงานผลิตที่ได้มาตรฐานสากล ซึ่ง ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank พาเข้าถึงแหล่งทุนในโครงการ “กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ” อัตราดอกเบี้ยเพียง 1% ต่อปี ของกระทรวงอุตสาหกรรม

“การทำธุรกิจ ยิ่งลดต้นทุนธุรกิจได้มากเท่าไร ก็ยิ่งจะมีเงินทุนเหลือ ไปพัฒนาธุรกิจมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งช่วงแรกผมมีปัญหาใหญ่ คือ ต้นทุนธุรกิจสูง จากค่าเช่าที่สูงมาก จึงต้องการเงินทุนสร้างโรงงานของตัวเอง ตอนแรกพิจารณาอยู่หลายธนาคาร จนได้มาเจอ SME D Bank ทำให้ผมประทับใจมาก เพราะช่วยพาเข้าถึงแหล่งทุนที่อัตราดอกเบี้ยต่ำมากๆ คือแค่ 1% ต่อปี ทำให้ผมสามารถขยายโรงงานได้ตามเป้าหมาย” คุณธีรพงศ์ ระบุ

ปัจจุบัน “NARAH” ขึ้นแท่นผู้ผลิตสินค้าสมุนไพรแปรรูปหัวแถว ประจำ จ.เชียงใหม่ ทั้งภายใต้แบรนด์ตัวเอง และรับจ้างผลิต (OEM) โดยมีสินค้าหลากหลายชนิด เช่น ชา กาแฟ อาหารเสริมจากพืชสมุนไพรออร์แกนิก 100% รวมถึง จำหน่ายวัตถุดิบ โดยคิดค้นและพัฒนาสูตรตำรับเฉพาะตามความต้องการของลูกค้า ภายใต้แนวคิด “อาหารที่ดีที่สุด ต้องมาจากธรรมชาติ” สามารถส่งออกไปหลายประเทศ ทั้งจีน และทวีปยุโรป รวมถึง อยู่เบื้องหลังเป็นผู้ผลิตสินค้าสมุนไพรให้กว่า 100 แบรนด์

ความสำเร็จที่เกิดขึ้น จึงเป็นบทพิสูจน์ให้เห็นว่า หากมาตรฐานพร้อม สมุนไพรไทยสามารถปักหมุดในเวทีโลกได้จริง

ติดต่อ โทร. 091-441-9265, www.narahindustry.com

———————————————————

สิ้นสุดการรอคอย
กลับมาอีกครั้ง กับงานสัมมนาธุรกิจ SMEs “พลิกเกมไว โอกาสใหม่ SMEs” 31 สิงหาคมนี้!
งานสัมมนาแห่งปีของเส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ที่ปีนี้พร้อมจัดใหญ่ จัดเต็ม เอาใจผู้ประกอบการ นักธุรกิจหน้าใหม่ หรือผู้ที่สนใจอยากเริ่มสร้างธุรกิจ โดยจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 9 กลับมาเจอกันอีกครั้งพร้อมคอนเซ็ปต์ที่น่าสนใจ และเข้าถึงเหตุการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี
พร้อมเชิญทั้งกูรู และ เหล่า SMEs ที่มีประสบการณ์ ฟันฝ่า ปรับตัว มาร่วมพูดคุย แลกเปลี่ยน แชร์ประสบการณ์ สร้างการเรียนรู้เพื่อใช้ในการปรับตัวทางธุรกิจ หรือปรับกลยุทธ์ในการค้าขายให้ทันโลกในปัจจุบันมากขึ้น
สามารถร่วมสนุกกับงานสัมมนา “พลิกเกมไว โอกาสใหม่ SMEs” ได้ โดยการลงทะเบียนล่วงหน้าพร้อมลุ้นรับของรางวัลได้ที่ >> https://bit.ly/3zBg81E (จำนวนจำกัด)
.