จากวิกฤต สับปะรดล้นตลาด สู่ เจ้าของไอศกรีมในลูกผลไม้ ที่ครองใจชาวเกาหลีใต้

สุดเจ๋ง! แม็คซ์ฟู๊ด กรุ๊ป จากคิดแก้วิกฤต สับปะรดล้นตลาด สู่ เจ้าของไอศกรีมในลูกผลไม้ ที่ครองใจชาวเกาหลีใต้ เตรียมไปต่อ เจาะตลาดซาอุฯ

ผลไม้ไทย ถือเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่ได้รับการยอมรับและส่งออกไปแทบจะทั่วโลก ซึ่งผลไม้ส่งออกที่สำคัญๆ มีทั้ง ทุเรียน มังคุด มะม่วง ลำไย เป็นต้น ซึ่งการอาศัยเพียง การส่งออกผลไม้สดๆ ก็ดูจะไม่มีอะไรโดดเด่นนัก และการแปรรูปผลไม้ ก็ถือเป็นการช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าได้อีกวิธีที่เหล่าผู้ประกอบการชอบนำมาใช้นั่นเอง

ซึ่ง ไอศกรีมซอร์เบต์ในลูกผลไม้ ถือเป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในต่างประเทศ โดยเฉพาะเกาหลีใต้ ที่กลายเป็นเทรนด์ฮิต ซึ่งมีผู้ประกอบการไทยอย่าง บริษัท แม็คซ์ฟู๊ด กรุ๊ป จำกัด ที่เรียกได้ว่า ครองตลาดอยู่ ณ ตอนนี้นั่นเอง!

คุณเก่ง-ฐานพงศ์ จุ้ยประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แม็คซ์ฟู๊ด กรุ๊ป จำกัด ได้ให้สัมภาษณ์กับ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ว่า ก่อนจะมาเป็น แม็คซ์ฟู๊ด กรุ๊ป ในทุกวันนี้ เมื่อราวๆ ปี 2554 คุณเก่งได้เริ่มธุรกิจค้าขายจากการทำ โมจิไอศกรีม ไปยืนขายอยู่ที่ตลาดนัดรถไฟ จตุจักร โดยมีคุณภรรยาเป็นผู้ลงมือผลิตสินค้า ส่วนตัวเขานั้นเป็นไปคนยืนขาย

คุณเก่ง-ฐานพงศ์ จุ้ยประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แม็คซ์ฟู๊ด กรุ๊ป จำกัด

“สมัยนั้นมันมีเทรนด์ว่า ถ้าวัยรุ่นได้ไปขายของที่ตลาดนัดรถไฟ มันเป็นอะไรที่เจ๋งมาก ผมก็เลยคุยกับภรรยาและลองทำ โมจิไอศกรีมไปขายหลังเลิกจากการทำงานประจำ เพราะตอนนั้นเทรนด์ของกินอันนี้กำลังมา และก็พวกเจ้าใหญ่ๆ ก็นำเข้าจากต่างประเทศมาขายกันเยอะ แต่ของเราเป็นแบบทำเอง ขายเอง คำว่า โมจิไอศกรีม ในสมัย 10 กว่าปีที่แล้วมันเป็นเรื่องไกลตัวนะ คือใครกินก็รู้สึกเหมือนไฮโซ ต้องไปกินที่ไนท์มาร์เก็ตอะไรแบบนี้ ถ้าเราเอามาอยู่ตลาดนัดได้ ผมว่าผมต้องรวยแน่เลย ก็คิดกับภรรยาแบบนี้ แล้วก็ทดลองหาสูตรกันเองกับภรรยา จนได้สูตรที่ทำขายมาจนถึงปัจจุบัน”

“ผลตอบรับดีจนเริ่มขายดีขึ้น ก็เริ่มมีการทำขายส่ง เริ่มขยายไปทำแฟรนไชส์ พอมีแฟรนไชส์ก็เลิกจากทำที่บ้าน มาทำเป็นโรงงานเล็กๆ และขยับมาเรื่อยๆ จนวันหนึ่ง เราคิดกันว่า โมจิไอศกรีม มันค่อนข้างอยู่ตัวแล้ว ไม่ต้องไปทำอะไรกับมันมาก รายได้ก็คงตัว เราเลยคิดกันว่า อยากทำสินค้าขึ้นมาอีกชิ้นหนึ่ง ให้เป็นอะไรที่ฮือฮากันไปเลย แล้วอย่างที่เห็นกันมาตลอดว่า ผลไม้ไทยราคาถูกมาก โดยเฉพาะสับปะรด”

“ซึ่งผลไม้ไทยหลายๆ อย่าง มันมีศักยภาพทางด้านรสชาติที่ดีนะ และแหล่งวัตถุดิบก็อุดมสมบูรณ์ ก็เลยคิดค้นพัฒนาวิจัยผลิตภัณฑ์ประเภทไอศกรีม ซึ่งผมมีนโยบายในการใช้ผลิตภัณฑ์จากประเทศไทย 100% เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรไทย และเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันเศรษฐกิจภาคการเกษตรของไทยด้วย มันก็เลยเป็นที่มาของการทำ ไอศกรีมสับปะรด ทำขายส่งไปต่างประเทศได้ช่วงหนึ่งแล้ว ก็ขยายต่อมาสร้างเป็นบริษัท แม็คซ์ฟู๊ด ขึ้นในปี 2563 ส่วนปี 2564 เริ่มดำเนินกิจการ นี่ก็คือจุดเริ่มต้นของไอศกรีมซอร์เบต์ ของเรา” คุณเก่ง เล่าอย่างนั้น

ชายเจ้าของบริษัท แม็คซ์ฟู๊ด กรุ๊ป จำกัด ยังเล่าต่อว่า โดยส่วนตัวแล้ว ตนมองว่าการส่งออกเป็นตลาดที่ใหญ่ และสร้างรายได้มหาศาลให้กับทางบริษัทและกับประเทศ จึงเลือกที่จะทำส่งออกไอศกรีมสับปะรดของเขาไปต่างประเทศมากกว่า โดยหลักๆ เน้นเป็นประเทศเกาหลีใต้

“ที่เน้นเกาหลีใต้เพราะ คนเกาหลีนิยมทานปิ้งย่าง ผมเลยคิดว่า ไอศกรีมสับปะรด น่าจะมาทานเป็นของหวานหลังมื้อเย็นได้ ก็ลองทำตลาดดู ส่งทีมไปเก็บข้อมูล สำรวจกันอยู่นานเพื่อนำข้อมูลมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ แล้วปรากฏก็เป็นอย่างที่คิด และมีการสั่งซื้อเกิดขึ้นในที่สุด จนมันกลายเป็นเทรนด์ในเกาหลี เพราะคนเกาหลีชอบดื่มชอบเที่ยวกันอยู่แล้ว ซึ่ง สับปะรด ถือเป็นเบสชั้นดีในการทำเครื่องดื่มประเภทค็อกเทล และสามารถนำมาใส่ในโซจู ใส่ในเบียร์ ดื่มกันในผับ”

“และสับปะรดเป็นผลไม้เมืองร้อน ซึ่งที่เกาหลีปลูกเองค่อนข้างยาก จึงเกิดเป็นช่องว่างการตลาดที่ให้เราเข้าไป ไอศกรีมของแม็คซ์ฟู๊ด กรุ๊ป เลยครองตลาดที่นั่นได้กว่า 99% เลยทีเดียว ส่วนในประเทศจะเป็นการวางจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่ายมากกว่า แต่ในอนาคตก็จะขยายตลาดแน่นอน ซึ่งตอนนี้ก็มีส่งทีมไปสำรวจตลาดที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย หาช่องทางการตลาด หานายทุนร่วมธุรกิจ และศึกษาพฤติกรรมการกินของคนประเทศนั้นๆ และนำมาวิเคราะห์ผลิตสินค้าต่อไป ซึ่งทางแม็คซ์ฟู๊ด เราต้องการสร้างฮับหรือจุดกระจายสินค้า ที่ซาอุฯ เพื่อส่งออกไปทั่วตะวันออกกลางและแอฟริกาด้วย” คุณเก่ง ว่าอย่างนั้น

นอกจากนั้น คุณเก่ง ยังเผยอีกว่า นอกจากสับปะรดแล้ว แม็คซ์ฟู๊ด กรุ๊ป ยังมีผลไม้อื่นๆ ด้วย อาทิ แตงโม มะพร้าว และ เสาวรส ที่นำมาแปรรูปเป็นไอศกรีมซอร์เบต์ และในอนาคต มีแพลนว่าจะนำ มะม่วง ทับทิม และ กระท้อน มาแปรรูป โดยอาจจะทำออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ตามซีซั่น (season) เพราะผลไม้ที่กล่าวมาไม่ได้มีผลให้นำมาผลิตตลอดนั่นเอง

Maxfood-Passion Fruit Sorbet

“ช่วงโควิด-19 ไม่ค่อยได้รับผลกระทบถึงขนาดกับขาดทุน เพราะเนื่องจากสินค้าของผมเป็นของกิน ซึ่งมันยังส่งออกได้เรื่อยๆ เหมือนปกติ แต่ออร์เดอร์อาจจะลดลงเล็กน้อย แค่ไม่ไหลลื่นเหมือนก่อนโควิดเท่านั้นเอง ผมว่าบริษัทเราเดินมาไกลมากพอสมควรเลยนะ จากวันที่ขายตลาดนัดจนมีทุกวันนี้ ผมว่ามันก็ขึ้นอยู่กับการพัฒนาอย่างไม่หยุด ซึ่งตัวผมเอง เป็นคนชอบเขียนแผน ตอนนี้ก็เขียนยาวไปถึงปี 2570 แล้ว”

“แผนของปีนี้เลยจะลุยเรื่องโมจิไอศกรีมที่เป็นวีแกน เพื่อส่งไปอเมริกา และไอศกรีมคีโตก็กำลังทำอยู่ เรียกว่าเรากำลังลุยตลาดยุโรปกันอยู่ครับ” คุณเก่ง ทิ้งท้ายอย่างนั้น

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ไลน์ @maxfoodgroup เว็บไซต์ www.maxfoodgroups.com หรือ โทร. (099) 624-6266 และ (080) 277-7701