เปลี่ยนซาเล้ง เป็น สโลว์บาร์ริมทะเล 5 เดือน ดังพลุแตก ยอดขายปังๆ 80 แก้ว/วัน

เปลี่ยนซาเล้ง เป็น สโลว์บาร์ริมทะเล 5 เดือน ดังพลุแตก ยอดขายปังๆ 80 แก้ว/วัน
เปลี่ยนซาเล้ง เป็น สโลว์บาร์ริมทะเล 5 เดือน ดังพลุแตก ยอดขายปังๆ 80 แก้ว/วัน

เปลี่ยนซาเล้ง เป็นร้านกาแฟสโลว์บาร์ริมทะเล ขาย 5 เดือน ดังเป็นพลุแตก ยอดขายปังๆ 80 แก้วต่อวัน!

ที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี หาดจอมเทียน ถือเป็นหาดทรายที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากนักท่องเที่ยว เพราะมีความสวยงาม แนวหาดมีการทอดตัวเป็นแนวยาว ตามถนนเลียบชายหาด มีธุรกิจเกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะธุรกิจที่พักโรงแรม ร้านอาหาร รวมถึงร้านเครื่องดื่ม สโลว์บาร์ริมทะเล

เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ มีโอกาสได้ไปเที่ยวพักผ่อนทริปสั้นๆ และได้ไปเจอเข้ากับ ร้านกาแฟสโลว์บาร์ริมทะเลอย่าง Slowbar 24 ที่เคยเป็นกระแสในโลกโซเชียลอยู่ระยะหนึ่ง จึงไม่รอช้าที่จะเข้าไปพูดคุยกับเจ้าของร้าน ที่กำลังเก็บของเตรียมกลับบ้านในช่วงเวลาแดดแก่ๆ แบบนี้

คุณเหมียว-รัตนา​ ไชย​อะ​ทะ เจ้าของร้าน วัย 34 ปี

คุณเหมียว-รัตนา​ ไชย​อะ​ทะ เจ้าของร้าน วัย 34 ปี เล่าให้ฟังว่า เธอเป็นคุณแม่ลูกหนึ่งที่เดิมทีทำงานเป็นพนักงานในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ลูกน้อยวัยอนุบาลของเธอและสามี ต้องเรียนผ่านออนไลน์ เธอจึงคุยปรึกษากันกับสามีและตัดสินใจลาออกเพื่อมาดูแลลูก

“ลูกต้องเรียนออนไลน์ช่วงโควิด พี่กับสามีก็คุยกันว่าจะเอายังไงดี เพราะมันต้องมีคนหนึ่งดูแลลูก ด้วยความที่พี่ก็คิดเกี่ยวกับงานมาสักพัก เลยโอเค งั้นเดี๋ยวฉันมาดูลูก เธอก็ทำงานเป็นหัวหลักของครอบครัวแล้วกัน ลาออกมาเลี้ยงลูกได้สัก 1 ปี ก็เริ่มคิดว่าจะเอายังไงต่อ เพราะโควิดไม่มีทีท่าว่าจะจบ และด้วยความที่เป็นคอกาแฟ พี่ก็จะมีอุปกรณ์การชง ทำทานเอง และมีศึกษาเกี่ยวกับกาแฟอยู่บ้าง แฟนก็สนับสนุนและแชร์ว่า งั้นลองมาขายกาแฟดูไหม ก็โอเค ลองทำดู”

“ก็มานั่งคิดอีกว่า แล้วจะทำร้านยังไง ด้วยความที่แฟนพี่ เขาเป็นวิศวะก็ช่วยดีไซน์ ช่วยคิด เพราะพี่อยากทำร้านกาแฟที่สามารถนั่งชิลๆ ได้ ถ้าไปเปิดร้านมันใช้เงินเยอะ ดูไม่ค่อยชิลตามสไตล์พี่ สุดท้ายก็ออกมาเป็นร้านแบบนี้ ดูบ้านๆ แปลกๆ เพราะเหมือนเป็นการเอารถซาเล้งมาทำร้านกาแฟ เพิ่มอุปกรณ์นั่นนี่เข้ามา แต่มันยังดูดี”

คุณเหมียว ยังเล่าต่อว่า การรีโนเวตซาเล้งเป็นร้านกาแฟที่ใช้ทำมาหากินในปัจจุบัน ผ่านการลองผิดลองถูกมาเยอะมาก เช่น ตัวรถที่แฟนคุณเหมียวทำให้ ก็ลงทุนไปประมาณ 3 หมื่นกว่าบาท ซึ่งเป็นการหาของเก่ามาทำใหม่ โดยเธอบอกว่าจะเรียกว่าประหยัดดีไหมอันนี้ก็ไม่แน่ใจ เพราะของเก่าบางอย่างมันก็หายาก

“จริงๆ ลงทุนทำก็เยอะอยู่นะคะ และก็มีลูกค้าเข้ามาถาม เพื่อจะไปเปิดร้านเองเหมือนกัน แต่ของเราไม่ได้ลงทุนทีเดียว ราคาทำร้านแบบพี่ ถ้าตัวรถกับค่าเดินไฟ ก็ไม่เกิน 35,000 บาท ถือว่าลงทุนไม่เยอะ สำหรับตัวรถและระบบไฟ ส่วนตัวกาแฟ ก็สามารถสั่งผ่านเราได้ เพราะเรายังไม่ได้ทำแฟรนไชส์ แต่เป็นการให้คำปรึกษาสำหรับคนที่อยากเอาไปทำอาชีพ เพราะตอนแรกไม่ได้ตั้งใจที่จะมาทำกาแฟขาย เราเป็นแค่คอกาแฟที่ซื้อเก็บสะสมพวกเครื่องชงเพราะความชอบ ตอนทำงานก็ซื้อพอตกาแฟเก็บ ซื้อที่ดริปเก็บ แล้วก็ค่อยๆ ซื้อมาเรื่อย”

“ทุกวันนี้ที่ออกมาขาย เหมือนมาแลกเปลี่ยนความรู้กับเพื่อนๆ ที่ชอบกาแฟมากกว่า เพราะบางทีลูกค้าก็แนะนำว่ากาแฟตัวนี้ รสชาติแบบนี้ ส่วนสูตรกาแฟ พี่ก็พัฒนาไปเรื่อยๆ จากความชอบ ที่มาขายริมทะเลได้ มันเป็นเรื่องที่แบบอธิบายยากหน่อย เพราะพี่ก็จองหน้าร้านขายนะ แต่ก็มีคนตัดหน้าไปตลอด จนมาถึงหาดตรงนี้ ซึ่งมันเป็นที่ที่พี่มักมานั่งชิล นั่งกินอาหารเล่นกับครอบครัวบ่อยๆ อยู่แล้ว เรียกว่ามาทุกอาทิตย์ ก็เลยคิดว่า เลยลองมาถามๆ คุยๆ กับคนที่เขาขายแถวนี้”

“วันแรกที่มาก็มานั่งรอตั้งแต่ 6 โมงเช้า จน 10 โมงกว่าๆ เพราะพี่ก็รู้อยู่แล้วว่าตรงนี้ มีใครขายประจำ ขายอะไรบ้าง แต่พี่ตัดสินใจแล้วว่า ยังไงวันนี้ฉันก็ต้องขาย ขายได้ 10 แก้วค่อยกลับบ้าน ทั้งๆ ที่ของก็ยังไม่พร้อมนะ แต่ก็มา พอได้คุยกับคนที่เขาขายของประจำตรงนี้ เขาก็บอกว่าขายได้ ไม่ได้เป็นพื้นที่ห้ามขายอะไร ก็เลยตั้งขาย ผลตอบรับดีเกินขาด แค่วันนั้นวันเดียว จากตั้งเป้าแค่ 10 แก้ว ปรากฏว่าของหมด แฟนต้องวิ่งไปวิ่งกลับซื้อของมาทำเพิ่ม พอเห็นว่าผลตอบรับดี ก็ตัดสินใจขายจริงจังเลย” คุณเหมียว เล่าอย่างนั้น

เมนูขายดีของร้าน คุณเหมียว บอกว่า เรียกว่าทุกเมนูเลยทีเดียว เพราะด้วยความที่เม็ดกาแฟเป็นเม็ดกาแฟอาราบิก้าสั่งคั่วที่มีรสชาติโดดเด่น แต่ตัวที่ได้รับความนิยมมากๆ คือ คาลาเมลมัคคิอาโต้ กับ ลาเต้ (ขายดีสุด) ซึ่งเป็นเมนูที่ทานง่ายนั่นเอง

“จากวันนั้นถึงวันนี้ก็ 5 เดือนนิดๆ จากวันแรกที่ขายได้ 70 แก้ว ก็ยอดนี้มาเรื่อยๆ ไม่ต่ำกว่า 50 แก้ว ลูกค้าส่วนใหญ่ก็เป็นลูกค้าประจำ และลูกค้าที่มาจากปากต่อปาก มารีวิว หลายคนก็ถามนะว่าสนใจจะไปขายที่อื่นไหม จะเปิดร้านไหม แต่เรามองว่าถ้าแบบนั้นมันไม่มีเสน่ห์แล้วอ่ะ คือมันกลายเป็นว่า ต้องขายตรงนี้ มันเหมือนเป็นแลนด์มาร์กไปแล้ว ทุกคนมาแล้วรู้ว่า แถวนาจอมเทียน เดี๋ยวจะเจอร้านกาแฟสโลว์บาร์นะ อะไรแบบนี้”

“ในอนาคตว่า พวกเม็ดกาแฟ จะผลิตเป็นแบรนด์ของตัวเอง และอาจจะมีแฟรนไชส์ หรือซื้อเครื่องมาเปิดคอร์สสอน ด้วยความที่มันเป็นเครื่อง จะมารีบๆ มันก็ไม่ได้ ไม่งั้นมันจะไม่ใช่เสน่ห์ของสโลว์บาร์ มันก็เสียชื่อ มันก็อยู่ที่ความกล้าได้กล้าเสียด้วยเหมือนกัน ถ้าออกมาไม่ดีก็ต้องทิ้ง แต่มันก็อยู่ที่รสกาแฟของแต่ละคนเหมือนกัน” คุณเหมียว ทิ้งท้ายอย่างนั้น

ร้านกาแฟ SLOW BAR 24 ตั้งอยู่ตรงเขตนาจอมเทียน เปิดร้านขายตั้งแต่ 7.30 น. จนกว่าของจะหมด หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก Slowbar24

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อวันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ.2565