| ผู้เขียน | อันติกา |
|---|---|
| เผยแพร่ |
“ภาษี” เรื่องใกล้ตัว ที่หลายคนอยากจะให้ไกลตัว ด้วยเพราะคนจำนวนมากมองว่าเป็นเรื่องยากในการทำความเข้าใจ และยังเป็นเรื่องนำมาซึ่งความสูญเสียมากกว่าจะได้รับ
ผู้เชี่ยวชาญ หรือที่ปรึกษาทางด้านภาษีส่วนตัว จึงต้องเข้ามามีบทบาทสำคัญ แต่ทว่าโดยความเป็นจริงแล้ว ผู้เรียกใช้บริการผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีส่วนบุคคลได้นั้น ต้องมีฐานะทางการเงินดี
แล้วบุคคลทั่วๆ ไปล่ะจะมีที่ปรึกษาทางด้านภาษีส่วนตัวได้หรือไม่…?
“ได้” และ “ฟรี” นี่คือคำตอบ เพียงแค่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น iTAX (ไอแท็กซ์) ซึ่งรองรับทั้งระบบ IOS และ Android มาไว้บนหน้าจอก็เท่ากับมีที่ปรึกษาด้านภาษีส่วนตัวแล้ว.
แท็กซ์+เท็กซ์
กูรูด้านภาษี
ดร.ธรรม์ธีร์ สุกโชติรัตน์ ประธานกรรมการบริหารบริษัท ลีเกิลไดรฟ์ จำกัด หนึ่งในผู้ก่อตั้ง iTAX เล็งเห็นถึงปัญหาความยุ่งยากระหว่างคนไทยกับเรื่องภาษีและการเงิน จึงได้ผุดแอปฯ นี้ขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่ที่ปรึกษาด้านภาษีและการเงินส่วนตัว
กับจุดเริ่มต้นนี้ ดร.ธรรม์ธีร์ ผู้พกพาความรู้ระดับปริญญาตรีด้านวิศวกรรมจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กระทั่งได้ทุนไปศึกษาต่อปริญญาเอกด้าน Data Mining จาก University of Texas-Arlington และรวมถึงประสบการณ์ทำงานานในบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้ได้เรียนรู้ระบบการทำงานแบบมืออาชีพ
ประจวบกับในระหว่างทำงานได้รู้จักกับ ดร.ยุทธนา ศรีสวัสดิ์ ซึ่งศึกษาจบปริญญาเอกและเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายภาษี จากการพูดคุยทำให้ทั้งสองมองเห็นโอกาสที่จะมอบให้กับคนไทยซึ่งยังขาดความรู้ความเข้าใจเรื่องภาษีได้เข้าถึงข้อมูลและสามารถมีที่ปรึกษาส่วนตัวด้านนี้ได้
เมื่อ TAX+TECH มาเจอกันจึงผสาน กลายเป็นแอปพลิเคชั่นในชื่อ ‘iTAX’ ขึ้นมา
“ผมเกิดความคิดต้องการสร้างผลิตภัณฑ์ที่เป็นประโยชน์ให้กับคนไทยด้วยกัน ก็มองว่าเรื่องภาษีเป็นเรื่องที่เจ๋ง เพราะเป็นเรื่องยาก ในขณะได้ร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญที่ศึกษาหลักกฎหมายภาษีมาทั่วโลก เราจึงอยากจะทำเพื่อคนไทย ซึ่ง iTAX เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ยังทำงานอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ใช้เวลาวันหยุดเริ่มต้นก่อตั้งให้เกิดเป็นรูปร่าง”
เรียบง่าย เป็นธรรม
นำมาสู่ประสิทธิภาพ
ดร.ธรรม์ธีร์ ยังขยายความถึงกฎหมายภาษีว่ามีองค์ประกอบ 3 อย่างหลักๆ คือ เรียบง่าย เป็นธรรม และมีประสิทธิภาพ แต่จะทำอย่างไรกับการทำให้สามสิ่งนี้หลอมรวมเป็นเรื่องเดียวกัน นั่นคือความยาก
“ถ้าอยากให้การจัดการภาษีเป็นเรื่องง่าย แล้วกำหนดว่าทุกคนเสียภาษี 20 เปอร์เซ็นต์ คนมีเงินเดือนหนึ่งหมื่นก็จะเหลือเงิน 8 พันบาท คนมีเงินเดือน 2 แสน ก็จะเหลือ 8 หมื่นบาท เรียบง่ายจริงแต่ดูไม่เป็นธรรม จึงต้องออกกฎหมายว่าใครมีรายได้มากเสียมาก รายได้น้อยเสียน้อย มีเรื่องค่าลดหย่อนต่างๆ เข้ามา พอความเป็นธรรมเกิด มีกฎเกณฑ์ต่างๆ ขึ้นมาช่วย ความเรียบง่ายก็เหมือนถูกทิ้ง สุดท้ายคือ พอไม่เรียบง่าย คนก็จะทำผิด ไม่เข้าใจ”
ฉะนั้น iTAX จึงเกิดขึ้นมาเพื่อช่วยดูแลในสองเรื่องหลักๆ คือ ทำให้ผู้ใช้บริการสามารถยื่นภาษีได้อย่างถูกต้อง และแน่นอนว่าสิ่งที่ทุกคนต้องการคือ ได้รับเงินคืนภาษีสูงสุด ไม่เพียงเท่านั้นยังเพิ่มข้อแนะนำ และโอกาสในการสร้างการบริหารจัดการด้านการเงินและภาษีเพื่อให้เหมาะกับรูปแบบชีวิตของแต่ละคน เช่น แนะนำการทำประกันชีวิต (มีบริษัทประกันชั้นนำเข้าร่วมแล้วราว 80 เปอร์เซ็นต์ในท้องตลาด) การลงทุนกับกองทุน ในรูปแบบต่างๆ โดยไม่บังคับ หรือเชียร์ให้ผู้เข้าใช้บริการรู้สึกอึดอัด
“iTAX ต้องการให้ทุกคนสามารถมีที่ปรึกษาทางด้านการเงินและภาษีได้ และด้วยเรามีความพร้อมทางด้านผู้เชี่ยวชาญรวมแล้วเกือบ 10 คน ตั้งคำถามให้ตอบเป็นข้อๆ ไม่ซับซ้อน จากนั้นนำข้อมูลที่ได้รับไปประมวลเพื่อให้ผู้เข้ามาใช้บริการยื่นภาษีได้อย่างถูกต้อง จากนั้นก็นำข้อมูลมาประมวลผลต่อ เพื่อแนะนำว่าอะไรควรทำเพิ่ม เพื่อเป็นการช่วยประหยัดภาษี และสร้างแนวทางการวางแผนชีวิตต่อไป อย่างเช่นการซื้อประกันชีวิต การลงทุนกับกองทุน LTF/RMF เป็นต้น”
รับปรึกษา “ฟรี”
ไม่จี้ ไม่บังคับ
กับการให้คำปรึกษาไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ต่อเมื่อผู้สนใจต้องการซื้อประกัน หรือลงทุนเพิ่มกับบริษัทที่ได้จับมือร่วมกัน แต่ทั้งนี้ จะไม่เชียร์ผลิตภัณฑ์ หรือบังคับให้ผู้เข้ามาขอรับคำปรึกษาอึดอัดใจ อีกทั้งไม่รบกวนความเป็นส่วนตัวของผู้เข้ามาติดต่อ โดยจะไม่ถามชื่อสกุล ขอเพียงแค่ทราบอีเมลเท่านั้น และนี่จึงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ iTAX กลายเป็นแอปฯอันดับต้นๆ ในด้านการเงินที่มีผู้เข้ามาใช้บริการจำนวนมาก
“ลูกค้าจะค่อนข้างกลัวการบอกข้อมูล กลัวสูญเสียความเป็นส่วนตัว จึงไม่ต้องให้เขาระบุชื่อสกุล ในขณะเดียวกันเราแสดงความจริงใจกับการเปิดเผยตัวตน อย่างถ้าเสิร์ชชื่อผมก็จะรู้ทันที และด้วยระบบที่จัดตั้งขึ้นมามีความปลอดภัยสูง ลูกค้าจึงมั่นใจได้ว่าข้อมูลของเขาจะไม่รั่วไหล ซึ่งส่วนใหญ่ผู้เข้ามาใช้บริการจะเป็นกลุ่มวัย 30 ปีต้นๆ แต่เป้าหมายของเราต้องการให้คนที่ก้าวเข้าสู่วัยทำงาน คืออายุ 20 ปีกว่าๆ ได้ศึกษาเรื่องภาษีการเงิน เพื่อจะได้วางแผนชีวิต”
กับการก้าวสู่ธุรกิจนี้ ดร.ธรรม์ธีร์ ว่า iTAX คือแอปพลิเคชั่นรายแรกและรายเดียว ด้วยรูปแบบการเข้าถึงที่ง่าย และเข้าใจคนยุคปัจจุบันจึงมีฐานลูกค้าดาวน์โหลดแล้วถึง 3 แสนดาวน์โหลด ซึ่งผู้สนใจส่วนใหญ่รับรู้แบบปากต่อปาก และผ่านทางเฟสบุ๊กส่วนตัว เนื่องด้วยผู้ร่วมทุนแต่ละคนเป็นผู้เชี่ยวชาญ เป็นทั้งนักพูด นักเขียน
“ตั้งแต่ปี 2558 คนไทยให้ความสนใจเทคโนโลยีมาก iTAX จึงได้รับผลตอบรับรวดเร็ว ซึ่งในปีสองปีแรกอาจไม่เห็นเรื่องของตัวรายได้ แต่พอมาปี 2559 รายได้เริ่มเข้ามาหลายล้านบาท โดยรายได้นี้จะมาจากผู้ใช้บริการซื้อผลิตภัณฑ์จากหน่วยงานที่ได้ให้คำแนะนำ ซึ่งทางหน่วยงานนั้นๆจะตอบกลับผลตอบแทนกับอัตราค่าตอบแทนแตกต่างไปตามผลิตภัณฑ์การเงิน และจำนวนการลงทุน”
รู้จริง จริงใจ
รู้จักให้ก่อน
จากความมุ่งมั่นตั้งใจกับการยึดมั่นในพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชการที่ 9 มีใจความสำคัญว่า ถ้าทำงานใดที่เป็นประโยชน์เป็นงานที่ยิ่งใหญ่จะต้องมีหัวใจหลัก 3 ข้อ โดยเริ่มต้นประการแรกคือ ความรู้ความสามารถ เรียกว่าต้องรู้ลึก รู้จริงในด้านนั้น “ซึ่งข้อนี้ผมมองว่าเราทำสำเร็จ เรามีทีมงานที่รู้จริงในเรื่องภาษีและเทคโนโลยี”
ประการที่สองคือความจริงใจในการทำงาน “แม้เราจะทำธุรกิจบนโลกออนไลน์ แต่ให้ความสำคัญกับลูกค้ามาก เข้าไปคุย ไปแก้ไข หลายครั้งผมตอบคำถามเอง และให้เบอร์โทรศัพท์ส่วนตัว นี่คือความจริงใจที่เราพร้อมมอบให้”
ข้อที่สามคือทำงานโดยไม่สนใจเงินและผลประโยชน์ “ถ้าย้อนไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ถามว่าถ้าบอกใครๆ ว่า ทำธุรกิจให้ฟรี ไม่หวังผลประโยชน์ ไม่หวังเงิน คนคงหัวเราะ ว่าทำไปทำไม ผมเองก็เจอ แต่เราเลือกที่จะทำให้เขาเห็นคุณค่าก่อนและสุดท้ายลูกค้าจะพร้อมอยู่กับเราไปตลอด”
ดร.ธรรม์ธีร์ ยังคาดการณ์ในราว 2 ปีข้างหน้า iTAX จะครอบคลุมการรับรู้ในกลุ่มคนไทย และเมื่อถึงวันนั้น โอกาสจะก้าวไปสู่ตลาดต่างประเทศก็มีความเป็นไปได้ และในอนาคตอันใกล้ ในปี 2560 นี้ iTAX ยังวางแผนก้าวไปสู่ตลาดองค์กร
“สิ่งที่เราตั้งใจไว้ในปี 2560 คือ คนไทยทุกคนไม่ต้องทำภาษีเอง แต่ iTAX จะเข้าไปช่วยเป็นเครื่องมือช่วยให้พัฒนาฐานะทางการเงิน ช่วยให้งานที่ทำมีความเป็นมืออาชีพและมีประสิทธิภาพมากขึ้น”
