ออกจากงานประจำ เปิดท้ายเก๋งคู่ใจ ชงกาแฟขาย รายได้ไม่มาก แต่ชีวิตแฮปปี้

เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ มีโอกาสได้คุยกับ คุณโนว-ชวาลณัฏฐ​ ลีลุเดช วัย 35 ปี ผู้ประกอบการหน้าใหม่ ที่ปิ๊งไอเดีย เปลี่ยนท้ายรถเก๋งคู่ใจ เป็นร้านกาแฟ!

คุณโนว เล่าว่า เดิมที ก่อนผันตัวมาเปิดท้ายรถขายกาแฟ เคยทำงานเป็นพนักงานขายมาก่อน กระทั่งรู้สึกอิ่มตัวในหน้าที่การงานจึงลาออกจากงานประจำมาขายของ โดยขายมาสารพัดสิ่ง ไม่ว่าจะเป็น ขนมปังอบชีส ขนมปังปิ้ง รวมถึงเปิดร้านหมูกระทะเล็กๆ จนมาจบที่ทำกาแฟขาย

“ปกติผมทานคีโต แล้วก็ชอบกินกาแฟอยู่แล้ว แต่การกินคีโตมันก็เป็นการกินเพื่อสุขภาพที่มีข้อจำกัดค่อนข้างเยอะ เลยตัดปัญหาซื้ออุปกรณ์ทำกาแฟมาทำกินเองไปเลย เลยพอมีอุปกรณ์กับพวกเมล็ดกาแฟเยอะพอสมควร ซึ่งเครื่องบดที่มีก็เปิดร้านได้เลย เลยคิดว่า ของเราก็มีอยู่ ทำไมเราไม่ทำร้านกาแฟไปเลยล่ะ เนี่ย เครื่องมันทำได้ 100 แก้วต่อวันเลยนะ แล้วผมก็คิดอยากทำร้านคาเฟ่เล็กๆ มานานแล้วด้วย แต่เจอโควิด-19 แพลนมันก็เลยไม่ได้เป็นจริง แต่ก็หาจังหวะมาตลอด”

“ก็เลยโอเค โอกาสมาแล้วต้องทำแล้วแหละ แต่ด้วยความที่ไม่อยากเสียค่าเช่าที่เพราะการลงทุนทำอะไรสักอย่างช่วงนี้มันก็เสี่ยงเนอะ ผมเลยนั่งคิดนอนคิดอยู่หลายตลบ ก็ปิ๊งว่า เรามีรถนี่ ลองทำแบบเปิดขายท้ายรถดูดีไหม ไปจอดขายที่ไหนก็ได้ สะดุดตาคนด้วยว่าเห้ย รถนี่มันขายอะไรนะ อะไรแบบนี้” คุณโนว เล่า

ด้วยความชำนาญที่มีจากการที่มักทำกาแฟทานเอง ผนวกกับการหาความรู้ในการปรับปรุงรสชาติจากยูทูบอย่างสม่ำเสมอ และมีแรงบันดาลใจในการทำตามความฝันแล้ว คุณโนวก็เริ่มลงมือทำเลยทันที โดยดัดแปลงท้ายรถเก๋งคู่ใจให้เป็นบาร์ชงน้ำเล็กๆ นำเครื่องชงกาแฟและอุปกรณ์เล็กๆ น้อยๆ ไปติดตั้ง ก็เกิดเป็นบาร์กาแฟเล็กๆ ท้ายรถ

“พอปรับปรุงท้ายรถเสร็จก็จอดขายหน้าบ้านก่อนครับ เพราะหน้าบ้าน ถ้าออกไปหน่อยก็จะเป็นถนนในหมู่บ้านที่เป็น 4 เลน มันน่าจะจอดขายได้ เลยเริ่มขายในหมู่บ้านมาตั้งแต่ตรุษจีน ก็ขายได้ 8 แก้วครับ เท่านี้ก็ดีใจแล้วเพราะเป็นก้าวแรกเนอะ แต่ก็เจอดราม่าเหมือนกันเพราะบางคนเขาก็ว่ามันไม่ควรมาทำอะไรแบบนี้ เราก็เข้าใจและขอโทษ แล้วก็ปรับใหม่ ย้ายมาขายในซอยย่อยใกล้บ้านกว่าเดิม มันก็คือหน้าบ้านเราเลยนี่แหละ แล้วก็มีร่มใหญ่ๆ 1 ตัว กางไว้ให้คนที่มารอซื้อยืนหลบแดด ก็ยอดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ครับ ตอนนี้ก็ขายมาได้ 2 เดือนกว่าแล้ว ยอด 20+ แก้วแทบทุกวัน พอเห็นแบบนี้ก็ไม่ออกแล้วข้างนอก ขายหน้าบ้านมันนี่แหละ” คุณโนว ว่าอย่างนั้น

นอกจากนี้ คุณโนว ยังบอกว่า ลูกค้ากว่า 90% เป็นคนในหมู่บ้าน เมื่อผลตอบรับออกมาดี ก็เริ่มขยับขยายจากขายท้ายรถเก๋ง มาเป็นขายในโรงจอดรถของบ้าน โดยปรับปรุงพื้นที่ ตกแต่งเป็นคาเฟ่เล็กๆ มีเก้าอี้พับเล็กๆ ให้ลูกค้านั่งทาน

“ตอนนี้ขายวันหนึ่งก็ประมาณ 30 แก้วได้ครับ ผมว่ามันพออยู่ได้สำหรับผมนะ เพราะค่าที่ค่าไฟไม่ได้เสีย มันเป็นพื้นที่บ้าน อีกอย่างสินค้าเราก็ไม่ได้แพงมาก เริ่มต้นก็ราคาทั่วไป 30, 35 บาท ผมเชื่ออย่างหนึ่งว่า ถ้าจะขายของเดี๋ยวนี้มันไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้านเป็นหลักแหล่ง ไม่ต้องรอให้มีความพร้อมมาก มันก็เริ่มได้และค่อยๆ เติมเสริมไปก็ได้ เราค่อยๆ ปรับตัวได้อยู่แล้ว แต่หลักๆ ที่ผมว่าสำคัญคือ เรารู้ว่าเรากำลังทำอะไร เพื่ออะไรต่างหากที่สำคัญ” คุณโนว ว่าอย่างนั้น

เผยแพร่เมื่อ วันเสาร์ที่ 26 มีนาคม 2565