อารีย์-สนามเป้า-สะพานควาย ทำเลทองเหมาะค้าขาย-เก็งกำไร

ย่านอารีย์ สนามเป้า สะพานควาย เป็นทำเลที่อยู่อาศัย ทำเลทองอีกจุดหนึ่งของกรุงเทพฯ ที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นที่อยู่อาศัยชั้นดีอีกแห่ง ซึ่งมีทั้งตระกูลเก่าแก่หรือผู้มีชื่อเสียงมีอันจะกินหลายๆ ตระกูลอาศัยอยู่ในย่านนี้ ไม่ว่าจะเป็น ชุณหะวัณ อดิเรกสาร ทัพพะรังสี เป็นต้น

นอกจากนี้ ในบริเวณดังกล่าวยังแวดล้อมด้วยสถานที่ราชการ ไม่ว่าจะเป็น กระทรวงการคลัง กรมสรรพากร กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือแม้แต่ค่ายทหาร และอีกหลายหน่วยงานที่ตั้งอยู่ย่านนี้ รวมทั้งยังเป็นที่ตั้งของอาคารสำนักงานอีกหลายแห่ง และที่สำคัญ อยู่ใกล้กับสถานีกลางบางซื่อ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการขนส่งแห่งใหม่ของประเทศในอนาคต

จึงส่งผลให้ที่ผ่านมามีผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์หลายรายเฮโลกันไปเปิดโครงการในย่านดังกล่าว โดยจากข้อมูลการสำรวจตลาดล่าสุดเมื่อเร็วๆ นี้ของ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ระบุว่า ทำเลสนามเป้า-อารีย์-สะพานควาย ยังเป็นที่นิยมของผู้บริโภค โดยพบว่า ในครึ่งปีแรกปี 2559 มีคอนโดมิเนียม จํานวน 2,184 ยูนิต สามารถระบายออกถึง 91 เปอร์เซ็นต์ โดยมีอัตราการขายเฉลี่ยสูงถึง 12 ยูนิต ต่อเดือน หากเป็นคอนโดฯ แนวสูง (High Rise) ในทําเลใกล้รถไฟฟ้า พบว่า เหลือขายเพียง 9 ยูนิต จาก 3 โครงการ และมีราคาขายเฉลี่ยที่ 160,000 บาท ต่อตารางเมตร ขณะที่คอนโดฯ แนวราบ (Low Rise) ซึ่งสูงไม่เกิน 8 ชั้น เหลือขาย 197 ยูนิต จาก 12 โครงการ มีราคาขายเฉลี่ย 102,000 บาท ต่อตารางเมตร

สะท้อนให้เห็นว่า ทําเลดังกล่าวมีความต้องการของลูกค้าค่อนข้างสูงและต่อเนื่อง โดยเฉพาะคอนโดฯ แนวสูงใกล้รถไฟฟ้า และในช่วงครึ่งปีหลังมีซัพพลายจากโครงการที่จะเปิดตัวใหม่เข้าสู่ตลาดเพียง 2 โครงการ จำนวน 1,371 ยูนิต ราคาเปิดตัวเฉลี่ยขยับสูงขึ้นถึง 160,000-170,000 บาท ต่อตารางเมตร เป็นผลจากที่ปัจจุบันที่ดินใกล้สถานีรถไฟฟ้าสำหรับก่อสร้างโครงการใหม่ในย่านนี้แทบหาไม่ได้แล้ว หรืออาจซื้อได้ในราคาสูงมาก ทำให้ความนิยมขยายไปสู่ที่ดินตามถนนสายรอง หรือที่ต้องเข้าซอยไปเล็กน้อย แต่ยังถือว่าอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่ย่านดังกล่าวเป็นที่นิยมเพราะการเดินทางที่สะดวก อีกทั้งเป็นช่วงต้นๆ ของถนนพหลโยธิน และมีสถานีรถไฟฟ้าอยู่ 3-4 สถานีคือ สนามเป้า อารีย์ สะพานควาย นับเป็นจุดสำคัญจุดหนึ่งของกรุงเทพฯ จากปัจจัยหนุนที่กล่าวมาข้างต้น ซึ่งยังไม่นับรวมถึงเส้นทางคมนาคมทางบกคือ ถนนที่สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนเส้นอื่นอีกหลายสาย เช่น ทางด่วน ถนนวิภาวดีรังสิต ถนนพระราม 6 เป็นต้น และที่สำคัญ อยู่ใกล้ปอดกรุงเทพฯ หรือสวนสาธารณะอีก 2-3 แห่ง เช่น สวนจตุจักร สวนรถไฟ และสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ

ด้วยศักยภาพดังกล่าวจึงทำให้เป็นที่สนใจของผู้ประกอบการและประชาชนเข้าไปใช้บริการในพื้นที่ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก โดยจากสถิติข้อมูลประชากร ณ สิ้นปี 2558 ในพื้นที่ใกล้เคียงกับย่านนี้มีประชากรอาศัยอยู่ไม่น้อยกว่า 400,000 คน ไม่รวมถึงประชาชนที่เข้ามาทำงานในย่านนี้และผู้ที่มาติดต่อส่วนราชการเดินทางไปกลับอีกจำนวนมากเช่นกัน

จากข้อมูลของสำนักงานเขตพญาไทล่าสุด ระบุว่า ย่านสะพานควาย ซอยอารีย์ ซอยลือชา หลังกระทรวงการคลัง เป็นต้น มีข้อมูลทางเศรษฐกิจ ระบุว่า มีอาคารสูงอยู่ 50 แห่ง ร้านอาหารและภัตตาคาร 250 แห่ง ธนาคารพาณิชย์ 35 แห่ง จุดผ่อนผันให้ทำการค้าได้ชั่วคราว 33 แห่ง โรงแรม 18 แห่ง โรงภาพยนตร์ 1 แห่ง ศูนย์การค้า 2 แห่ง ตลาดเอกชน 2 แห่ง มินิมาร์ท 61 แห่ง อู่ซ่อมรถ 35 แห่ง สถานีรถไฟฟ้า 3 แห่ง และสถานีบริการน้ำมัน 13 แห่ง

คุณสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยและพัฒนา คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) กล่าวว่า ถนนพหลโยธินช่วงสนามเป้า อารีย์ สะพานควาย มีที่อยู่อาศัยและอาคารสำนักงานจำนวนมาก จัดว่าเป็นทำเลทองไม่น้อยหน้าเขตศูนย์กลางธุรกิจ (ซีบีดี) ชั้นใน (สีลม เพลินจิต สุขุมวิท) โดยธุรกิจที่เหมาะกับทำเลนี้คือ ร้านอาหาร ซึ่งจะมีกำลังซื้อของชนชั้นกลางคือ ตั้งแต่ระดับบีขึ้นไปรองรับอยู่ อีกทั้งจะมีปัจจัยบวกจากอาคารสำนักงานใหม่ที่จะผุดขึ้นในย่านนี้อีก 3 แห่ง ได้แก่ อาคารสำนักงานของบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท ซึ่งคาดว่าจะเสร็จในเร็วๆ นี้ อาคารชินวัตร 4 และอาคารอารีย์ ฮิลล์ ขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดว่าจะเปิดให้บริการภายในปี 2561 ทำให้จะมีกำลังซื้อจากบริษัทที่จะย้ายเข้ามาตั้งสำนักงานอีกไม่ต่ำกว่า 5,000-6,000 คน

จากข้อมูลข้างต้นพอจะเป็นคำตอบให้กับผู้ที่สนใจเข้าไปทำธุรกิจในย่านนี้กันได้บ้างว่า ควรเข้าไปทำธุรกิจประเภทไหนอย่างไร หรือหากยังไม่มั่นใจพอที่จะทำธุรกิจก็ไม่เป็นไร เพราะหากมีเงินเหลือเฟือก็ลองชิมลางการเป็นนักลงทุนกันไปพลางๆ ก่อนก็ได้ด้วยการซื้อที่อยู่อาศัยหรือคอนโดฯ มาปล่อยเช่าต่อก็ดีไม่น้อย เพราะนอกจากได้ผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยและอัตราเงินเฟ้อแล้ว ราคาทรัพย์สินในย่านนี้ก็มีแต่จะขยับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะซื้ออยู่เอง ปล่อยเช่า หรือขายต่อก็ไม่ขาดทุนแน่นอน

เพราะหากย้อนกลับช่วง 5-6 ปีก่อนหน้า คอนโดฯ แนวสูงย่านสนามเป้า-อารีย์-สะพานควาย มีราคาเฉลี่ยเปิดตัวอยู่ที่ 90,000-100,000 บาท ต่อตารางเมตร ปัจจุบันราคาเฉลี่ยขยับสูงถึง 140,000-150,000 บาท ต่อตารางเมตร หรือมีราคาขายต่อได้ผลตอบแทนถึง 50-60 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ ยังเป็นทำเลที่มีการอยู่อาศัยหนาแน่น 80-90 เปอร์เซ็นต์ และเป็นที่สนใจของผู้เช่า โดยจากข้อมูลบริหารการปล่อยเช่าคอนโดฯ ของพลัส พร็อพเพอร์ตี้ ระบุว่า ซัพพลายในย่านนี้ปล่อยเช่าในราคาเฉลี่ย 570 บาท ต่อตารางเมตร โดยห้องขนาด 30 ตารางเมตร มีค่าเช่าต่อเดือนที่ 17,000 บาท ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึง 5-7 เปอร์เซ็นต์ ต่อปี

ขณะที่ราคาที่ดินรอบสถานีรถไฟฟ้าสนามเป้า-อารีย์-สะพานควาย ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5-25 เปอร์เซ็นต์ ต่อปี ทั้งนี้ หากโครงการเมกะโปรเจ็กต์ สถานีอินเตอร์เชนจ์ บางซื่อ ทั้งหมดก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ และเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ จะส่งผลให้ราคาที่ดินพุ่งสูงขึ้นอีกมาก ดังนั้น คอนโดฯ ในทำเลนี้จึงเหมาะจะซื้อเพื่อลงทุน หรือเก็บ เพราะมีมูลค่าเพิ่มในอนาคต

รู้แล้วก็อย่าลังเล!