เก๋ไปอีก! ล็อตเตอรี่ติดล้อ เสิร์ฟความรวย “เดลิเวอรี่”

เป็นที่รู้จักกันทั้งจังหวัดพิษณุโลกสำหรับ “เจ้เล็กล็อตเตอรี่ติดล้อ”หรือ คุณนภัสวรรณ  ปรีดากุล หญิงวัย 63 ปี เจ้าของร้านอุดมโชคสยามขายสลากกินแบ่งรัฐบาลรายใหญ่ที่สุดในจังหวัดนี้อีกหนึ่งไอเดียที่นำรถมาดัดแปลงให้เป็น “หน้าร้าน”นักธุรกิจอิสระที่มีเงินหมุนเวียนต่อเดือนหลายสิบล้านบาท

kk

มารับช่วงต่อธุรกิจ
ขึ้นแท่นยี่ปั๊วรายใหญ่

คุณนภัสวรรณ  ปรีดากุล  หรือ เจ้เล็ก เธอเล่าว่า พื้นเพเป็นคนจังหวัดพิษณุโลก เกิดและเติบโตขึ้นท่ามกลางครอบครัวคนจีนที่มีอาชีพค้าขายล็อตเตอรี่ แต่ด้วยความที่อยากรวยด้วยลำแข้งตัวเองหันไปขายปุ๋ยและเปิดวินรถตู้ ปรากฏว่าโดนโกงหนที่สุดกลับมาสานต่อธุรกิจครอบครัวพร้อมทั้งต่อยอดกิจการด้วยการสร้างหน้าร้านที่มีจุดเด่นไม่เหมือนใคร

เจ้เล็กทำธุรกิจส่วนตัวอยู่นานนับ 10 ปี เมื่อไม่ประสบความสำเร็จ ประกอบกับทางบ้านจูงใจอยากให้กลับมาช่วยขายล็อตเตอรี่เพราะเป็นงานสบาย หวยชุดได้เปอร์เซ็นต์ใบละ 1 บาท หวยเล่มใบละ 25 บาท แต่ละเดือนขายล็อตเตอรี่ 3,000 ใบ ก็ได้ราวๆ 3,000 – 4,000 บาท ในที่สุดเจ้เล็กก็เลือกกลับมาทำงานที่บ้าน

“ดิฉันเข้ามารับช่วงขายสลากกินแบ่งรัฐบาลต่อจากรุ่นพ่อแม่ที่ขายมานานกว่า 50  ปี ราว พ.ศ. 2535 ซึ่งที่บ้านจะเป็นยี่ปั๊วไปรับล็อตเตอรี่ที่สำนักงานกินแบ่งรัฐบาล จากนั้นมาจำหน่ายกินเปอร์เซ็นต์ ย้อนกลับไป 21 ปีที่แล้วสมัยนั้นหวยชุดใบละ 70 บาท แต่ละงวดรับมาขาย 1 แสนใบ ที่บ้านนับเป็นยี่ปั๊วรายใหญ่ที่สุดในจังหวัดพิษณุโลก”

15871368_1614267035267062_1380239372_n

ในอดีตที่บ้านเจ้เล็กใช้วิธีขายล็อตเตอรี่ลักษณะตั้งโต๊ะรอให้ลูกค้าเข้ามาซื้อ พอหญิงสาวเข้ามาดำเนินธุรกิจต่อ เธอเริ่มเห็นจุดอ่อนการค้าขายรูปแบบนี้ว่าไม่ตอบสนองความต้องการลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงคู่แข่งที่เพิ่มขึ้น

“เดิมพ่อกับแม่เป็นเพียงยี่ปั๊วรับล็อตเตอรี่มาตั้งโต๊ะขาย ดิฉันเกิดความคิดว่าอยากหาเครือข่ายประกอบกับอยากประชาสัมพันธ์ร้านให้เป็นที่รู้จักของลูกค้าจังหวัดใกล้เคียง เลยนำรถบรรทุกขนาดเล็กมาดัดแปลงเป็นรถเคลื่อนที่ พร้อมประดิษฐ์ชั้นวางของไว้สำหรับวางขายสินค้าหลากหลายประเภท รวมถึงติดตั้งระบบไฟฟ้าเพิ่ม”

ขายแบบเดิมกลัวร่วง
เปลี่ยนโฉม ไฉไลกว่าเดิม 

สำหรับจุดเด่นรถดัดแปลงคันนี้ คือ ภายนอกมีรูปสลากกินแบ่งรัฐบาลทำให้สะดุดตาจากรถคันอื่นๆ เป็นที่รับรู้ว่านี่คือรถจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเคลื่อนที่ ซึ่งมูลค่ารถ รวมค่ารถยนต์ ค่าทำสี ค่าตกแต่ง ทำชั้นวางของ ทั้งคันเบ็ดเสร็จรวมแล้วราคา 700,000 บาท

ปลายปี 2554 ที่เจ้เล็กหันมาใช้รถดัดแปลงเป็นหน้าร้าน ลูกค้าต่างตั้งฉายาให้ว่า “ล็อตเตอรี่ติดล้อ”เนื่องจากอำนวยความสะดวกให้ผู้ซื้อด้วยการตระเวนขับรถดัดแปลงดังกล่าวขายสลากกินแบ่งถึงมือในลักษณะเดลิเวอรี่ตามจังหวัดต่างๆ เช่น พิษณุโลก สุโขทัย ตาก พิจิตร เป็นต้น

h

“ดิฉันมองว่ารูปแบบรถดูดี ล็อตเตอรี่ก็มีจำนวนมาก ทั้งหวยชุด หวยเล่ม สิ่งเหล่านี้ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้ลูกค้าที่ต้องการจะมาเป็นเครือข่ายรับสลากกินแบ่งรัฐบาลไปจำหน่ายต่อ เนื่องจากแต่ละงวดทางร้านจะรับล็อตเตอรี่เป็นจำนวนเงิน 7-8 ล้านบาท หากจำหน่ายไม่หมดต้องแบกรับภาระเอง ฉะนั้นเพื่อกระจายความเสี่ยงดังกล่าวเลือกที่จะหาลูกทีม”

สำหรับเครือข่ายเจ้เล็กปัจจุบันมีประมาณ 400 คนกระจายทั่วประเทศไทย แต่กว่าจะลงตัวเฉกเช่นวันนี้ เจ้าของธุรกิจเผยว่า เคยขาดทุน 17 ล้านบาท เนื่องจากไว้ใจทีมงานไม่ต้องจ่ายเงินสด ขณะนี้ยังเป็นคดีขึ้นศาลฟ้องร้องกันอยู่

หลายคนมีคำถามว่าทำไมสลากกินแบ่งมักขายเกินราคา เจ้าของกิจการล็อตเตอรี่เงินล้าน ให้คำตอบว่า พวกพ่อค้าคนกลางมักโก่งขึ้นราคากันเอง รวมถึงยี่ปั๊วที่ปล่อยล็อตเตอรี่ราคาสูงให้บรรดารายย่อย เลยทำให้ราคาขายปลีกสูงตาม

คนดวงดีซื้อยังไงก็ถูก
อย่างมงายเสี่ยงโชคอย่างเดียว 

นอกจากอาชีพขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ยังมีอาชีพรับซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลโควต้า แล้วนำขายต่อให้ผู้ขายรายย่อยอีกที ซึ่ง “รับซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลโควต้า” คือ ผู้ที่สามารถซื้อล็อตเตอร์รี่จากกองฉลากโดยตรงเมื่อขายไม่หมดสามารถนำไปคือกองสลากได้ แตกต่างจากผู้ค้ารายย่อยที่ไม่สามารถคืนได้ ส่วน “ยี่ปั๊ว” คือ บริษัทใหญ่ที่ได้รับโควตาหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าผู้ขายส่ง

สำหรับกระบวนการรับสลากมาขาย เจ้เล็กอธิบายคร่าวๆ ว่า ลำดับแรกต้องไปขึ้นทะเบียนกับกองสลากยื่นเอกสารบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน จากนั้นเจ้าหน้าที่จะคัดกรองคุณสมบัติว่าเหมาะสมหรือไม่ จากนั้นจะจัดสรรจำนวนล็อตเตอรี่แต่ละงวดให้ไปจำหน่าย

15870695_1614267085267057_1324041293_n

เจ้เล็กขายล็อตเตอรี่จวบจนถึงทุกวันนี้ก็ 23 ปีแล้ว เธอบอกว่า เคยมีลูกค้าซื้อถูกรางวัลที่ 1 รวมถึงถูกรางวัลอื่นๆ มานับไม่ถ้วน ทั้งนี้ขึ้นอยู่ที่โชค ที่ดวง บางคนซื้อไม่เคยถูก บางคนซื้อครั้งเดียวถูกรางวัลเลยก็มี ฉะนั้นไม่อยากให้งมงาย หรือเอาแต่เสี่ยงโชคอย่างเดียว เนื่องจากการพนันไม่ได้ทำให้ใครรวยอย่างยั่งยืน

เส้นทางเศรษฐีเชื่อว่าเมื่อสังคมผ่านการพัฒนา การใช้ชีวิตของคนเปลี่ยนแปลงไป “รถดัดแปลง” นับเป็นรูปแบบการทำธุรกิจที่กำลังเป็นปรากฏการณ์ได้การยอมรับ ให้ธุรกิจติดล้อทำเงินไปได้ทุกที่