ผู้เขียน | เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
เปิดใจ! เฮลท์ลีด ธุรกิจร้านขายยา – นวัตกรรมเพื่อสุขภาพ กับ การเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นรายแรก ในวงการธุรกิจยา
เรียกได้ว่าสร้างเสียงฮือฮาได้เป็นอย่างมาก สำหรับ เฮลท์ลีด ธุรกิจร้านขายยาและนวัตกรรมเพื่อสุขภาพ ที่ดำเนินกิจการมากว่า 4 ปี และมีการเติบโตจนสามารถเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เป็นรายแรกของวงการธุรกิจร้านยา
เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ มีโอกาสได้สัมภาษณ์ เภสัชกรธัชพล ชลวัฒนสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฮลท์ลีด จำกัด (มหาชน) หรือ คุณเจ เกี่ยวกับการเติบโตของธุรกิจดังกล่าว คุณเจ เท้าความให้ฟังว่า โดยส่วนตัวแล้วชอบเรียนวิชาเคมีมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมปลายและเลือกเรียนในคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เมื่อจบมาก็เข้าทำงานในแผนกเภสัชกรรม ของโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ทำได้ 5 ปี ก็ได้เลื่อนขั้นขึ้นมาเป็นหัวหน้าคลังยา จึงทำให้คุณเจ มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบยาในกรุงเทพฯ อยู่พอสมควร 1 ปีให้หลังก็ได้ลาออกเข้าทำงานที่ Pharmax และหลังจากนั้นได้ชวนให้ คุณมัทยา หรือ เภสัชกรหญิงมัทยา พันธุกานนท์ ผู้ก่อตั้งบริษัท เฮลท์ลีด จำกัด (มหาชน) เข้ามาซื้อหุ้นและร่วมงานกัน
ต่อมาทั้งคู่ได้ร่วมถือหุ้น โดยบริษัท เฮลท์ลีด จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 100% ในบริษัท ไอแคร์เฮลท์ จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจร้านขายยา-จำหน่าย เวชภัณฑ์ เวชสำอาง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร อุปกรณ์การแพทย์ และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพต่างๆ รวมกว่า 10,000 รายการ ผ่านร้านขายยา 4 แบรนด์ ได้แก่ “iCare” “Pharmax” “vitaminclub” และ “Super Drug”
และถือหุ้นร้อยละ 100.00 ในบริษัท เฮลทิเนส จำกัด (“เฮลทิเนส”) ซึ่งประกอบธุรกิจคิดค้น พัฒนา และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมเพื่อสุขภาพ ภายใต้แบรนด์ “PRIME” และ “Besuto” ซึ่งทั้งคู่และผู้บริหารท่านอื่นๆ ก็ได้นำเฮลท์ลีด เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้สำเร็จในที่สุด
“หลังนำเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว ผลตอบรับค่อนข้างดีครับ ในแง่ของการลงทุน เพราะมีนักลงทุนมีความสนใจเข้ามาถามอยู่ตลอด ซึ่งธุรกิจร้านขายยา ก็ถือเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มที่กำลังมาแรง อีกทั้งเข้ากับสถานการณ์ด้วย ทางเราก็ดีใจที่คนสนใจ และอีกมุมก็ต้องพยายามทำงานให้สมกับความคาดหวังของทุกคน” คุณเจ กล่าว
ถามถึงสถานการณ์ร้านขายยากับผลกระทบในช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่กำลังระบาด คุณเจ กล่าวว่า ร้านขายยาก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ด้วย คือทำยังไงให้คนในอย่างเภสัชกรร้านไม่ป่วย เพราะถ้ามีการติดเชื้อเกิดขึ้นจะมีความยุ่งยากมาก อีกทั้งร้านยา จะต้องเป็นที่ที่ลูกค้ายังต้องเข้ามาใช้ได้อยู่ จึงต้องมีมาตรการที่เข้มงวดขึ้น
คุณเจ ยังกล่าวอีกว่า โชคดีที่ทางเฮลท์ลีด มีเจลไร้แอลกอฮอล์อย่าง เบซูโตะ ทเวลฟ์ (Besuto 12) และเมาท์สเปรย์ (Besuto Mouth Spray) ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่มีการวิจัยมาก่อนหน้าและทำขึ้นเพื่อใช้กับกลุ่มผู้ที่เป็น RSV ที่ระบาดในเด็กเล็ก
“โชคดีที่เรามีเจลและเมาท์สเปรย์ ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่มีการวิจัยมาก่อนหน้านี้ ที่ทำขึ้นเพื่อใช้กับกลุ่ม RSV มือเท้าปาก ซึ่งจริงๆ ลูกสาวผมก็เป็น ซึ่งเด็กเล็กๆ ล้างมือตลอดก็ไม่ได้ ณ ตอนนั้น วัคซีนก็ไม่มี ยาก็ไม่มี มันเหมือนต้องให้หายไปเอง แล้วพอป่วยทีก็มีปัญหาเรื่องปอด เราก็เลยไปเจองานวิจัยชิ้นนี้ เลยเอามาต่อยอดในหลายๆ อย่าง ทดสอบกันจริงๆ เลย และช่วงที่เราทำการทดสอบพัฒนาสูตร ก็มาเจอโควิด-19 พอดี ซึ่งมันเป็นไวรัสเหมือนกัน มีจัดแล็บทดสอบจริงๆ เลย ปรากฏว่ามันฆ่าเชื้อได้จริง ก็เลยเป็นที่มาว่าทำไมเราถึงเอามาใช้กับโควิด มันก็ตอบโจทย์พอดี”
“ซึ่งตัวเบซูโตะเป็นเจลเคลือบ เราถือเป็นเจ้าแรกที่แทบจะเรียกว่าของโลกเลยที่ทำออกมาเป็นรูปแบบนี้ ที่อยู่ได้ประมาณ 12 ชั่วโมงหากยังไม่ได้ล้างมือด้วยสบู่ และเมาท์สเปรย์เราก็ฆ่าเชื้อได้เช่นกันและผ่านการทดสอบแล้ว จนทำขายเชิงพานิชย์ได้ ถือเป็นนวัตกรรมที่เป็นสิทธิบัตรของเรา ซึ่งในอนาคต ก็จะต่อยอดออกมาเป็นซีรีส์ และนวัตกรรมเครื่องมือแพทย์ด้วย แต่ก็ยังบอกไม่ได้ว่าออกมาช่วงไหน ซึ่งเรามีสถาบันวิจัยซัพพอร์ต และทดสอบกับเชื้อจริงๆ เลยทำได้เพราะร่วมกันพัฒนา แล้วเฮลท์ลีดเราก็วางแผนจะไปตลาดต่างประเทศ อย่าง จีน ยุโรป และอเมริกา เพราะเขาก็มีความต้องการในเรื่องพวกนี้ ซึ่งก็ต้องพัฒนาทดสอบให้ผ่านมาตรฐานของประเทศนั้นๆ กันอยู่ครับ” คุณเจ ว่าอย่างนั้น
นอกจากนั้น เฮลท์ลีด ยังมีแบรนด์อาหารเสริม ชื่อว่า ไพร์ม (PRIME) ซึ่งแนวโน้มอาหารเสริมมีการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เฮลท์ลีดจึงได้หยิบผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้เข้ามา ผนวกกับฐานข้อมูลที่จะมีการบอกว่า เฮลท์ลีดต้องใช้หรือนำนวัตกรรมตัวใดมาช่วยผลิตอาหารเสริมป้อนเข้าตลาด ให้ตอบโจทย์กับความต้องการของลูกค้า
“จริงๆ ธุรกิจยา การจะทำให้มันดำเนินกิจการไปได้ยาว หนึ่งก็คือต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีกับซัพพลายเออร์ แล้วก็ต้องมีมาตรฐานวิชาชีพ เป็นส่วนหนึ่งของชุมชน และมีมาตรฐาน แต่เราอยากได้ระบบจัดซื้อและระบบคลังที่แข็งแรง คือการขยายสาขาไปเยอะๆ ถ้าหลังไม่แข็งแรง ยังไงมันก็มีสะดุด”
“เรามีการคุยกันว่า อยากให้ธุรกิจมันอยู่ได้ยั่งยืน คือเราอยากทำสิ่งที่ดี แต่สิ่งที่ดีมันจะอยู่ได้ยั่งยืน มันก็ต้องทำให้เป็นระบบเลย การเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็เป็นส่วนหนึ่ง เราอยากเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน เพื่อที่ว่าเขาจะได้ไม่ต้องวิ่งไปซื้อไกลๆ การขยายสาขาก็เป็นส่วนหนึ่งเพื่อให้เข้าถึงชุมชนมากขึ้น และสินค้านวัตกรรมต่างๆ เราก็อยากพาเขากระจายให้ทั่วประเทศและพาไปเวทีโลกให้ได้” คุณเจ กล่าวทิ้งท้าย
สนใจสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ ได้ที่ เว็บไซต์ Healthlead