“ยักษ์ยิ้ม” เสื้อผ้าไซซ์จัมโบ้ ผู้ชายใส่แล้วอารมณ์ดี

ไม่ใช่แต่ผู้หญิงจ้ำม่ำเท่านั้นที่ต้องการเสื้อผ้า เครื่องประดับ หรือแอกเซสซอรี่ สวยๆ ไซซ์พอดีๆ มาประดับเรือนร่างเพื่อเพิ่มความมั่นใจ ทว่าผู้ชายไซซ์ใหญ่ก็มีความปรารถนาจะลดอาการประหม่านั้นเช่นกัน  ฉะนั้น จึงเกิดแบรนด์ “ยักษ์ยิ้ม” ขึ้นมา เครื่องแต่งกายสำหรับผู้ชายเจ้าเนื้อ ใส่แล้วอารมณ์ดี เจาะกลุ่มผู้ชายขี้อายที่ชอบซื้อของออนไลน์

4

 จากสาวออฟฟิศ
โดดลงธุรกิจเสื้อผ้า

คุณพรพรรณ ธนสารสุทธิพงษ์ หรือ คุณเก่ง เธอจบคณะวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาเคมี มศว ประสานมิตร ทำงานแผนกวงจรไฟฟ้าโรงงานแห่งหนึ่งนาน 18 ปี เริ่มรู้สึกว่าอิ่มตัว ประกอบกับองค์กรเริ่มเกิดปัญหา จึงลาออกมาทำธุรกิจส่วนตัวด้านเสื้อผ้า ทั้งๆ ที่ไม่มีความรู้ด้านการออกแบบและการตลาด กว่าจะประสบความสำเร็จได้ ต้องล้มลุกคลุกคลานหลายหน ประสบปัญหาขาดทุนก็เยอะ แต่ด้วยความมุ่งมั่น กัดไม่ปล่อย จนสุดท้าย ก็ได้กลายเป็นผู้ผลิตเสื้อผ้าที่ตอบโจทย์ผู้ชายไซซ์จัมโบ้ ทั้งเรื่องของขนาด ลวดลาย คุณภาพเนื้อผ้า

คุณเก่งลาออกจากงานเมื่อปี 2555 เธอเล่าว่า ด้วยความที่เป็นผู้หญิงชอบงานฝีมือ เลยไปเรียนงานแฮนด์เมดหลายอย่าง อาทิ ร้อยลูกปัด ร้อยสร้อย งานควิลต์ (เย็บผ้าสไตล์ญี่ปุ่น) การเย็บกระเป๋า การเย็บผ้า จากนั้นลองทำและลองขายทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์อีเบย์ แล้วก็พบว่าเสื้อผ้าเป็นสิ่งที่ถนัด และสามารถทำรายได้ให้มากที่สุด ส่วนกระเป๋าผ้าที่เย็บด้วยมือ รายละเอียดค่อนข้างเยอะ กว่าจะจำหน่ายได้ใช้เวลาค่อนข้างนาน

แม้เสื้อผ้าจะเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการสาวถนัด แต่หลายครั้งเธอต้องประสบกับความล้มเหลว

“เก่งเลือกที่จะจำหน่ายเสื้อผ้าผู้ชายไซซ์ใหญ่ เพราะได้แรงบันดาลใจจากเพื่อนสนิทที่มีรูปร่างอ้วน  ขณะเดียวกัน  ในตลาดเสื้อผ้าผู้ชายไซซ์ใหญ่ก็หาซื้อค่อนข้างยาก เลยมองเป็นโอกาสทำธุรกิจ”

ในเบื้องต้น หญิงสาวตัดเย็บเสื้อผ้าไซซ์บิ๊กเองทั้งหมด แต่ทว่าดีไซน์ไม่ถูกใจลูกค้า เลยเปลี่ยนวิธีไปรับซื้อเสื้อจากโรงงานมาขาย แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จอีก เนื่องจากขนาดไม่ได้มาตรฐาน เนื้อผ้าด้อยคุณภาพ คราวนี้เรียกว่าแทบจะจำหน่ายไม่ได้เลย

3

ลองผิดลองถูก 3 ปี
กว่ากิจการจะเข้าที่

คุณเก่ง บอกเพิ่มเติมว่า รูปแบบเสื้อผ้าที่ทำเองไม่ดึงดูดลูกค้าเลย ไซซ์ก็ไม่ได้มาตรฐาน แก้ปัญหาด้วยการไปจ้างโรงงานผลิต แต่ก็ไม่มีใครรับทำ เนื่องจากสั่งจำนวนน้อย อาศัยว่าไม่ถอดใจ เรียนรู้ตลาดไปเรื่อยๆ สังเกตว่าแบบไหนขายได้ แบบไหนขายไม่ได้ ประกอบกับจ้างดีไซเนอร์มาร่วมออกแบบ ไปศึกษาตลาดเสื้อผ้าอย่างจริงจัง เรียนรู้ไปกับลูกค้าชนิดว่าเกือบ 3 ปีกว่าจะเป็นที่รู้จัก

“เก่งลงทุนธุรกิจเสื้อผ้าราว 300,000 บาท แรกๆ ประสบกับคำว่าขาดทุนตลอด เพราะแบบเสื้อเหมือนกับเสื้อโหล ทำให้สินค้าค้างสต๊อก ไปรับเสื้อโหลจากโรงงานมาขายก็ไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากขนาดไม่ได้มาตรฐาน คนไม่รู้จักแบรนด์ สุดท้ายต้องขอบคุณลูกค้าที่แนะนำเทคนิค สำหรับการดีไซน์เสื้อให้หนุ่มบิ๊กไซซ์ดูหุ่นเพรียวขึ้น ค่อยๆ เรียนรู้ไปกับลูกค้า”

เกือบ 3 ปีกว่ายักษ์ยิ้มจะเริ่มมีคนรู้จัก สำหรับสไตล์เสื้อผ้า เจ้าของกิจการ ระบุว่า เป็นสไตล์ชุดลำลอง ใส่สบายๆ  ไม่เป็นทางการมากนัก เน้นไปทางแฟชั่นด้วยซ้ำ อาทิ เสื้อเชิ้ต ชุดนอน กางเกงสแล็ก กางเกงขา 3 ส่วน และกางเกงยีนส์ ปัจจุบัน 70 เปอร์เซ็นต์ ของสินค้าจะออกแบบเองแต่จ้างผลิต อีก 30 เปอร์เซ็นต์ ออกแบบตัดเย็บเอง

เสื้อที่จะทำให้หนุ่มไซซ์บิ๊กดูเพรียวขึ้น เช่น แบบเสื้อต้องพอดีตัว แขนเสื้อควรพอดีกับข้อศอก ตัวเสื้อยาวคลุมช่วงสะโพก สวมใส่สบายและมีความเป็นแฟชั่น รอบอกเริ่มต้น 52-64 นิ้ว

2

 ลูกค้าอ้วนเทใจให้
แฟชั่นจ๋า ใส่ไม่เชย

ด้านกลุ่มลูกค้า แน่นอนว่าเป็นผู้ชายไซซ์พี่บิ๊ก แต่ที่น่าแปลกใจเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ สั่งซื้อทางออนไลน์

คุณเก่ง ให้ข้อมูลว่า ทุกวันนี้ยังไม่มีหน้าร้าน มีไปออกบู๊ธกับขายทางเฟซบุ๊ก ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่มักสั่งซื้อทางออนไลน์ เหตุผลส่วนตัวมองว่าผู้ชายอ้วนมักเกิดความประหม่าไม่มั่นใจ รวมถึงเขินอายเวลาไปช็อปเสื้อผ้าไซซ์ใหญ่ หรือต้องไปเลือกซื้อเสื้อผ้าต่อหน้าคนจำนวนมาก เลยเลือกช็อปออนไลน์ อาศัยดูจากนายแบบ

“ยักษ์ยิ้มฉีกตลาดแฟชั่นบิ๊กไซซ์มาที่ผู้ชาย ขณะที่ส่วนใหญ่มุ่งไปที่ผู้หญิง อีกทั้งดีไซน์ตอบโจทย์ทั้งความเป็นแฟชั่น ใส่สบาย ใส่แล้วดูเพรียวกระชับ คิดว่าจะแย่งส่วนแบ่งตลาดเสื้อผ้าคนอ้วนที่นำเข้าจากฮ่องกง จีน ญี่ปุ่น และเกาหลี”

แบรนด์ยักษ์ยิ้มเน้นเรื่องดีไซน์ ต้องมีความเป็นแฟชั่น ขณะเดียวกัน ต้องสวมใส่สะดวกสบาย ปัจจุบัน ลูกค้าเกือบ 50 เปอร์เซ็นต์ที่ซื้อสินค้า จะกลับมาซื้อซ้ำ

ทุกวันนี้ ยักษ์ยิ้มไม่มีหน้าร้าน สร้างการรับรู้ของแบรนด์ผ่านเพียงโซเชียลมีเดีย เจ้าของเชื่อว่านับเป็นทางเลือกที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และลดต้นทุนความเสี่ยงมากที่สุด

8

“เพื่อลดภาระต้นทุนด้านค่าเช่า ค่าพนักงาน เก่งคงไม่เปิดหน้าร้าน แต่จะหันมาออกบู๊ธตามงานแฟร์ หรือตลาดนัด เพราะขนาดเสื้อผ้าไซซ์นี้ ลูกค้าคงไม่เดินทางมาร้านเพื่อซื้อสินค้าบ่อยๆ แต่จะเน้นสื่อออนไลน์มากกว่า สามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนกับลูกค้าได้เช่นกัน”

นอกจากให้ความสำคัญกับการอัพเดตข้อมูลในโซเชียลมีเดีย เพื่อสร้างให้แบรนด์เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ในอนาคตคุณเก่งจะขยายและแตกไลน์สินค้าเพิ่มเสื้อสูท ชุดชั้นใน ผ้าพันคอ เข็มขัด รองเท้า ครีเอตคอลเล็กชั่นให้มากขึ้น จัดกิจกรรม เช่น เดินแบบเช่นเดียวกับแฟชั่นเสื้อผ้าไซซ์ปกติให้ครอบคลุมความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้ชายกลุ่มนี้อย่างครบวงจร