ผู้เขียน | เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
จากร้านอาหาร ต่อยอด เปิด ร้านกาแฟ The Summer Coffee Company ทำเอง คั่วเอง แลนด์มาร์ก อยุธยา ใครไปใครมาก็ต้องแวะ!
เป็นเวลา 2 ปีกว่าแล้ว ที่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อหลายๆ อย่าง รวมถึงภาคธุรกิจ ที่ไม่ว่าจะเล็กใหญ่ เรียกว่าได้รับผลกระทบกันทั้งสิ้น แต่ก็มีธุรกิจอีกไม่น้อย ที่เติบโตได้ ซึ่ง The Summer Coffee Company เอง ถือเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ยังไปได้สวยแม้จะอยู่ท่ามกลางวิกฤตที่เกิดขึ้น
คุณโน๊ต-ชุติมา อนันรยา Co-founder ร้าน The Summer Coffee Company วัย 33 ปี เล่าให้ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ฟังว่า ก่อนที่จะมาทำร้านกาแฟ แรกเริ่มเดิมทีธุรกิจตั้งต้นก็คือ ร้านอาหาร ที่สร้างขึ้นบนบ้านพักตากอากาศในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยใช้ชื่อว่า The Summer House ซึ่งเปิดมาได้ 5 ปีแล้ว
กระทั่ง 2-3 ปีให้หลังจากที่ทำร้านอาหาร คุณโน๊ตเริ่มมีความสนใจในเรื่องของกาแฟและการทำโรงคั่ว จึงมีการศึกษาหาข้อมูล โดยตั้งทีมขึ้นมาอย่างจริงจัง และมีการติดต่อรับซื้อเมล็ดกาแฟจากเกษตรกรโดยตรง จนไปเจอกับเมล็ดพันธุ์กาแฟดีๆ มากมาย จึงตัดสินใจเปิด The Summer Coffee Company ขึ้น เพื่อนำมาคั่วและผลิตส่งเข้าร้าน รวมถึงผลิตป้อนร้านกาแฟต่างๆ
อีกทั้งในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา ทุกคนต่างก็ต้อง Work From Home คอกาแฟที่ไม่สามารถเดินทางออกไปที่ร้านได้ จึงตัดสินใจหันมาบุกตลาดออนไลน์อย่างจริงจัง และได้ผลตอบรับไปในทางที่ดีอย่างล้นหลามเลยทีเดียว
“จริงๆ ก่อนโควิดจะมา เรามีแผนจะทำออนไลน์กันอยู่ก่อนแล้วค่ะ โดยวางคอนเซ็ปต์ไว้ว่า อยากให้ลูกค้าได้มีส่วนร่วมและประสบการณ์ดีๆ เรื่องกาแฟจากเรา พอโควิดมาก็เลยลงมือทำเลย เพราะเรามีความพร้อมอยู่แล้ว ตอนนี้ก็ทำมาได้ประมาณปีกว่าแล้วค่ะ ผลตอบรับถือว่าดีเลย เพราะปกติ ลูกค้าเราจะเป็นนักท่องเที่ยวจากจังหวัดอื่นๆ ที่มาเที่ยวอยุธยา พอช่วง Work From Home ลูกค้ามีความต้องการ เราก็ทำเสิร์ฟให้ได้เลย ทั้งสั่งซื้อออนไลน์ส่งฟรีทั่วประเทศ หรือจะดีลิเวอรี่ที่ทำเสิร์ฟให้ เราก็ได้ลูกค้าที่เป็นคนในพื้นที่เพิ่มขึ้นด้วย” คุณโน๊ต ว่าอย่างนั้น
โดยเมล็ดกาแฟของทางร้าน มีให้เลือกหลากหลายทั้งไทยและต่างประเทศ ซึ่งคุณโน๊ต บอกว่า กาแฟแต่ละประเทศ จะมีเอกลักษณ์ประจำตัว เพราะฉะนั้น ลูกค้าที่เข้ามามั่นใจได้เลยว่า ทางร้านจะมีกาแฟในแบบที่ลูกค้าชอบให้เลือกทานอย่างแน่นอน
“ความชอบของลูกค้าบางคนก็แตกต่างกัน บางคนชอบขม ไม่ขม รวมไปถึงกลิ่นต่างๆ ทางร้านเรามั่นใจว่า เรามีเมล็ดกาแฟให้ได้เลือกตรงตามความต้องการลูกค้าอย่างแน่นอน โดยเรามีเมล็ดกาแฟยืนพื้นอยู่ 6 ตัว ที่เรียกว่า Signature Blend และแต่ละเดือนจะมีการหมุนเวียนเมล็ดกาแฟรสชาติใหม่ๆ เข้ามาเดือนละ 5-6 ตัวสลับกันไปเพื่อสร้างความแปลกใหม่และประสบการณ์การดื่มกาแฟให้ลูกค้า”
“เพราะการทำร้านกาแฟ ไม่ใช่แค่ว่าจะเปิดร้านยังไง แต่เรามองว่า บาริสต้าของเราต้องมีความรู้และเข้าใจว่าตัวเองต้องทำอะไรให้คนที่เข้ามาเขามีส่วนร่วมและประทับใจด้วย ฉะนั้น บาริสต้าของเราจะได้รับการเทรนเรื่องกาแฟและการบริการ งานหลังการขายกันเยอะมาก เราเลยคิดว่า นอกจากเรื่องความหลากหลายของสินค้า ก็เป็นจุดนี้แหละ ที่มันทำให้ลูกค้ายังอยู่กับเรา โดยเฉพาะใน 2 เดือนแรกที่เกิดโควิด ออนไลน์เราโตเร็วมาก ขายได้เยอะกว่าหน้าร้านเรียกว่า 200% และเติบโตมาเรื่อยๆ เลย”
“นอกจากนั้นทางด้านเงินทุน เราก็ได้ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เข้ามาช่วย ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญอย่างมากกับทางร้าน หลายคนอาจจะมองว่าเป็นธุรกิจที่ ซื้อมา-ขายไป แต่ทางร้านก็ต้องมีทุนในการสต๊อกสินค้า เพื่อให้ทางร้านมียอดขายที่โตขึ้นได้” คุณโน๊ต เล่าอย่างนั้น
นอกจากนั้น คุณโน๊ต ยังกล่าวว่า ในอนาคต ก็ยังคงจะทำธุรกิจตัวนี้ให้ติดตลาดและพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ พร้อมทั้งขยายสาขาและการส่งออกไปยังต่างประเทศ ไม่ใช่แค่ตัวเมล็ดกาแฟ แต่เป็นฝีมือและผลงานของคนไทย ที่อยากให้ชาวต่างชาติได้ลิ้มลอง
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ The Summer Coffee Company
เผยแพร่เมื่อ วันพุธที่ 8 ธันวาคม พ.ศ.2564