ผู้เขียน | เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
นักธุรกิจสาว หนี้ท่วม 40 ล้าน เพียงข้ามคืน เพราะโควิด-19 ตั้งหลักใหม่ ปลดหนี้ได้ เพราะ หมูปิ้งไม้ละ 1.50 บาท
เป็นเวลากว่า 2 ปีแล้ว ที่การใช้ชีวิตของผู้คน รวมถึง สาธารณสุข การคมนาคม การจ้างาน ธุรกิจร้านรวงต่างๆ นั้นเปลี่ยนไป บ้างก็ดีขึ้น บ้างทรงตัว แต่ก็มีไม่น้อยที่ย่ำแย่ ซึ่ง คุณวาชิ-วชิราภรณ์ พงษ์วรัฎฐกุล วัย 37 ปี ก็เป็นหนึ่งในนั้น
เธอเล่าให้ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ฟังว่า เดิมทีเธอทำธุรกิจหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจโฮสเทล และการเปิดบริษัทไมโครไฟแนนซ์ ซึ่งแต่ละธุรกิจ เปิดมาได้เพียง 3-5 ปี เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ธุรกิจต่างๆ โดนผลกระทบโดยตรงจนเรียกได้ว่า พัง กันเลยทีเดียว

“พอโควิดมา เรียกว่า ธุรกิจพังเลยก็ว่าได้ เพราะโฮสเทลก็ไม่มีนักท่องเที่ยวมาพัก บริษัทไฟแนนซ์ก็โดนหนัก เพราะลูกค้าทำมาหากินไม่ได้ เขาก็ไม่มีเงินจะมาจ่ายเรา แล้วธุรกิจแต่ละอย่าง เพิ่งเริ่มทำได้ไม่นาน เจอแบบนี้มันก็ยากเกินที่เราจะควบคุมได้ ก็พังหมด เรียกว่ากลายเป็นคนมีหนี้ 40 ล้านเพียงข้ามคืนเลย ไหนจะเรามีปัญหาชีวิตอีก ประดังประเดจนแทบจะเดินต่อไม่ไหวเลยค่ะตอนนั้น” คุณวาชิ เล่า
เมื่อทราบว่าตัวเองเป็นหนี้เพียงข้ามคืนกว่า 40 ล้านบาท คุณวาชิถึงกับเครียด หมกตัวอยู่กับตัวเอง คิดทบทวนสะระตะว่าจะทำอย่างไรต่อกับชีวิตถึง 4 วัน จนเมื่อลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเธอติดต่อเข้ามาเพื่อขอเงิน จึงนำมาสู่การ สู้ อีกครั้งของเธอ
“จำได้ว่านอนเก็บตัวอยู่ 4 วันเลยค่ะ ปัญหามันมะรุมมะตุ้มจนไม่รับสายใครทั้งนั้น จนลูกโทรมาขอเงินจะไปซื้อข้าวกิน แต่เราไม่มีให้เขาเลย ก็ได้แต่บอกให้เขามีเหลือเท่าไหร่ ก็ออกเองไปก่อน แต่เขาก็บอกเรากลับมาว่า มีอยู่แค่ 1 บาท 50 สตางค์เองแม่ เราก็เลยพูดๆ กับเขาว่างั้นเดี๋ยวแม่ทำหมูปิ้งบาทห้าสิบให้กิน เพราะลูกเราก็ชอบกิน” คุณวาชิ ว่าอย่างนั้น
หลังจากตั้งสติได้ คุณวาชิก็นำทรัพย์สินที่มีขายใช้หนี้ เพื่อลดจำนวนหนี้ก่อนเป็นอันดับแรก จนเหลือหนี้อีกเพียง 10 กว่าล้านบาท จากนั้นจึงยืมเงินลูกน้องที่สนิทกัน ลงขันคนละนิดคนละหน่อย เพื่อให้มีทุนในการซื้อวัตถุดิบมาทำหมูปิ้ง
“เคลียร์อะไรเสร็จก็ทำหมูปิ้งเลยค่ะ เพราะเรารู้สึกว่าเราเสียเวลามามากพอแล้ว ก็ใช้เวลา 7 วัน ไปศึกษาหาความรู้เรื่องการขาย เพราะเราไม่เคยทำหมูปิ้งมาก่อน เมื่อก่อนมีพนักงานในความดูแล 40 กว่าคน เขาก็แยกย้ายกันไป จนเหลือประมาณ 14 คนที่เขาอยากจะสู้กับเราต่อ เราก็ยืมเงินเขาลงขันกับที่เรายังมีติดตัวบ้างไปซื้อของทำหมูปิ้ง โดยลงทุนครั้งแรก 3 พันบาท แล้วเราตั้งใจว่าจะขายไม้ละ 1 บาท 50 สตางค์ ก็ต้องคำนวณว่าทำออกมาแล้วจะขายได้ไหม คำนวณเรื่องการซื้อหมู ซื้อวัตถุดิบ ไม้เสียบนั่นนี่ จนสุดท้ายออกมาเป็นหมู 3 พันไม้”
“แรกๆ มันก็ยังไม่ได้กำไรหรอก กะทำขายแค่อาทิตย์เดียวด้วยซ้ำ แต่ปรากฏ 3 พันไม้ เราขายหมดในวันเดียวเลย มันเลยกลายเป็นว่า เรามีกำลังใจแล้ว และต้องทำมันให้ดีขึ้น ทำให้มากกว่าเดิม นานๆ เข้าก็ขายดีขึ้นทุกวัน เพราะมันถูกแต่หมูที่เราใช้มีคุณภาพ รวมถึงรสชาติที่มีแต่คนบอกว่าอร่อย จนทำให้เขากลับมาซื้อซ้ำกันเยอะ จากยอดจองหลักพัน ก็ขยับมาเป็นหลักหมื่นไม้ต่อวัน จนกลายเป็นบางเจ้าต้องจองเราข้ามเดือนก็มี เพราะลูกค้าเราไม่ใช่คนกำลังซื้อน้อยเพียงกลุ่มเดียว คนขับรถหรูๆ มาซื้อเราก็มี เพราะใครๆ ก็อยากได้ของถูกที่มีคุณภาพ ซึ่งมันก็เป็นการบอกต่อที่ดี” คุณวาชิ ว่าอย่างนั้น
นอกจากนั้น เจ้าของร้าน ยังเล่าอีกว่า เมื่อเห็นว่าขายหน้าร้านไปได้สวย แต่เพียงเท่านี้เธอมองว่าธุรกิจไม่มีทางเติบโต ต้องมีการขยายตลาดมาเป็นการขายส่ง จึงมีการจ้างคนมาช่วยเสียบไม้เพิ่มโดยให้ค่าแรงแบบเหมาด้วย
“จริงๆ มันเหนื่อยมากนะ เพราะธุรกิจกำลังดีๆ มาเจอโควิดตูมเดียว หนี้เพียบ แต่ตอนนี้ขายมาประมาณ 10 เดือนแล้ว เราก็ขายได้เรื่อยๆ ค่ะ โดย 9 พันไม้คือจำนวนที่พีกที่สุดที่เคยขายได้ที่หน้าร้าน ส่วนขายส่งก็มีจองเป็น 3 หมื่นกว่าไม้ ภายในระยะเวลา 5-6 เดือนที่ขายมา เราก็ถือว่าเราประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งแล้วค่ะ”
“วันหนึ่งเราเคยทำธุรกิจได้กำไรเป็นหมื่นเป็นแสน แต่มาขายหมูปิ้งตรงนี้ กำไรอาจจะไม่ได้เป็นกอบเป็นกำ ได้เป็นหลักเศษสตางค์ แต่เราเน้นขายเอาจำนวน มันก็เรียกว่าได้แหละ และก็ต้องทำ เพราะตอนนี้อะไรๆ มันก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว เลือกเอาง่ายๆ ว่า ถ้าในบัญชีมีเงินติดลบ หรือทำอะไรที่มันได้เงิน แม้มันจะเป็นเศษสตางค์ แต่พอมันได้มากๆ มันก็ไม่ติดลบ ยังไงเราก็เลือกทำ ถูกไหมคะ เราห่อเหี่ยว ท้อแท้ได้ แต่ต้องเดินหน้าต่อ” คุณวาชิ ว่าอย่างนั้น
ใครสนใจอยากรับไปขายบ้าง คุณวาชิ บอกว่า เธอไม่ได้กำหนดขั้นต่ำในการสั่งแต่อย่างใด เพียงแต่เธอขาย 1 แพ็ก 100 ไม้ ราคา 130 บาท อยากซื้อไปขายเท่าไหร่ก็ได้ สามารถติดต่อคุณวาชิ ได้ที่เพจ ตะวัน หมูปิ้ง
เผยแพร่เมื่อ วันพุธที่ 27 ตุลาคม พ.ศ.2564